วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559

ไฟรักปมแค้น6


 

            “ คุณแทคยอนครับ” นิชคุณใช้ปลายดินสอสะกิดมือหนาของคนอายุมากกว่าเบาๆ

            “ฮึ” เจ้าของบ้านละสายตาจากหน้าจอแมคบุ๊คเพื่อหันมองเด็กหนุ่มผิวขาวที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันมาก

            “เพื่อนคุณแทคยอนน่ะครับ” นิชคุณชำเลองมองชางมินเป็นเชิงบอกแทคยอนไปในตัว

            “ทำไมเหรอ” แทคยอนเลิกคิ้วมองชางมินและหันกลับมาสบตานิชคุณ

            “เค้าไม่พอใจอะไรผมรึเปล่า” นิชคุณเขียนตัวสือลงในกระดาษ เค้าส่งมันให้แทคยอนอ่านแทนคำพูด

            “เปล่าหรอก...หน้าหมอนั่นก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว” คนอายุมากกว่าตอบพลางยิ้มหวานใส่เด็กข้างๆ เค้าเก็บเศษกระดาษที่นิชคุณส่งมาให้ใส่ลงกระเป๋าตัวเอง

            “คุณแทคยอนดูเหมือนอายุน้อยกว่าเพื่อนคุณเลยนะครับ...คุณเคยเห็นเค้าตั้งแต่เค้าเกิดเลยเหรอ” นิชคุณถามคำถามแบบเด็กน้อยใสซื่อ

            55555” เจ้าของบ้านผิวเข้มหัวเราะเสียงใหญ่

            “มีอะไรน่าหัวเราะกันรึครับ” นิชคุณทำหน้าตาตื่น

            “เธอนี่น่ารักจริงๆนะ...นอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว..” คนตัวโตพูดจบก็ยกมือหนาของตนขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลอ่อนของเด็กตัวเล็กเบาๆ

            “อ๊า!!...ผมไม่ชอบเลย..” นิชคุณโคลงหัวตัวเองออกจากมือหนา

            “ขอโทษทีไม่ชอบให้ใครจับหัวใช่ไหม” แทคยอนชักมือกลับอย่างรวดเร็ว

            “เปล่าครับ...ผมไม่ชอบให้คนพูดว่าหน้าตาผมสวยหรือน่ารักเลย” เด็กผิวขาวทำเสียงขึ้นจมูกพลางปาดินสอในลงกล่องดินสอตรงหน้าตัวเอง

            “ทำไมล่ะ...การมีคนชม..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ควรจะดีใจนะ...เพราะมันดีกว่าการถูกตำหนิ”แทคยอนตอบพลางขมวดคิ้วเหม่อมองออกไปที่หน้าประตูบ้าน

            “ผมควรดีใจกับการที่คนอื่นชื่นชมปมด้อยของตัวเองด้วยรึครับ” นิชคุณเอียงคอถามแทคยอน

            “นายอาจคิดว่านั่นเป็นข้อเสียของนาย...แต่ในมุมมองคนอื่นเค้าเห็นมันเป็นข้อดี คำชมก็คือคำชม มันไม่ใช่คำประชด ถ้านายมองสถานการณ์ออก” แทคยอนให้ข้อคิด

            “งั้นรึครับ..คุณนี่เก่งจังนะครับ” นิชคุณเบะหน้าใส่แทคยอน

            “ประชดเหรอ” คนอายุมากกว่าสบตาคนอายุน้อย เค้าจ้องลึกเข้าไปดวงตาสีดำขลับ เค้าคิดว่าเด็กคนนี้หน้าคุ้นๆ แววตาแบบนี้เค้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่

            “นี่ใช่ไหมครับที่คุณบอกว่าสถานการณ์...ครับผมประชด” เด็กน้อยผิวขาวฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวๆซี่เล็กๆที่เหมือนเม็ดข้าวโพดเรียงตัวกัน

            “จะว่าอะไรไหม..ถ้าพี่ขอทำงานก่อน” แทคยอนพูดพลางยิ้มหวานจนตีนกาโชว์หรา

            “พี่...” นิชคุณทวนคำพูดแทคยอน

            “ไม่ได้เหรอ” แทคยอนตอบพลางทำงานงานตรงหน้าไปด้วย เค้ายิ้มหวานแต่ไม่ได้หันมองนิชคุณ

            “ครับได้ครับ” นิชคุณยิ้มรับ

 

หลังจากกุ๋ยออกจากบ้านไปในตอนเช้า ชางมินก็ตื่นมารับกะเช้าต่อจากแฟนสาวรุ่นน้อง ช่วงนี้ชางมินว่างงานเพราะเค้าพักงานสอนเพื่อมาดูแลแทคยอนเต็มเวลา แต่บางเวลาชางมินก็ต้องแวปไปดูลูกศิษย์ที่มหาลัยด้วยเช่นกัน กุ๋ยเรียนจบและบรรจุหมอทำให้เธอไม่มีเวลามาวนเวียนข้างตัวแทคยอนเหมือนแต่ก่อนแล้ว คนไข้ของเธออัปเปหิตัวเองออกมาจากโรงพยาบาล

            “แทค...ถึงเวลาแล้ว” ชางมินพาร่างตัวเองมายืนข้างเพื่อนผิวเข้มที่นั่งทำงานอยู่หน้าบ้านเพื่อรับอากาศของเย็นๆนอกบ้าน

            “อืม..” คนตัวโตเงยหน้ามองเพื่อนของตนก่อนจะลุกตามชางมินเข้าไปในบ้าน

            นิชคุณละงานตัวเอง เค้าหันมองเจ้าของบ้านเดินหายลับเข้าไปในตัวบ้านพร้อมเพื่อนหน้าโหดที่เอาแต่ทำหน้าเป็นตูดตั้งแต่เช้า เด็กน้อยผิวขาวได้แต่สงสัยกับคำพูดของชางมิน ถึงเวลาแล้วหมายถึงอะไร

 

            เวลาผ่านไปแค่เพียง5นาที อีชางมินก็เดินหน้านิ่วออกมาจากตัวบ้าน พร้อมถุงขยะสีดำใบขนาดย่อม

            “โทษทีนะครับ..ถ้าเธอจะรอแทคคงจะนานหน่อย...จะนั่งเล่นที่นี่ไปก่อนก็ได้...หรือจะกลับบ้านไปก่อนก็ได้...ถ้าเสร็จธุระแล้ว..พี่จะไปเรียก” อีชางมินพูดเสียงเย็น ถ้อยคำเชิงไล่ของชางมินทำให้นิชคุณรู้สึกแปลกใจ

            “เอ่อ...งั้นผมกลับไปทำงานที่บ้านต่อก็ได้ครับ” เด็กน้อยพูดจบก็รีบรวบรวมปากกาดินสอใส่กระเป๋าและรีบพาตัวเองกลับไปบ้าน

             เด็กน้อยผิวขาวกลับไปบ้านตัวเองเรียบร้อย ชางมินไล่เซฟงานให้แทคยอน จากนั้นเค้าก็เก็บคอมผิวเตอร์ของเพื่อนเข้าบ้านไปด้วย นิชคุณยืนมองจากข้างรั้วบ้าน เค้ารู้สึกแปลกๆตลอดเวลาที่เค้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ทุกคนในบ้านทำตัวประหลาดราวกับมีเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้

            “เด็กคนนั้นกลับไปแล้ว...” ชางมินบอกข่าวกับคนที่นอนบนเตียง

            “......” แทคยอนหันมองชางมิน

            “อย่ามองหน้าฉันแบบนั้นแทค...ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆคนป่วยแบบนาย...มันเกะกะ” ชางมินตอบกลับ

            “อืม” เพื่อนตัวโตเออออพลางหลับตาลง เค้าคงต้องหลับขณะรอให้น้ำเกลือหมดขวดและยาออกฤทธิ์

 

            เมื่อนิชคุณกลับเข้ามาในบ้านเค้าพบคุณอาพ่อของคิมจุนซูและตัวลูกชายคิมจุนซูนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศในตัวบ้านน่ากลัวมาก

            “มานี่คุณ” เสียงชายแก่เย็นเฉียบ

            “เอ่อครับ” เด็กน้อยผิวขาวเด็กตัวลีบเข้ามาในบ้าน เค้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

            “พ่อจะไม่พูดซ้ำคิม...คุณด้วย อาจะไม่พูดซ้ำอีก...อย่าไปยุ่งกับคนข้างบ้านที่ย้ายมาใหม่...และคิม...พ่อเสียใจที่ลูกขายบ้านโดยไม่บอกพ่อ” คิมจินยองออกคำสั่งกับลูกชายและหลานชายไปพร้อมกัน

            “พ่อไม่มีเหตุผลเลย...บ้านนี้มันบ้านผม...ผมจะขายให้ใครก็ได้..และเหตุผลของพ่อก็ฟังไม่ขึ้น...ทำไมพ่อต้องห้ามผมไปยุ่งกับเค้ากันล่ะ” จุนซูแย้งกลับอย่างไม่ยอมความ

            “นั่นสิครับ..ทำไมคุณอาถึงต้องห้ามด้วยล่ะครับ..ถ้าคุณอาจะห้ามคุณอาน่าจะบอกเหตุผลให้ผมรู้นะครับ” นิชคุณย่นคิ้วถามคุณอาของเค้าเช่นกัน

            “เด็กอย่างพวกเธอไม่ต้องรู้หรอก” คิมจินยองให้คำตอบหนักแน่น

            “พ่อเป็นอะไรครับ..ทำไมถึงทำอะไรไม่มีเหตุผลเลย” คิมจุนซูแหวขึ้นมา

            “.....”นิชคุณเงียบเสียงลง เค้าคิดว่าแค่ญาติผู้พี่อยู่ฝ่ายเดียวกับเค้า เค้าก็จะได้คำตอบโดยไม่ต้องเสียแรงพูดเพิ่มอีกคน

            “ห้ามแก2คนไปยุ่งกับเค้า..ไม่งั้นพ่อจะส่งแกไปดูงานที่สาขาย่อยแล้วไม่ต้องคิดว่าพ่อจะยอมให้เลขาหน้าบวมของแกติดสอยห้อยตามไปด้วยนะ...เธอด้วยคุณถ้าเราไม่ฟังคำพูดอา..อาจะส่งเธอกลับบ้าน” ชายแก่สูงอายุพูดพลางทำหน้าตาดุดัน เค้าพูดจบก็เดินออกจากบ้านไปทันที

            “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” คิมจุนซูกระฟัดกระเฟียดหลังจากพ่อของเค้ายื่นคำขาด

นิชคุณนั่งนิ่งราวรูปสลักน้ำแข็งเค้างงกับสิ่งที่อาเค้าทำ ทำไมถึงห้ามเค้าไปยุ่งกับเพื่อนบ้าน

 

อีชางมินออกไปเก็บดอกไม้หน้าบ้านเพื่อมาปักแจกันให้แฟนสาว เค้าเหลือบมองไปที่ชายแก่ที่เดินออกจากบ้านเพื่อนบ้านตัวน้อย ใบหน้าของชายแก่ที่เค้าจำได้ดี ผู้ชายคนนี้คือคนที่เค้าเห็นที่โรงพยาบาลหลังที่แทคยอนโดนส่งตัวเข้ามาในโรงพยาบาล อีชางมินขยับตัวหลบหลังกำแพงบ้าน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้มาทำอะไรที่บ้านหลังนี้

อีชางมินเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ มีเพียงเค้าและอีจุนโฮอีกคนที่รู้จักคิมจินยอง นอกนั้นไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดในอดีต แม้แต่แทคยอนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ตกบ่ายแทคยอนก็ตื่นขึ้นมาเพราะชางมินไปปลุกมาทานข้าว เจ้าคนตัวโตทานข้าวได้นิดหน่อย จากนั้นก็นอนเป็นผักต่อไปหลังจากรับยาหลังอาหารเข้าไป

นิชคุณและจุนซูเดินวนไปวนมาในบ้าน พวกเค้าต่างกลุ่มใจทั้งคู่ ไม่มีคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

ชางมินตัดสินใจจะไปถามนิชคุณเรื่องของจินยอง เค้าคาใจและอยากเตรียมรับมือกับปัญหา เพื่อนบ้านหน้าบูดเดินมากดออดหน้าบ้านเด็กหน้าสวย

            “คุณหนูคะ...คุณผู้ชายข้างบ้านอยากพบค่ะ” คนใช้วิ่งมาแจ้งข่าวกับนิชคุณ คนผิวขาวหันมองหน้าพี่ชายไม่แท้อย่างสับสน เค้าจจะทำยังไงดี

            “เอ่อ...บอกเค้า.. เอ้ย...บอกไปว่าฉันไม่ว่างตอนนี้” นิชคุณอึกอัก เค้ากลัวจะถูกส่งกลับบ้าน

            สาวใช้วิ่งออกไปบอกชางมิน และวิ่งกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกระดาษในมือ

            “คุณผู้ชายบ้านโน่นให้นี่มาค่ะ..เค้าบอกว่าเรื่องสำคัญกรุณาโทรกลับด้วย” สาวใช้ยื่นเสร็จกระดาษส่งให้หลานชายเจ้านาย

            “อ่อ..ครับ..ขอบคุณนะครับ” นิชคุณดูเลขในกระดาษ เค้าเหลือบมองหน้าพี่ชายแวปนึงก่อนจะหยิบมือถอขึ้นมากดเบอร์ของชางมิน

            “ครับ..นิชคุณครับ” นิชคุณโทรหาอีชางมินทันที คนปลายสายเขียนชื่อตัวเองกำกับลงมาในกระดาษ เด็กผิวขาวรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่เค้าไม่ได้เบอร์แทคยอนมา

            “ครับ..ชางมินนะครับ..ผมขอถามอะไรคุณอย่างนึงได้ไหมครับ” ชางมินถามน้ำเสียงเนิบนาบแต่เย็นชา

            “อ่อครับ..ได้ครับ” นิชคุณรู้สึกตุ๊ปๆต่อมๆในใจ

            “ผู้ชายสูงอายุที่แต่งตัวดีๆที่เพิ่งออกจากบ้านคุณไปเมื่อตอนเที่ยง..เค้าเป็นใครครับ”ชางมินยิงคำถามตรงๆ

            “เอ่ะ...อ้อ...เค้าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครับเป็นอาของผม” นิชคุณตอบ พลางรู้สึกประหลาดใจกับคำถามของอีชางมิน เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรื่องที่อาเค้าสั่งห้ามเค้าไปยุ่งกับคุณแทคยอนรึเปล่านิชคุณคิดในใจ

            “อาของเธอเหรอ...บ้าชิบ..อะไรโลกมันจะกลมแบบนี้วะ..แม่งเอ๊ย” ชางมันสบถยาว

สถบจบชางมินก็กดวางสายทิ้งทันที นิชคุณได้แต่ย่นคิ้วมองมือถือตัวเอง คิมมินจุนเลิกคิ้วมองน้องชายอย่างต้องการคำตอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น