วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559

ไฟรักปมแค้น6


 

            “ คุณแทคยอนครับ” นิชคุณใช้ปลายดินสอสะกิดมือหนาของคนอายุมากกว่าเบาๆ

            “ฮึ” เจ้าของบ้านละสายตาจากหน้าจอแมคบุ๊คเพื่อหันมองเด็กหนุ่มผิวขาวที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันมาก

            “เพื่อนคุณแทคยอนน่ะครับ” นิชคุณชำเลองมองชางมินเป็นเชิงบอกแทคยอนไปในตัว

            “ทำไมเหรอ” แทคยอนเลิกคิ้วมองชางมินและหันกลับมาสบตานิชคุณ

            “เค้าไม่พอใจอะไรผมรึเปล่า” นิชคุณเขียนตัวสือลงในกระดาษ เค้าส่งมันให้แทคยอนอ่านแทนคำพูด

            “เปล่าหรอก...หน้าหมอนั่นก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว” คนอายุมากกว่าตอบพลางยิ้มหวานใส่เด็กข้างๆ เค้าเก็บเศษกระดาษที่นิชคุณส่งมาให้ใส่ลงกระเป๋าตัวเอง

            “คุณแทคยอนดูเหมือนอายุน้อยกว่าเพื่อนคุณเลยนะครับ...คุณเคยเห็นเค้าตั้งแต่เค้าเกิดเลยเหรอ” นิชคุณถามคำถามแบบเด็กน้อยใสซื่อ

            55555” เจ้าของบ้านผิวเข้มหัวเราะเสียงใหญ่

            “มีอะไรน่าหัวเราะกันรึครับ” นิชคุณทำหน้าตาตื่น

            “เธอนี่น่ารักจริงๆนะ...นอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว..” คนตัวโตพูดจบก็ยกมือหนาของตนขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลอ่อนของเด็กตัวเล็กเบาๆ

            “อ๊า!!...ผมไม่ชอบเลย..” นิชคุณโคลงหัวตัวเองออกจากมือหนา

            “ขอโทษทีไม่ชอบให้ใครจับหัวใช่ไหม” แทคยอนชักมือกลับอย่างรวดเร็ว

            “เปล่าครับ...ผมไม่ชอบให้คนพูดว่าหน้าตาผมสวยหรือน่ารักเลย” เด็กผิวขาวทำเสียงขึ้นจมูกพลางปาดินสอในลงกล่องดินสอตรงหน้าตัวเอง

            “ทำไมล่ะ...การมีคนชม..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ควรจะดีใจนะ...เพราะมันดีกว่าการถูกตำหนิ”แทคยอนตอบพลางขมวดคิ้วเหม่อมองออกไปที่หน้าประตูบ้าน

            “ผมควรดีใจกับการที่คนอื่นชื่นชมปมด้อยของตัวเองด้วยรึครับ” นิชคุณเอียงคอถามแทคยอน

            “นายอาจคิดว่านั่นเป็นข้อเสียของนาย...แต่ในมุมมองคนอื่นเค้าเห็นมันเป็นข้อดี คำชมก็คือคำชม มันไม่ใช่คำประชด ถ้านายมองสถานการณ์ออก” แทคยอนให้ข้อคิด

            “งั้นรึครับ..คุณนี่เก่งจังนะครับ” นิชคุณเบะหน้าใส่แทคยอน

            “ประชดเหรอ” คนอายุมากกว่าสบตาคนอายุน้อย เค้าจ้องลึกเข้าไปดวงตาสีดำขลับ เค้าคิดว่าเด็กคนนี้หน้าคุ้นๆ แววตาแบบนี้เค้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่

            “นี่ใช่ไหมครับที่คุณบอกว่าสถานการณ์...ครับผมประชด” เด็กน้อยผิวขาวฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวๆซี่เล็กๆที่เหมือนเม็ดข้าวโพดเรียงตัวกัน

            “จะว่าอะไรไหม..ถ้าพี่ขอทำงานก่อน” แทคยอนพูดพลางยิ้มหวานจนตีนกาโชว์หรา

            “พี่...” นิชคุณทวนคำพูดแทคยอน

            “ไม่ได้เหรอ” แทคยอนตอบพลางทำงานงานตรงหน้าไปด้วย เค้ายิ้มหวานแต่ไม่ได้หันมองนิชคุณ

            “ครับได้ครับ” นิชคุณยิ้มรับ

 

หลังจากกุ๋ยออกจากบ้านไปในตอนเช้า ชางมินก็ตื่นมารับกะเช้าต่อจากแฟนสาวรุ่นน้อง ช่วงนี้ชางมินว่างงานเพราะเค้าพักงานสอนเพื่อมาดูแลแทคยอนเต็มเวลา แต่บางเวลาชางมินก็ต้องแวปไปดูลูกศิษย์ที่มหาลัยด้วยเช่นกัน กุ๋ยเรียนจบและบรรจุหมอทำให้เธอไม่มีเวลามาวนเวียนข้างตัวแทคยอนเหมือนแต่ก่อนแล้ว คนไข้ของเธออัปเปหิตัวเองออกมาจากโรงพยาบาล

            “แทค...ถึงเวลาแล้ว” ชางมินพาร่างตัวเองมายืนข้างเพื่อนผิวเข้มที่นั่งทำงานอยู่หน้าบ้านเพื่อรับอากาศของเย็นๆนอกบ้าน

            “อืม..” คนตัวโตเงยหน้ามองเพื่อนของตนก่อนจะลุกตามชางมินเข้าไปในบ้าน

            นิชคุณละงานตัวเอง เค้าหันมองเจ้าของบ้านเดินหายลับเข้าไปในตัวบ้านพร้อมเพื่อนหน้าโหดที่เอาแต่ทำหน้าเป็นตูดตั้งแต่เช้า เด็กน้อยผิวขาวได้แต่สงสัยกับคำพูดของชางมิน ถึงเวลาแล้วหมายถึงอะไร

 

            เวลาผ่านไปแค่เพียง5นาที อีชางมินก็เดินหน้านิ่วออกมาจากตัวบ้าน พร้อมถุงขยะสีดำใบขนาดย่อม

            “โทษทีนะครับ..ถ้าเธอจะรอแทคคงจะนานหน่อย...จะนั่งเล่นที่นี่ไปก่อนก็ได้...หรือจะกลับบ้านไปก่อนก็ได้...ถ้าเสร็จธุระแล้ว..พี่จะไปเรียก” อีชางมินพูดเสียงเย็น ถ้อยคำเชิงไล่ของชางมินทำให้นิชคุณรู้สึกแปลกใจ

            “เอ่อ...งั้นผมกลับไปทำงานที่บ้านต่อก็ได้ครับ” เด็กน้อยพูดจบก็รีบรวบรวมปากกาดินสอใส่กระเป๋าและรีบพาตัวเองกลับไปบ้าน

             เด็กน้อยผิวขาวกลับไปบ้านตัวเองเรียบร้อย ชางมินไล่เซฟงานให้แทคยอน จากนั้นเค้าก็เก็บคอมผิวเตอร์ของเพื่อนเข้าบ้านไปด้วย นิชคุณยืนมองจากข้างรั้วบ้าน เค้ารู้สึกแปลกๆตลอดเวลาที่เค้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ทุกคนในบ้านทำตัวประหลาดราวกับมีเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้

            “เด็กคนนั้นกลับไปแล้ว...” ชางมินบอกข่าวกับคนที่นอนบนเตียง

            “......” แทคยอนหันมองชางมิน

            “อย่ามองหน้าฉันแบบนั้นแทค...ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆคนป่วยแบบนาย...มันเกะกะ” ชางมินตอบกลับ

            “อืม” เพื่อนตัวโตเออออพลางหลับตาลง เค้าคงต้องหลับขณะรอให้น้ำเกลือหมดขวดและยาออกฤทธิ์

 

            เมื่อนิชคุณกลับเข้ามาในบ้านเค้าพบคุณอาพ่อของคิมจุนซูและตัวลูกชายคิมจุนซูนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศในตัวบ้านน่ากลัวมาก

            “มานี่คุณ” เสียงชายแก่เย็นเฉียบ

            “เอ่อครับ” เด็กน้อยผิวขาวเด็กตัวลีบเข้ามาในบ้าน เค้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

            “พ่อจะไม่พูดซ้ำคิม...คุณด้วย อาจะไม่พูดซ้ำอีก...อย่าไปยุ่งกับคนข้างบ้านที่ย้ายมาใหม่...และคิม...พ่อเสียใจที่ลูกขายบ้านโดยไม่บอกพ่อ” คิมจินยองออกคำสั่งกับลูกชายและหลานชายไปพร้อมกัน

            “พ่อไม่มีเหตุผลเลย...บ้านนี้มันบ้านผม...ผมจะขายให้ใครก็ได้..และเหตุผลของพ่อก็ฟังไม่ขึ้น...ทำไมพ่อต้องห้ามผมไปยุ่งกับเค้ากันล่ะ” จุนซูแย้งกลับอย่างไม่ยอมความ

            “นั่นสิครับ..ทำไมคุณอาถึงต้องห้ามด้วยล่ะครับ..ถ้าคุณอาจะห้ามคุณอาน่าจะบอกเหตุผลให้ผมรู้นะครับ” นิชคุณย่นคิ้วถามคุณอาของเค้าเช่นกัน

            “เด็กอย่างพวกเธอไม่ต้องรู้หรอก” คิมจินยองให้คำตอบหนักแน่น

            “พ่อเป็นอะไรครับ..ทำไมถึงทำอะไรไม่มีเหตุผลเลย” คิมจุนซูแหวขึ้นมา

            “.....”นิชคุณเงียบเสียงลง เค้าคิดว่าแค่ญาติผู้พี่อยู่ฝ่ายเดียวกับเค้า เค้าก็จะได้คำตอบโดยไม่ต้องเสียแรงพูดเพิ่มอีกคน

            “ห้ามแก2คนไปยุ่งกับเค้า..ไม่งั้นพ่อจะส่งแกไปดูงานที่สาขาย่อยแล้วไม่ต้องคิดว่าพ่อจะยอมให้เลขาหน้าบวมของแกติดสอยห้อยตามไปด้วยนะ...เธอด้วยคุณถ้าเราไม่ฟังคำพูดอา..อาจะส่งเธอกลับบ้าน” ชายแก่สูงอายุพูดพลางทำหน้าตาดุดัน เค้าพูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทันที

            “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” คิมจุนซูกระฟัดกระเฟียดหลังจากพ่อของเค้ายื่นคำขาด

นิชคุณนั่งนิ่งราวรูปสลักน้ำแข็งเค้างงกับสิ่งที่อาเค้าทำ ทำไมถึงห้ามเค้าไปยุ่งกับเพื่อนบ้าน

 

อีชางมินออกไปเก็บดอกไม้หน้าบ้านเพื่อมาปักแจกันให้แฟนสาว เค้าเหลือบมองไปที่ชายแก่ที่เดินออกจากบ้านเพื่อนบ้านตัวน้อย ใบหน้าของชายแก่ที่เค้าจำได้ดี ผู้ชายคนนี้คือคนที่เค้าเห็นที่โรงพยาบาลหลังที่แทคยอนโดนส่งตัวเข้ามาในโรงพยาบาล อีชางมินขยับตัวหลบหลังกำแพงบ้าน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้มาทำอะไรที่บ้านหลังนี้

อีชางมินเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ มีเพียงเค้าและอีจุนโฮอีกคนที่รู้จักคิมจินยอง นอกนั้นไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดในอดีต แม้แต่แทคยอนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ตกบ่ายแทคยอนก็ตื่นขึ้นมาเพราะชางมินไปปลุกมาทานข้าว เจ้าคนตัวโตทานข้าวได้นิดหน่อย จากนั้นก็นอนเป็นผักต่อไปหลังจากรับยาหลังอาหารเข้าไป

นิชคุณและจุนซูเดินวนไปวนมาในบ้าน พวกเค้าต่างกลุ่มใจทั้งคู่ ไม่มีคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ชางมินตัดสินใจจะไปถามนิชคุณเรื่องของจินยอง เค้าคาใจและอยากเตรียมรับมือกับปัญหา เพื่อนบ้านหน้าบูดเดินมากดออดหน้าบ้านเด็กหน้าสวย

            “คุณหนูคะ...คุณผู้ชายข้างบ้านอยากพบค่ะ” คนใช้วิ่งมาแจ้งข่าวกับนิชคุณ คนผิวขาวหันมองหน้าพี่ชายไม่แท้อย่างสับสน เค้าจจะทำยังไงดี

            “เอ่อ...บอกเค้า.. เอ้ย...บอกไปว่าฉันไม่ว่างตอนนี้” นิชคุณอึกอัก เค้ากลัวจะถูกส่งกลับบ้าน

            สาวใช้วิ่งออกไปบอกชางมิน และวิ่งกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกระดาษในมือ

            “คุณผู้ชายบ้านโน่นให้นี่มาค่ะ..เค้าบอกว่าเรื่องสำคัญกรุณาโทรกลับด้วย” สาวใช้ยื่นเสร็จกระดาษส่งให้หลานชายเจ้านาย

            “อ่อ..ครับ..ขอบคุณนะครับ” นิชคุณดูเลขในกระดาษ เค้าเหลือบมองหน้าพี่ชายแวปนึงก่อนจะหยิบมือถอขึ้นมากดเบอร์ของชางมิน

            “ครับ..นิชคุณครับ” นิชคุณโทรหาอีชางมินทันที คนปลายสายเขียนชื่อตัวเองกำกับลงมาในกระดาษ เด็กผิวขาวรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่เค้าไม่ได้เบอร์แทคยอนมา

            “ครับ..ชางมินนะครับ..ผมขอถามอะไรคุณอย่างนึงได้ไหมครับ” ชางมินถามน้ำเสียงเนิบนาบแต่เย็นชา

            “อ่อครับ..ได้ครับ” นิชคุณรู้สึกตุ๊ปๆต่อมๆในใจ

            “ผู้ชายสูงอายุที่แต่งตัวดีๆที่เพิ่งออกจากบ้านคุณไปเมื่อตอนเที่ยง..เค้าเป็นใครครับ”ชางมินยิงคำถามตรงๆ

            “เอ่ะ...อ้อ...เค้าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครับเป็นอาของผม” นิชคุณตอบ พลางรู้สึกประหลาดใจกับคำถามของอีชางมิน เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรื่องที่อาเค้าสั่งห้ามเค้าไปยุ่งกับคุณแทคยอนรึเปล่านิชคุณคิดในใจ

            “อาของเธอเหรอ...บ้าชิบ..อะไรโลกมันจะกลมแบบนี้วะ..แม่งเอ๊ย” ชางมันสบถยาว

สถบจบชางมินก็กดวางสายทิ้งทันที นิชคุณได้แต่ย่นคิ้วมองมือถือตัวเอง คิมมินจุนเลิกคิ้วมองน้องชายอย่างต้องการคำตอบ

ไฟรักปมแค้น6


 

            “ คุณแทคยอนครับ” นิชคุณใช้ปลายดินสอสะกิดมือหนาของคนอายุมากกว่าเบาๆ

            “ฮึ” เจ้าของบ้านละสายตาจากหน้าจอแมคบุ๊คเพื่อหันมองเด็กหนุ่มผิวขาวที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันมาก

            “เพื่อนคุณแทคยอนน่ะครับ” นิชคุณชำเลองมองชางมินเป็นเชิงบอกแทคยอนไปในตัว

            “ทำไมเหรอ” แทคยอนเลิกคิ้วมองชางมินและหันกลับมาสบตานิชคุณ

            “เค้าไม่พอใจอะไรผมรึเปล่า” นิชคุณเขียนตัวสือลงในกระดาษ เค้าส่งมันให้แทคยอนอ่านแทนคำพูด

            “เปล่าหรอก...หน้าหมอนั่นก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว” คนอายุมากกว่าตอบพลางยิ้มหวานใส่เด็กข้างๆ เค้าเก็บเศษกระดาษที่นิชคุณส่งมาให้ใส่ลงกระเป๋าตัวเอง

            “คุณแทคยอนดูเหมือนอายุน้อยกว่าเพื่อนคุณเลยนะครับ...คุณเคยเห็นเค้าตั้งแต่เค้าเกิดเลยเหรอ” นิชคุณถามคำถามแบบเด็กน้อยใสซื่อ

            55555” เจ้าของบ้านผิวเข้มหัวเราะเสียงใหญ่

            “มีอะไรน่าหัวเราะกันรึครับ” นิชคุณทำหน้าตาตื่น

            “เธอนี่น่ารักจริงๆนะ...นอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว..” คนตัวโตพูดจบก็ยกมือหนาของตนขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลอ่อนของเด็กตัวเล็กเบาๆ

            “อ๊า!!...ผมไม่ชอบเลย..” นิชคุณโคลงหัวตัวเองออกจากมือหนา

            “ขอโทษทีไม่ชอบให้ใครจับหัวใช่ไหม” แทคยอนชักมือกลับอย่างรวดเร็ว

            “เปล่าครับ...ผมไม่ชอบให้คนพูดว่าหน้าตาผมสวยหรือน่ารักเลย” เด็กผิวขาวทำเสียงขึ้นจมูกพลางปาดินสอในลงกล่องดินสอตรงหน้าตัวเอง

            “ทำไมล่ะ...การมีคนชม..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ควรจะดีใจนะ...เพราะมันดีกว่าการถูกตำหนิ”แทคยอนตอบพลางขมวดคิ้วเหม่อมองออกไปที่หน้าประตูบ้าน

            “ผมควรดีใจกับการที่คนอื่นชื่นชมปมด้อยของตัวเองด้วยรึครับ” นิชคุณเอียงคอถามแทคยอน

            “นายอาจคิดว่านั่นเป็นข้อเสียของนาย...แต่ในมุมมองคนอื่นเค้าเห็นมันเป็นข้อดี คำชมก็คือคำชม มันไม่ใช่คำประชด ถ้านายมองสถานการณ์ออก” แทคยอนให้ข้อคิด

            “งั้นรึครับ..คุณนี่เก่งจังนะครับ” นิชคุณเบะหน้าใส่แทคยอน

            “ประชดเหรอ” คนอายุมากกว่าสบตาคนอายุน้อย เค้าจ้องลึกเข้าไปดวงตาสีดำขลับ เค้าคิดว่าเด็กคนนี้หน้าคุ้นๆ แววตาแบบนี้เค้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่

            “นี่ใช่ไหมครับที่คุณบอกว่าสถานการณ์...ครับผมประชด” เด็กน้อยผิวขาวฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวๆซี่เล็กๆที่เหมือนเม็ดข้าวโพดเรียงตัวกัน

            “จะว่าอะไรไหม..ถ้าพี่ขอทำงานก่อน” แทคยอนพูดพลางยิ้มหวานจนตีนกาโชว์หรา

            “พี่...” นิชคุณทวนคำพูดแทคยอน

            “ไม่ได้เหรอ” แทคยอนตอบพลางทำงานงานตรงหน้าไปด้วย เค้ายิ้มหวานแต่ไม่ได้หันมองนิชคุณ

            “ครับได้ครับ” นิชคุณยิ้มรับ

 

หลังจากกุ๋ยออกจากบ้านไปในตอนเช้า ชางมินก็ตื่นมารับกะเช้าต่อจากแฟนสาวรุ่นน้อง ช่วงนี้ชางมินว่างงานเพราะเค้าพักงานสอนเพื่อมาดูแลแทคยอนเต็มเวลา แต่บางเวลาชางมินก็ต้องแวปไปดูลูกศิษย์ที่มหาลัยด้วยเช่นกัน กุ๋ยเรียนจบและบรรจุหมอทำให้เธอไม่มีเวลามาวนเวียนข้างตัวแทคยอนเหมือนแต่ก่อนแล้ว คนไข้ของเธออัปเปหิตัวเองออกมาจากโรงพยาบาล

            “แทค...ถึงเวลาแล้ว” ชางมินพาร่างตัวเองมายืนข้างเพื่อนผิวเข้มที่นั่งทำงานอยู่หน้าบ้านเพื่อรับอากาศของเย็นๆนอกบ้าน

            “อืม..” คนตัวโตเงยหน้ามองเพื่อนของตนก่อนจะลุกตามชางมินเข้าไปในบ้าน

            นิชคุณละงานตัวเอง เค้าหันมองเจ้าของบ้านเดินหายลับเข้าไปในตัวบ้านพร้อมเพื่อนหน้าโหดที่เอาแต่ทำหน้าเป็นตูดตั้งแต่เช้า เด็กน้อยผิวขาวได้แต่สงสัยกับคำพูดของชางมิน ถึงเวลาแล้วหมายถึงอะไร

 

            เวลาผ่านไปแค่เพียง5นาที อีชางมินก็เดินหน้านิ่วออกมาจากตัวบ้าน พร้อมถุงขยะสีดำใบขนาดย่อม

            “โทษทีนะครับ..ถ้าเธอจะรอแทคคงจะนานหน่อย...จะนั่งเล่นที่นี่ไปก่อนก็ได้...หรือจะกลับบ้านไปก่อนก็ได้...ถ้าเสร็จธุระแล้ว..พี่จะไปเรียก” อีชางมินพูดเสียงเย็น ถ้อยคำเชิงไล่ของชางมินทำให้นิชคุณรู้สึกแปลกใจ

            “เอ่อ...งั้นผมกลับไปทำงานที่บ้านต่อก็ได้ครับ” เด็กน้อยพูดจบก็รีบรวบรวมปากกาดินสอใส่กระเป๋าและรีบพาตัวเองกลับไปบ้าน

             เด็กน้อยผิวขาวกลับไปบ้านตัวเองเรียบร้อย ชางมินไล่เซฟงานให้แทคยอน จากนั้นเค้าก็เก็บคอมผิวเตอร์ของเพื่อนเข้าบ้านไปด้วย นิชคุณยืนมองจากข้างรั้วบ้าน เค้ารู้สึกแปลกๆตลอดเวลาที่เค้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ทุกคนในบ้านทำตัวประหลาดราวกับมีเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้

            “เด็กคนนั้นกลับไปแล้ว...” ชางมินบอกข่าวกับคนที่นอนบนเตียง

            “......” แทคยอนหันมองชางมิน

            “อย่ามองหน้าฉันแบบนั้นแทค...ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆคนป่วยแบบนาย...มันเกะกะ” ชางมินตอบกลับ

            “อืม” เพื่อนตัวโตเออออพลางหลับตาลง เค้าคงต้องหลับขณะรอให้น้ำเกลือหมดขวดและยาออกฤทธิ์

 

            เมื่อนิชคุณกลับเข้ามาในบ้านเค้าพบคุณอาพ่อของคิมจุนซูและตัวลูกชายคิมจุนซูนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศในตัวบ้านน่ากลัวมาก

            “มานี่คุณ” เสียงชายแก่เย็นเฉียบ

            “เอ่อครับ” เด็กน้อยผิวขาวเด็กตัวลีบเข้ามาในบ้าน เค้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

            “พ่อจะไม่พูดซ้ำคิม...คุณด้วย อาจะไม่พูดซ้ำอีก...อย่าไปยุ่งกับคนข้างบ้านที่ย้ายมาใหม่...และคิม...พ่อเสียใจที่ลูกขายบ้านโดยไม่บอกพ่อ” คิมจินยองออกคำสั่งกับลูกชายและหลานชายไปพร้อมกัน

            “พ่อไม่มีเหตุผลเลย...บ้านนี้มันบ้านผม...ผมจะขายให้ใครก็ได้..และเหตุผลของพ่อก็ฟังไม่ขึ้น...ทำไมพ่อต้องห้ามผมไปยุ่งกับเค้ากันล่ะ” จุนซูแย้งกลับอย่างไม่ยอมความ

            “นั่นสิครับ..ทำไมคุณอาถึงต้องห้ามด้วยล่ะครับ..ถ้าคุณอาจะห้ามคุณอาน่าจะบอกเหตุผลให้ผมรู้นะครับ” นิชคุณย่นคิ้วถามคุณอาของเค้าเช่นกัน

            “เด็กอย่างพวกเธอไม่ต้องรู้หรอก” คิมจินยองให้คำตอบหนักแน่น

            “พ่อเป็นอะไรครับ..ทำไมถึงทำอะไรไม่มีเหตุผลเลย” คิมจุนซูแหวขึ้นมา

            “.....”นิชคุณเงียบเสียงลง เค้าคิดว่าแค่ญาติผู้พี่อยู่ฝ่ายเดียวกับเค้า เค้าก็จะได้คำตอบโดยไม่ต้องเสียแรงพูดเพิ่มอีกคน

            “ห้ามแก2คนไปยุ่งกับเค้า..ไม่งั้นพ่อจะส่งแกไปดูงานที่สาขาย่อยแล้วไม่ต้องคิดว่าพ่อจะยอมให้เลขาหน้าบวมของแกติดสอยห้อยตามไปด้วยนะ...เธอด้วยคุณถ้าเราไม่ฟังคำพูดอา..อาจะส่งเธอกลับบ้าน” ชายแก่สูงอายุพูดพลางทำหน้าตาดุดัน เค้าพูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทันที

            “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” คิมจุนซูกระฟัดกระเฟียดหลังจากพ่อของเค้ายื่นคำขาด

นิชคุณนั่งนิ่งราวรูปสลักน้ำแข็งเค้างงกับสิ่งที่อาเค้าทำ ทำไมถึงห้ามเค้าไปยุ่งกับเพื่อนบ้าน

 

อีชางมินออกไปเก็บดอกไม้หน้าบ้านเพื่อมาปักแจกันให้แฟนสาว เค้าเหลือบมองไปที่ชายแก่ที่เดินออกจากบ้านเพื่อนบ้านตัวน้อย ใบหน้าของชายแก่ที่เค้าจำได้ดี ผู้ชายคนนี้คือคนที่เค้าเห็นที่โรงพยาบาลหลังที่แทคยอนโดนส่งตัวเข้ามาในโรงพยาบาล อีชางมินขยับตัวหลบหลังกำแพงบ้าน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้มาทำอะไรที่บ้านหลังนี้

อีชางมินเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ มีเพียงเค้าและอีจุนโฮอีกคนที่รู้จักคิมจินยอง นอกนั้นไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดในอดีต แม้แต่แทคยอนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ตกบ่ายแทคยอนก็ตื่นขึ้นมาเพราะชางมินไปปลุกมาทานข้าว เจ้าคนตัวโตทานข้าวได้นิดหน่อย จากนั้นก็นอนเป็นผักต่อไปหลังจากรับยาหลังอาหารเข้าไป

นิชคุณและจุนซูเดินวนไปวนมาในบ้าน พวกเค้าต่างกลุ่มใจทั้งคู่ ไม่มีคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ชางมินตัดสินใจจะไปถามนิชคุณเรื่องของจินยอง เค้าคาใจและอยากเตรียมรับมือกับปัญหา เพื่อนบ้านหน้าบูดเดินมากดออดหน้าบ้านเด็กหน้าสวย

            “คุณหนูคะ...คุณผู้ชายข้างบ้านอยากพบค่ะ” คนใช้วิ่งมาแจ้งข่าวกับนิชคุณ คนผิวขาวหันมองหน้าพี่ชายไม่แท้อย่างสับสน เค้าจจะทำยังไงดี

            “เอ่อ...บอกเค้า.. เอ้ย...บอกไปว่าฉันไม่ว่างตอนนี้” นิชคุณอึกอัก เค้ากลัวจะถูกส่งกลับบ้าน

            สาวใช้วิ่งออกไปบอกชางมิน และวิ่งกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกระดาษในมือ

            “คุณผู้ชายบ้านโน่นให้นี่มาค่ะ..เค้าบอกว่าเรื่องสำคัญกรุณาโทรกลับด้วย” สาวใช้ยื่นเสร็จกระดาษส่งให้หลานชายเจ้านาย

            “อ่อ..ครับ..ขอบคุณนะครับ” นิชคุณดูเลขในกระดาษ เค้าเหลือบมองหน้าพี่ชายแวปนึงก่อนจะหยิบมือถอขึ้นมากดเบอร์ของชางมิน

            “ครับ..นิชคุณครับ” นิชคุณโทรหาอีชางมินทันที คนปลายสายเขียนชื่อตัวเองกำกับลงมาในกระดาษ เด็กผิวขาวรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่เค้าไม่ได้เบอร์แทคยอนมา

            “ครับ..ชางมินนะครับ..ผมขอถามอะไรคุณอย่างนึงได้ไหมครับ” ชางมินถามน้ำเสียงเนิบนาบแต่เย็นชา

            “อ่อครับ..ได้ครับ” นิชคุณรู้สึกตุ๊ปๆต่อมๆในใจ

            “ผู้ชายสูงอายุที่แต่งตัวดีๆที่เพิ่งออกจากบ้านคุณไปเมื่อตอนเที่ยง..เค้าเป็นใครครับ”ชา'มินยิงคำถามตรงๆ

            “เอ่ะ...อ้อ...เค้าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครับเป็นอาของผม” นิชคุณตอบ พลางรู้สึกประหลาดใจกับคำถามของอีชางมิน เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรื่องที่อาเค้าสั่งห้ามเค้าไปยุ่งกับคุณแทคยอนรึเปล่านิชคุณคิดในใจ

            “อาของเธอเหรอ...บ้าชิบ..อะไรโลกมันจะกลมแบบนี้วะ..แม่งเอ๊ย” ชางมันสบถยาว

สถบจบชางมินก็กดวางสายทิ้งทันที นิชคุณได้แต่ย่นคิ้วมองมือถือตัวเอง คิมมินจุนเลิกคิ้วมองน้องชายอย่างต้องการคำตอบ

คล้องรักจับเธอ10


หลังจากนิชคุณย้ายเข้าบ้านแทคยอนเรียบร้อย ทั้งคู่ก็กลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข แทคยอนไปมหาลัยและเค้าไม่ค่อยไม่มีเวลาว่างสำหรับการมีแฟนสักเท่าไหร่ ในขณะที่นิชคุณก็เทียวไปเทียวมาระหว่างตึกเรียนคณะตัวเองกับคณะแพทย์ เหตุผลก็ง่ายๆตามสไตส์พวกข้าวใหม่ปลามันไม่เห็นหน้ากันแล้วใจมันไม่สงบ และทุกวันหลังเลิกเรียนนิชคุณก็จะเป็นฝ่ายไปนั่งรอเจ้าแมวตัวโตทุกวัน  และทั้งคู่ก็จะกลับบ้านพร้อมกันโดยที่นิชคุณจะไล่ให้หมีชานกลับบ้านกับพวกพี่คิมเพราะเค้าอยากมีเวลาอยู่ด้วยกัน2ต่อสองบ้าง

"แทค.." คนผิวขาวคลานขึ้นเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่มีคนตัวโตนอนอ่านหนังสืออยู่

"มีอะไรรึเปล่าครับ" แทคยอนเหลี้ยวหลังมองคนผิวขาวที่ขยับกายเข้ามาใกล้เค้ามากขึ้น

"อ่านอะไรอยู่น่ะ" นิชคุณขยับตัวดุ๊กดิ๊กๆมาจนใบหน้าเค้าอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าแทคยอน

"ประวัติศาสตร์โลกครับ..อีก3วันคุณชานมีสอบครับ" แทคยอนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ

"จะไม่ติวกับคุณบ้างเหรอ" นิชคุณยกนิ้วมือขึ้นจับปรอยผมที่ต้นคอแทคยอนเบาๆ

"นิชคุณชีมีสอบเหรอครับ.." แทคยอนเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย เค้าคิดว่าเค้าจำตารางเรียนของนิชคุณได้ทั้งหมดแล้วเชียว หรือบางทีอจ.อาจเพิ่งแจ้งข่าวก็ได้

 
"ไม่มีสอบหรอก..แต่คุณอยากติวแบบอื่นมากกว่า" คนผิวขาวกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ พร้อมยิ้มหวานส่งวิงค์ละลายใจสาวให้คนบนเตียง

"ติวแบบอื่น?" คนตัวโตยังคงไม่เข้าใจความหมาย นิ้วมือเรียวยาวยังคงพลิกกระดาษหนังสือหน้าต่อไป พร้อมทั้งปรายตาไปอ่านหนังสือโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ที่นิชคุณสื่อ

"แทค!!..หมีชานสำคัญกว่าคุณรึไง" นิชคุณเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งพร้อมกดหัวคนตัวโตจนหน้าทิ่มไปกับหนังสือเล่มหนา

"คะ..คุณ..เจ็บ..คุณเป็นอะไรครับเนี่ย" แทคยอนยันตัวลุกขึ้นมานั่ง เค้าดึงแว่นตาออกจากหน้ามีรอยบานพับกดเข้าที่สันจมูกแทคยอนแดงเป็นปรื้นช้ำ

"ขะ..ขอโทษ..เป็นอะไรไหม" นิชคุณลนลาน

คนตัวโตพยายามจะใส่แว่นแต่เค้ามองอะไรไม่ชัดสักอย่าง

"นายเป็นอะไรน่ะ" นิชคุณหน้าตาตื่นมากขึ้นไปอีกเมื่อคนแทคยอนควานมือไปทั่ว

"ผมมองไม่ชัดเลย.." แทคยอนเปะป่ะมือไปทั่วจนมือไปสัมผัสกับหน้าขาคนผิวขาว

"โอ๊ะ!!..ผมขอโทษ"แทคยอนพอเดาได้ว่ามือเค้าไปแตะโดนอะไรเข้า เค้ารีบชักมือออกทันที

"จับอีกสิ..นะ" นิชคุณเก็บแว่นไปวางหัวเตียง เค้าพยายามหลอกล่อคนตัวใหญ่

"จะ..จับทำไมครับ"คนตัวโตพูดเสียงตะกุกตะกัก

"จับก่อนแล้วจะคืนแว่นให้นะ..ไม่อยากได้แว่นคืนเหรอ" คนผิวขาวลุกคืบเข้ามานั่งตรงหน้าแทคยอนเค้าโน้มหน้าเข้าใกล้ใบหูแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบหวาน

"ผม..มองไม่เห็น" แทคยอนยกมือขึ้นปิดหูตัวเอง ใบหน้าเค้าแดง เลือดในกายเค้าร้อนขึ้นมาแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
"จินตนาการเอาสิ..เดี๋ยวคุณสอนให้นะ "คนผิวขาวรั้งข้อมือคนผิวเข้มลงมาแตะที่หว่างขาตัวเองและไล้ลิ้นไปมาที่ติ่งหูคนผิวเข้มเบาๆ

"อ่า..อั่ก..อ๊า "แทคยอนสะดุ้งขนลุกซู่จากการโดนสัมผัสที่จุดไวสัมผัส

"อ่า..แทค..อือ" คนผิวขาวสอดถกกางเกงตัวเองลงนิดหน่อย เค้าดันแก่นกายหนาเข้าในอุ้มมือคนตัวโต เค้าสอนและคอยประคองมือคนตัวโตให้รูดรั้งแก่นกายเค้าตามจังหวะที่เค้ากำหนด

".อือ.."แทคยอนหลับตาแน่นเพราะอายต่อความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านมาทางริมฝีปากอวบอิ่มที่ซุกไซ้ ดูดดึงผิวกายเค้าตั้งแต่ใบหูจนถึงลำคอ

"จูบได้ไหม" คนผิวขาวขอร้องด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแต่ยังไม่ทันที่แทคยอนจะให้คำตอบ ริมฝีปากอวบอิ่มก็บดขยี้ริมฝีปากบางหยักของเจ้าแมวยักษ์เสียแล้ว

"อือ..อีก..สิ" นิชคุณขยับสะโพกเพิ่มเค้าใกล้ถึงจุดปลดปล่อยแล้ว คนผิวขาวโหมจูบ ดูดดึงลิ้นหนาไม่ปล่อยจนคนตัวโตหอบกระเส้าแผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลงเร็วและแรง

"อือ..อา"แทคยอนรู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ คนตัวโตสะดุ้งโหยงเมื่อคนผิวขาวละมือจากแผ่นหลังของเค้ามาที่เจ้าแมวน้อยที่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ

"เฮ้ยคุณ!!..ติวข้อสอบวิชาภาษอังกฤษให้หน่อย" ชานซองเปิดประตูห้องนอนของแทคยอนเข้ามา เค้าอึ้งจนพูดไม่ออก เพื่อนตัวขาวอยู่ในสภาพเกือบเปลือยและดูเหมือนกำลังใกล้ถึงจุดในขณะที่อีกคนที่นอนอยู่ด้านล่างก็ดูเหมือนพร้อมใจจะโดนเพื่อนเค้าเขมือบ

 "โทษทีเพื่อน..ต่อเลย..ลืมเรื่องที่ชานพูดไปซะ" ชานชองถอยหลังแล้วปิดประตูอย่างไว

คนผิวขาวกำลังเริ่มนวดคลึงแก่นกายของเจ้าแมวบนเตียงเบาๆ  แมวน้อยครางเสียงหวานชนิดที่ชานชองได้ยินแล้วเลือดดำเดาแทบไหล

"คุณ..พอก่อนไม่เอาแล้ว" แทคยอนเห็นชานชองซองที่หน้าประตูเค้าตกใจจนรีบสะบัดมือตัวเองออกจากแก่นกายคนผิวขาว เค้ารีบดึงผ้าขึ้นมาคลุมตัวเองจนมิด

"อ่า..บ้าเอ๊ย!!..บ้าชิบ..ไอ้หมีนิสัยไม่ดี" คนผิวขาวตะโกนลั่นห้องแต่ชานชองไม่ได้ยิน

ทั้งนิชคุณและแทคยอนต่างแต่งตัวออกมาจากห้องนอน แทคยอนมองปลายเท้าตัวเองตลอดเวลาเค้าไม่กล้ามองหน้าชานชอง นิชคุณเดินหน้าเป็นตูดออกมา เค้าจ้องหมีชานตาเขียวปั๊ด
 

"มาทำบ้าอะไรทำไม แถมเข้าบ้านคนอื่นแบบไม่ขออนุญาติด้วย"นิชคุณบ่นเสียงเขียว

 ควานชานชองโชว์กุญแจบ้านดอกเล็กๆให้นิชคุณดู


“เจ้าของบ้านอนุญาติแล้ว...ที่สำคัญที่นี่ไม่ใช่บ้านคุงคุงสักหน่อย” หมีชานฉีกยิ้ม

"นิชคุณชีครับ" แทคยอนเดินมาประชิดตัวแบบที่นิชคุณไม่ทันตั้งตัว คนผิวเข้มกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ

"อยากจะติวให้ควานชีแค่3วันรึตลอดปิดเทอมฤดูร้อนครับ" แทคยอนยิ้มอายๆก่อนจะปลีกตัวออกไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารให้ชานชองในมื้อกลางวัน


"เด็กนายมีพัฒนาการที่ดีขึ้น..แต่คุงคุง Qต่ำลงนะ.." ชานชองกระแซะเพื่อนซี้

คนผิวขาวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที การที่เค้าถูกเบรคกลางคันนั่นก็แย่พอควรอยู่แล้ว แต่พอถูกแทคยอนยั่วเมื่อครู่ทำเอาเค้ากลั้นอารมณ์ไม่อยู่เลยทีเดียว

คล้องรักจับเธอ9


หญิงสาวสูงวัยและลูกชายพูดคุยกันระหว่างรอคุณหมอตรวจดูอาการให้แทคยอน เมื่อคุณหมอจัดการกับคนป่วยเสร็จก็ออกมารายงานผล คุณหมอจัดยาสำหรับทำแพ้และยาลดไข้ไว้ให้จำนวนนึงก่อนที่จะกลับไปพร้อมกับคุณแม่ของนิชคุณ

“กินข้าวกันแทค...เออ...ดะเดี๋ยวคุณเอาข้าวมาให้นะ” คนผิวขาวสบตาเจ้าแมวยักษ์แวบนึงก่อนจะติดตีนหมาออกจากห้องนอนเจ้าของบ้าน

คนผิวขาวส่งถาดอาหารให้คนบนเตียงและรีบร้อนออกไปรับพัสดุจากคุณแม่ของเค้า พัสดุที่ส่งมาทำเอานิชคุณตาค้าง ดูเหมือนว่าคุณแม่เค้าจะคิดว่านี่เป็นที่นี่เป็นบ้านลูกชายมากกว่าเป็นบ้านเพื่อนลูกชาย

แม่น้า....ทำอะไรไม่ขอเจ้าของบ้านก่อนเลย..แล้วถ้าแทคไม่ให้ผมเอาของเข้าบ้านผมจะทำยังไงล่ะเนี่ย นิชคุณคิดอย่างละเหี่ยใจ แค่คำขอโทษก็ยากแล้ว นี่ยังต้องขอมาอยู่ด้วยอีก

“เอาของเข้าบ้านสิ” เสียงปริศนาดังขึ้นข้างตัวนิชคุณ

“หว๋า!!...อย่ามาเงียบๆสิ” คนผิวขาวสะดุ้งโหยงตัวลอยเพราะเค้ามันแต่คิดนั่นนู่นนี่อยู่เลยไม่ทันได้ระวังตัวเอง

“ของน้อยกว่าที่คิดนะครับ...” คนตัวโตพูดจบก็เดินตัวปลิวไปคว้ากระเป๋าใบโตนำเข้าบ้าน

“เดี๋ยว!!...แทคนายมือเจ็บนะ..” คนผิวขาวร้องเสียงหลง รีบปรี่ตัวไปแย่งของในมือเจ้าแมวยักษ์

“ผมเจ็บมือขวา...มือซ้ายผมปกติดี” คนตัวโตก้มหน้ามองมือขาวที่คว้ามือซ้ายเค้าไว้

ปุ๊ก!!

“อ๊า” เจ้าคนตัวขาวร้องลั่นพร้อมชักเท้าออกจากกระเป๋าใบโต เค้าโดดเย๋งๆ ไปมา สองมือกุมปลายนิ้วเท้าตัวเองไว้มั่น

“โอ๊ะ” แทคยอนเบิกตาโต กัดฟันแน่น ดูเหมือนเจ้าแมวจะตกใจที่โดนจับมือเค้าเลยปล่อยกระเป๋าใบโตตกใส่เท้าของนิชคุณ

“ผมขอโทษ” เจ้าแมวยักษ์ทำหน้าแหย

“มะ..ไม่เป็นไร..ไม่เจ็บเลย..ฮ่า..ฮะ..ฮะ”  นิชคุณรีบตอบปฎิเสธเมื่อเค้ารู้ตัวว่าเค้าทำให้แทคยอนตกใจ

“รีบขนของเข้าบ้านเถอะครับ...ข้างนอกนี่ร้อนยังกับเตาปิ้ง” แทคยอนออกความคิดเห็นแล้วก็รีบคว้ากระเป๋าใบเดิมตรงเข้าบ้าน

เมื่อทั้งสองขนของเข้าบ้านทั้งหมดแล้ว แทคยอนก็ยกห้องให้นิชคุณหนึ่งห้อง ส่วนพื้นที่ในบ้าน เค้าบอกว่าให้คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง เจ้าของบ้านดูไม่ไม่ใช่พวกคนหวงของซักเท่าไหร่

“แล้วบ้านหลังนั้นล่ะ...หลังเล็กๆน่ะ...แล้วใครจะอยู่ที่นั่น” นิชคุณถามอย่างฉงลใจ

“ควอนครับ..ผมยกบ้านหลังนั้นให้เธอ” แทคยอนตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ควอนไหน” คนผิวขาวเอียงคอสงสัย

“เพื่อนบ้านผมครับ..” แทคยอนตอบเสียงเนิบนาบขณะช่วยเรียงหนังสือขึ้นชั้นวางของ

“ผู้หญิงสวยๆคนนั้นเหรอ” คนผิวขาวทำเสียงขึ้นจมูก ใบหน้าขาวมีปมย่นที่หัวคิ้ว

“ผู้หญิง....อ้อ...ครับ..คนนั้นแหละ” แทคยอนทำหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจนควอนชอบแต่งคอสร์เพลเด็กสาว

“ถึงขั้นยกบ้านให้เพื่อนบ้านนี่...รึว่า...นายกับเธอ” นิชคุณพูดพลางย่นคิ้ว จมูกปากไปพร้อมกันด้วยความหึงหวง

5555ฟ้าผ่าพอดีครับ...” แทคยอนออกความเห็นอย่างรวดเร็ว

“ทำไมฟ้าต้องผ่าล่ะ” นิชคุณเลิกคิ้วมองคนตัวโตที่ขยับตัวมายืนเคียงของข้างตัวเค้า

“ผมเป็นผู้ชาย...ควอนเป็นผู้ชาย..ฟ้าจะไม่ผ่าได้ไงล่ะครับ” แทคยอนก้มหน้าลงมองใบหน้าขาวๆที่ทำหน้าเหมือนเจอผีหลอก

“เอ่อ...หรอ” คนผิวขาวกลืนน้ำลายเฮือกเค้าไม่ได้เข้าใจหรอกว่าควอนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ที่เค้าตกใจคือ คำว่าฟ้าผ่ามากกว่า

 งั้นคุณก็ฝันไปสินะที่แทคบอกว่ารักคุณน่ะ คนผิวขาวก้มหัวลงมองปลายเท้าตัวเอง

“เป็นอะไรไปครับ...” แทคยอนก้มหน้าลงมองคนข้างตัวที่อยู่ๆก็เงียบไป แถมยังเอาแต่จ้องพื้นบ้านด้วย

“นิชคุณชี...พื้นบ้านมันมีอะไรหรอครับ” แทคยอนสะกิดไหล่ของคนข้างตัว

“อ๊ะ...เปล่า...ชอบนะ” นิชคุณสะดุ้งโหยง

“ชอบพื้นแบบนี้เหรอครับ...ผมก็ว่ามันเย็นเท้าดีครับ” คนตัวโตฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวครบ32ซี่

“อ๊ะ...อืม..เย็นดีเนอะ” นิชคุณรู้สึกว่าเค้าควรจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเลย

“จัดของเสร็จแล้วผมจะไปจ่ายตลาด..คุณจะไปด้วยไหมครับ..” แทคยอนออกความเห็นท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมไปทั่ว

“นายอยากให้ฉันไปไหมล่ะ” คนผิวขาวยียวน

“ผมยังไงก็ได้..แต่ถ้าได้คนช่วยถือของก็ดีครับ” แทคยอนยิ้มแห้งๆ

“งั้นฉันจะช่วยนายถือของ” นิชคุณตอบตกลง ใบหน้าหวานยิ้นเศร้าๆ

“เหมือนคุณไม่อยากไปเลย...ผมไม่บังคับนะ” แทคยอนเอียงคอมองคนตัวเล็กกว่า

“รีบจัดของเถอะ...ฉันหิวแล้ว” นิชคุณเลี่ยงที่จะตอบคำถามและเลี่ยงที่จะมองหน้าเจ้าของบ้าน

                แทคยอนพานิชคุณขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินมาโผล่ตลาดปลา  ซึ่งมันมีป้ายตัวเป้งแปะอยู่เลยทำให้นิชคุณรู้คร่าวๆ เจ้าคนผิวขาวก้าวเท้ายาวๆตามคนตัวโตต่อยๆ

            “ทำไมต้องมาตลาดปลาล่ะ...จะซื้อของสดเราไปซุปเปอร์มาเก็ตก็ได้นี่” นิชคุณออกความคิดเห็นขณะมองซ้ายมองขวาหน้าตาตื่นกับความมโหราฬของเจ้าสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดที่นอนนิ่งในตู้กระจกตามทางเดิน

            “ผมชอบของสด..ที่ยังไม่ตาย...พอเราได้มันไป..เราก็จัดการเฉือดมันช้าๆ...หึหึ..เลือดงี้สาดกระจาย..”แทคยอนทำเสียงเย็นเฉียบประกอบท่าทำมือเฉือดคอ

            “อึ้ย!!...โรคจิตอ่ะ” คนผิวขาวทำหน้าแหย๋

            “คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ...ผมอยากทำยำปลาหมึก...แล้วก็ว่าจะผัดซัมจางกินกับกิมจิไชเท้า” แทคยอนแสนอาเมนูอาหาร

            “ฉันอยากกินหมูสามชั้น” คนผิวขาวทำตาวาวเมื่อพูดถึงอาหารประเภทเดินดินในตลาดปลา

            “เอาที่มีในทะเลสิครับ”แทคยอนตอบพลางขมวดคิ้วมองคนตัวขาวที่กำลังมโนเพ้อพบถึงสิ่งมีชีวิต4ขาและชอบกินรำข้าว

            “อ้าว...ก็นายไม่ได้บอกก่อนนี่” นิชคุณตอบพร้อมหยู่ปาก

            “ฉันกินได้หมดแหละ..ขอแค่มันอร่อย” คนผิวขาวตอบหน้าชื่นตาบาน

            “งั้นทานอย่าให้เหลือนะครับ” แทคยอนยิ้มโชว์ฟันอีกครั้ง รอยยิ้มสดใสทำเอาหัวใจคนเดินข้างๆเต้นไม่เป็นจังหวะ

            ฉันอยากทานนายด้วย...รับลอง..ไม่เหลือหรอก..บางทีอาจหมดก่อนได้กินข้าว คนผิวขาวคิดอย่างสมเภพตัวเอง

            “โอ๊ะ...เอานี่แหละ..” เจ้าแมวตัวโตตรงปรี่เข้าไปหาเจ้าปลาหมึกตัวโตที่นอนเทงเต้งแผ่หราบนแผงน้ำแข็ง

            “ลุงครับ..เอาโลนึง...สับให้ด้วยนะครับ...ผมจะเอาไปทำยำ” แทคยอนยิ้มฟันขาวใส่เจ้าของร้าน

            “แทค แทค” นิชคุณสะกิดแขนคนตัวโตข้างตัวเบาๆ

            “ครับ” แทคยอนเอียงคอมองนิชคุณ

            “มันตายแล้วนี่...ไหนแทคบอกว่าต้องใช้แบบยังไม่ตายนี่” นิชคุณพูดพลางมองอีโต้ที่กำลังสับหนวดปลาหมึกให้เป็นชิ้นๆ

            “คุณอยากทานแบบสดๆเหรอ..ไม่ได้นะครับมันอันตราย...คุณไม่ได้ดูข่าวคนกินปลาหมึกสดแล้วไข่ปลาหมึกไปฝังตัวในกระพุ้งแก้มเหรอ..แล้วพอไข่มันฝักตัวนะ..บรรดาลูกปลาหมึกก็คลายกันออกมาหยึบหยับเลย” แทคยอนออกความเห็นพร้อมทำท่าปลาหมึกน้อยดิ้นไปดิ้นมา

            “ย่าห์!!...เลิกพูดเหอะเห็นภาพเลย” นิชคุณแหวแตก

            “ขอบคุณครับลุง” เจ้าแมวยักษ์รับถุงปลาหมึกพร้อมหยิบเงินจ่ายค่าปลาหมึก

            “แทคเป็นคนทำอาหาร...ไม่ใช่คนขายของ..แทคไม่ฆ่าเองถ้าไม่จำเป็น...ทำกับข้าวกินเองที่บ้านมันไม่เหมือนทำงานในร้านอาหารที่ต้องใช้ของสดๆมาต้มทั้งเป็นหรือฟิตมันทั้งเป็น” แทคยอนตอบด้วยสีหน้าซีเรียสขึ้นมา

            “ว่าแต่ที่นี่ของเยอะจัง” นิชคุณหันซ้ายมองขวาดูนั่นนู่นนี่อย่างตื่นตาตื่นใจ

            “ก็นะครับ..ก็จัดว่าเป็นตลาดใหญ่ของประเทศอ่ะครับ..ของก็เลยเยอะ...อ๊ะ!!” แทคยอนพูดพลางเหลือบมองเจ้าปูม้าตัวโต

            “อยากทานนี่ไหม..” เจ้าแมวตัวโตทำสายตาแวววับเป็นประกาย

            “ปูเหรอ” นิชคุณเลิกคิ้วมองเจ้าปูม้าตัวโต และหันโมหน้าเจ้าแมวตัวโตสลับกัน

            “หารกันไหมครับ” แทคยอนส่งสายตาวิ๊งวั้งรอบสอง

            “หารเหรอ” นิชคุณเอียงคอสงสัย

            “ก็แบบว่ามันแพง..ถ้าผมซื้อเจ้าปูนี่..เฮ้อ...ช่างมันเถอะ” เจ้าแมวคอตกเมื่อคิดว่านี่มันใช่เรื่องเหรอ

            “จะว่ามันแพงก็แพงนะ...แต่นายทำเป็นเหรอ..อาหารประเภทกระดองหนานี่มัน”นิชคุณทำหน้าแหย

            “ไปกันเถอะครับ..ไปดูอย่างอื่นกัน..เดี๋ยวผมพาคุณทัวร์ดีกว่า” เจ้าแมวยักษ์พูดจบก็คว้าฝ่ามือคนผิวขาวไปจับไว้พร้อมดึงจนตัวคนผิวขาวปลิวไปพร้อมกัน

            แทคยอนพานิชคุณเดินจนรอบตลาดปลานอร์ยางจิน ร้านรวงเปิดขายของทะเลกันแน่นขนัด เจ้าคนตัวโตชี้โบ้ชี้เบ้บอกชื่อเจ้าสัตว์หน้าตาแปลกประหลาดไปเรื่อยจนไปหยุดอยู่ที่กะลังมังน้ำใบขนาดกลาง คนผิวขาวหยุดยืนมองมันด้วยสีหน้าชวนสยอง

            “ไอ้นี่มันอะไรอ่ะ...ของกินเหรอ” นิชคุณชี้ไปที่เจ้าสิ่งมีชีวิตรูปร่างเป็นแท่งยาวโค้งงอไปมาดูคล้ายใส้กรอกและของสงวนของผู้ชาย

            “ปลาครับ” แทคยอนตอบพร้อมยิ้มจนตีนกาแย่งกันบินว่อนบนหน้า

            “ปลาเนี่ยนะ..เกิดมาไม่เคยเห็น..อย่าบอกนะว่าเอามากินกัน” นิชคุณยกมือขึ้นปิดปาก

            “เห็นทุกวันยังกลัวอีกรึครับ” เจ้าแมวยักษ์แซวจนนิชคุณหน้าชา

            “ย่าห!! มันไม่เหมือนกันสักหน่อย” คนผิวขาวแหวจนลูกค้าที่เดินผ่านกันไปมามองเป็นตาเดียว

            “ผมก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่ามันเหมือนกัน...ของๆคุณผมจะรู้ได้ไงล่ะ” แทคยอนพูดพลางยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง

            “นายนี่มัน..กวนจริงๆเลย” นิชคุณกัดปากตัวเองอีกครั้ง

            “มันจัดอยู่ในประเภทปลิงครับ เอาไปย่างกิน เค้าว่าอร่อยนะ..คุณเคยดูหนังเรื่อง who you came from the star ไหมครับที่นางเอกชอบโวยวายอยากกินกระจู๋ทะเลน่ะ...มันก็ไอ้ตัวนี้แหละ” แทคยอนสาธยาย

            “เห่อ...กระจู๋ทะเล...ชื่อมันช่าง...ว่าแต่นายเคยกินไหม” นิชคุณถอนหายใจเฮืกใหญ่ปลงตกให้กับสิ่งมีชีวิตรูปร่างสยองขวัญ

            “ผมยังมาเคย และยังไม่วางแผนจะกินเร็วๆนี้หรอกครับ...แต่ถ้านิชคุณชีสนใจ..เดี๋ยวผมจะลองหาวิธีทำดู” แทคยอนออกความเห็นหน้าตาย

            “เอ๋อ...ไม่ล่ะ” คนผิวขาวโบกมือไปมา

            “อ๊ะ..จะเที่ยงแล้ว..กลับกันเถอะ” แทคยอนยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา  เค้านึกขึ้นได้ว่าเค้าใช้เวลาเดินมานานพอสมควรแล้ว

            “แทค” คนผิวขาวเดินตามแทคยอนต้อยๆ แต่ก่อนที่จะกลับบ้านคนผิวขาวก็เรียกชื่อเจ้าแมวยักษ์ออกมาก่อน

            “ครับ” คนตัวตัวหันควับตามเสียงเรียก

            “หาที่ล้างตาให้คุณก่อนได้ไหม” นิชคุณพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน

            “ล้างตา..ผงเข้าตารึครับ” แทคยอนขยับตัวเข้าใกล้คนผิวขาวประหนึ่งจะเข้าไปสิงร่างนิชคุณ

            “ป่ะเปล่า” เจ้าคนผิวขาวสะดุ้งตัวแข็งทื่อ

            “คุณหมายถึง..ภาพมันติดตาน่ะ” นิชคุณตอบพลางขยี้ตาตัวเองหลายที

            “อ๊า...อ่อนไหวจังน้า...แล้วถ้าแบบนี้หล่ะ” แทคยอนตอบพลางโคลงหัวไปมา

            จุ๊บ!!

             เจ้าแมวตัวโตก้มหน้าลงมาจนริมฝีปากบางจรดเปลือกตาคนผิวขาว

            “ไม่ชอบเดทกับแทคเหรอ” เจ้าแมวตัวโตขยับริมฝีปากลงมาที่ข้างใบหูแดงๆของคนตรงหน้า

            “อ๊ะ!!  อ่า..ดะ..เด...เดท...ระ...หรอ” คนผิวขาวถึงกับหาลิ้นตัวเองไม่เจอ เค้ากำลังอึ้งกับจูบจากเจ้าแมวแมวยักษ์และคำพูดชวนให้คิดของแทคยอน

            “คุณไม่ได้อยากเดทกับแทคเหรอ..อ๋า..แทคคงคิดผิดไปเอง” แทคยอนยิ้มแห้งๆ ผลางทำหน้าผิดหวังอย่างแรง

            “หมายความว่าไงน่ะ”นิชคุณทำหน้าตาตื่นกับท่าทีของคนตัวโต

            “งั้นคุณชานก็คงคิดไปเองสินะ” แทคยอนตอบด้วยสีหน้าเขินอายนิดๆ

            “เกี่ยวอะไรกับชานล่ะ” คนตัวขาวตาโตขึ้นอีก

            “คุณชานบอกว่าคุณชอบผม...ผมเลยคิดว่า...ช่างเถอะครับ..เฮ้อ” เจ้าแมวพูดและเงียบลง

            “แล้ว..ถะ..ถ้า..ถ้า..ถ้า” นิชคุณอึกอัก ใบหน้าเค้าแดงจนแทบจะกลายเป็นสีมะเขือเทศย่าง

            “ถ้า” แทคยอนทวนคำพูด

            “ถ้า...คุณชอบแทคจริงๆล่ะ” นิชคุณรวบรวมความกล้าสารภาพรักออกมาตรงๆ

            5555 เป็นไปไม่ได้หรอกครับ...ไปกันเถอะครับ..ต้องไปซื้อของสดที่อื่นอีก” แทคยอนเลี่ยงที่จะฟังคำตอบ เค้ารีบออกเดินก้าวขายาวๆออกห่างจากคนผิวขาว

            “แทค...คุณชอบแทคจริงๆนะ” นิชคุณตะโกนลั่น

            “......” แทคยอนหันหลังขวับมองซ้ายมองขวา ผู้คนสัญจรไปมาหยุดมองมาที่นิชคุณเป็นสายตาเดียวกัน

            “....อะ...เอ่อ..” นิชคุณยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง เค้ารอบมองคนรอบๆตัวอย่างเขินอาย

โอ้ยฉันอยากจะบ้าตาย

            คนผิวขาวยืนแข็งทื่อ ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งยองๆกับพื้นถนน

            “นิชคุณชี” เจ้าแมวยักษ์เดินกลับมาหาเจ้าคนผิวขาวที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนรอบด้าน

            “คุณครับ..ยืนขึ้นได้แล้ว” คนตัวโค้งตัวลงมาปลอบใจคนผิวขาว

            “แง้!!” เจ้าคนผิวขาวปล่อยโฮออกมาเมื่อเค้าเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่ยืนค้ำหัวเค้าอยู่

            “ทำไมต้องร้องไห้ล่ะครับ..” แทคยอนย่อตัวลงมา เค้ากอดนิชคุณทันที

            “ฉันอาย...ทำไมฉันต้องมาสารภาพรักนายตรงนี้ด้วย...โอ้ย...ฉันอยากจะบ้า..” นิชคุณงอแงเป็นเด็ก

            “อายที่ชอบผมเหรอครับ” แทคยอนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าคนผิวขาวเบาๆ

            “นายทำแบบนี้...นายจะทำให้ฉันเป็นบ้านะ...ตกลงนายจะเอายังไงแน่...” นิชคุณบ่นกระปอดกระแปดพลางขยับหน้าหนีมือหนาของคนตัวโต

            “ถ้าคุณขยับหน้าหนีผม..ผมก็จะถามคุณว่าตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่” แทคยอนถามกลับ   “โอ้ยยยยย” นิชคุณแหกปากร้องลั่นเมื่อนิ้วมือเรียวยาวสีเข้มหนีบแก้มของเค้าอย่างแรง

            “เลิกงอแงแล้วกลับบ้านกันเถอะครับ..ผมหมดอารมณ์ไปซื้อของแล้ว” แทคยอนตอบพลางผละมือจากแก้มนวลนิ่มมาจับข้อมือคนผิวขาวและกระชากอย่างแรงจนคนตัวขาวต้องลุกขึ้นยืนตามไปด้วย

            “หมดอารมณ์ซื้อของ..แล้วมีอารมณ์อย่างอื่นแทนบ้างไหม” นิชคุณถามพร้อมกระแซะตัวเข้ามาเบียดคนตัวหนาระหว่างทางเดินกลับบ้าน

            “อารมณ์ที่ว่าไม่มีหรอกครับ..ผมยังเด็กอยู่” แทคยอนกระแซะตัวกลับ พลางยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับเค้ารู้ทันคำถามของคนข้างตัว

            5555นายนี่นะเด็ก...ตัวโตขนาดนี้ไม่เด็กแล้ว” นิชคุณตอบพลางยิ้มหวานจนตาหยี