วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

อ้อนรัก6

 
 
“หมออนุญาติให้กลับบ้านได้แล้วฮยองคืนนี้เลี้ยงฉลองกันนะครับ...ร้านที่คุณไปประจำนะครับ” นิชคุณโทรหามินจุนให้นัดน้องๆออกมากินข้าวนอกบ้านฉลองแทคยอนออกจากโรงบาลได้แล้ว อูยองทำทำท่าอิดออดไม่อยากมา แต่นิชคุณสั่งมินฮยองไปว่าต้องมาทุกคนใครมาไม่ ถีบหัวออกนอกบ้านไม่มีข้อยกเว้น

“เล่นซะแพงเลยนะ..นายเลี้ยงรึเปล่าล่ะ” มินจุนถามกลับ


“ผมเลี้ยงทุกคนยกเว้นแทค...ด้งต้องเป็นคนจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ให้แทค” นิชคุณทำเสียงขึ้นจมูก เจ้าเด็กน้อยนั่นไม่แม้แต่จะโผล่หัวมาขอโทษแทคยอนสักคำ


“นายนี่นะ...เออ..ยองจ่ายส่วนของด้งเอง..ตามนี้ล่ะกัน..เย็นนี้เจอกัน..แต่งหล่อใช่มะ” มินจุนพูดจบก็หันมองหน้าเด็กน้อยแก้มบวมป่องที่ทำหน้านิ่วไม่สบอารมณ์ใส่มินจุน


“นายได้ยินแล้วนะ..เตรียมเงินไปจ่ายค่าอาหารให้แทคด้วย..ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วย..อย่าทำตัวเป็นเด็กไม่มีความรับผิดชอบล่ะ 4โมงเย็นแต่งตัวให้ดีเจอกันห้องนั่งเล่น” มินจุนขยี้หัวเด็กน้อยที่ดูจะกระฟัดกระเฟียดมากกกว่าเดิม


“เดี๋ยวฮยองบอกหมีกับโฮเอง นายจะไปทำธุระอะไรก็ไปทำแต่อย่าเบี้ยว..นายก็รู้เวลาคุณโกรธเป็นยังไง” มินจุนพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอนตัวเอง เค้าย้ายตัวเองไปนอนเก็บของ เสียสละห้องใหญ่ให้บรรดาเด็กๆ แต่ความจริงแล้วคือกลิ่นตัวเค้าแรงเกินกว่าที่เด็กๆจะทนได้ แต่เจ้าเด็กท็อปเพื่อนเค้ากลับไม่สะทกสะท้านเพราะซกมกพอๆกับเค้า


“แทคแต่งตัวแบบนี้แล้วดูดีจัง” นิชคุณยิ้มหวานพลางจัดเสื้อให้คนร่างใหญ่


“พูดแบบนี้ก็ไม่ดีใจหรอกนะ..แทคจะกลับไปอาบน้ำที่บ้านก่อน” แทคยอนพุดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เค้าหงุดหงิดที่หมอชเวหอบถุงยาป้ายปากมาให้เค้าถุงใหญ่ มีทั้งเป็นแบบตลับเนื้อครีมและแบบลิปสติก มันน่าฆ่าไอ้คนตัวขาวตรงหน้าเค้าไหม หมอชเวยิ้มแปล้แล้นเข้ามาตรวจอาการป่วยของเค้าครั้งสุดท้ายอย่างอารมณ์ดี


“แทคโกรธอะไรล่ะ..แทคขอยา..คุณก็เอามาให้แล้วไง” นิชคณยิ้มร้ายๆใส่แทคยอน ดวงตาใสๆแวววับไปด้วยความสุขที่ปี่ยมล้น


“หึ...แทคคงได้ใช้มันปีหน้า..หรือมันอาจหมดอายุก่อนที่แทคจะได้ใช้” คนผิวเข้มล้วงมือลงในถุงกระดาษผ้ากำมะหยี่สีแดงดำนุ่มมือ เค้าหยิบตลับครีมทาปากขึ้นมาพลิกซ้ายพลิกขวา


“แทคจะใช้เหรอ..เดี๋ยวคุณทาให้นะ” นิชคุณเสนอตัว ยื่นมือขวาไปคว้าตลับครีมจากมือแทคยอน แต่แทคยอนชักมือหลบได้ทัน


“แทคจะดูวันหมดอายุ” แทคยอนยิ้มร้ายๆใส่นิชคุณกลับ


“ดูวันหมดอายุทำไมล่ะ..หมอชเวเช็ควันหมดอายุมาให้แล้ว...อีกตั้ง2ปี” นิชคุณตอบอย่างไม่เอ่ะใจในคำพูดของชายตรงหน้าเค้า


“หาคำตอบมาไม่ได้ ไม่ได้จูบ ไม่ได้จับมือ ไม่ได้สกินชิป จำได้ไหม...ดูท่าแล้วหมดอายุก่อนได้ใช้แน่” แทคยอนฉีกยิ้มหวานใส่คนผิวขาว


“อ๋า..เอาจริงน่ะ...” นิชคุณเต้นเป็นเจ้าเข้า


“เสียใจด้วยเด็กน้อย..ที่บ้านแทคสอนมาให้สงวนเนื้อสงวนตัว” แทคยอนเริ่มจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่เข้าทางปล่อยคนผิวขาวเดินกลับไปนั่งเบะปากอยู่บนเตียงนอน


“คุณถือของให้..แทคเพิ่งหายเจ็บ..มาเร็ว” นิชคุณดึงข้าวของแทคยอนออกจากมือคนตัวใหญ่


“ขอบใจ..แต่อย่าหวังได้อะไรตอบแทนนะ” แทคยอนดักทางนิชคุณ


“หึ...คนขี้เหนียว..ขี้งก...นิสัยไม่ดี” คนผิวขาวแลบลิ้นใส่แทคยอนพร้อมกับสะบัดหน้าใส่ เค้าเดินนำหน้าคนตัวใหญ่ออกจากห้องพัก และเดินไปเปิดประตูรถให้แทคยอนเพื่อพาแทคยอนกลับไปบ้านก่อน


“คนอื่นล่ะ” แทคยอนถามนิชคุณ


“ออกไปจองโต๊ะกันก่อนแล้ว..แทคต้องอาบน้ำนี่...ไม่ต้องรีบก็ได้นะ..” นิชคุณเริ่มเอาของๆแทคไปเก็บตามชั้นวางของ ระหว่างนั้นเค้าก็ลงไปนอนรอแทคยอนบนเตียงนอนจนเผลอหลับไป


แทคยอนจ้องมองใบหน้าขาวๆของคนบนเตียงนอน เค้ายกนิ้วมือขึ้นไล้ใบหน้าคนผิวขาวเบาๆ นิ้วมือเรียวยาวละผมหน้าที่ปกปิดเปลือกตาคู่งามออก เส้นขนตายาวๆขยับยุกยิกไปมาช้าๆ


“เฮ้..คุณไม่ไปกินข้าวแล้วหรือไง” สะกิดตัวนิชคุณเบาๆ


“อืม..ไปสิ..อาบน้ำเสร็จเร็วจัง” คนผิวขาวค่อยๆลุกขึ้นนั่งทำหน้าเหมือนเด็กเพิ่งตื่นนอน


“อ๋าทำอะไรน่ะแทค” นิชคุณสะดุ้งโหยง อยู่ๆตัวเค้าก็ลอยขึ้นกลางอากาศ คนผิวขาวตกใจที่อยู่ๆแทคยอนก็อุ้มเค้าขึ้นจากเตียงนอน


“ถ้าคุณดิ้น..คุณจะทำให้แทคเจ็บ..ดังนั้นอยู่นิ่งๆแล้วเอามือเกะกะๆของนายกอดคอแทคไว้” แทคยอนกระชับคนตัวขาวในอ้อมกอดแน่นขึ้นเพื่อไม่ให้นิชคุณร่วงลงพื้น


คนผิวเข้มวางตัวนิชคุณลงบนเบาะรถข้างคนขับ


“นอนซะ..ถึงร้านแล้วจะปลุก” แทคยอนยิ้มอบอุ่นให้คนผิวขาว


“แต่แทคเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ..คุณขับให้ดีกว่า” นิชคุณอยากจะเถียงแต่เสียงโทรศัพท์ดังแทรกบทสนทนาขึ้นมาก่อน และแทคยอนแว๊ปไปนั่งฝั่งคนขับเรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆของเค้าโทรมาตาม ส่วนแทคยอนก็ดูจะอารมณ์ดีที่ได้ขับรถ


“แทคนอนนิ่งๆบนเตียงมา1อาทิตย์แล้ว...ส่วนคุณเทียวไปเทียวมา..หาเวลาพักผ่อนบ้างก็ดีนะ ไม่ต้องเสียสละเพื่อแฟนขนาดนั้นก็ได้ แทคไม่อยากเอาเปรียบคุณ” แทคยอนพูดหน้าตาย


“ไม่ลำบากซักหน่อย..คุณอยากเจอแทคทุกวันแค่นั้นเอง” นิชคุณทำปากหยู่ แต่สีหน้าเค้าดูหมองเหมือนคนพักผ่อนไม่พอจริงๆ ขอบตาคนผิวขาวดูคล้ำลง


“นอนซะเด็กน้อย..แทคไม่หายไปไหนหรอกน่า” แทคยอนขยี้ผมสีอ่อนของคนที่นั่งข้างๆเบาๆ


“อืม”นิชคุณปรือตาหลับลง เค้าเอียงหัวซบลงกับหมอนที่แทคยอนเตรียมไว้ให้


แทคยอนและนิชคุณมาถึงร้านอาหารที่พวกเค้านัดกับเด็กๆไว้ วันนี้เด็กจองพื้นพี่ด้านในของภัตตาคารเพื่อต้องการความเป็นส่วนตัวแต่ก็ไม่พ้นหูพ้นตาจากหญิงสาวสวยคนนึง เธอเดินเข้าร้านอาหารมาพร้อมกับสุภาพบุรุษวัยกลางคน อายุราวๆ30ปีกว่าๆ ซึ่งก็แก่กว่าเธอหลายปี หญิงสาวเลือกโต๊ะนั่งห่างจากกลุ่มเด็กผู้ชายจากมหาลัยเดียวกับเธอ เธอรู้ว่าเธอต้องเจอใครบางคนในกลุ่มนั้นแน่ๆ เพราะโต๊ะนั้นยังว่างราวกับรอแขกที่ยังมาไม่ถึง


“อันนยองฮาเซโยนิชคุณชี..วันนี้จะเลือกนั่งโต๊ะไหนดีครับ” หญิงสาวสวยในชุดราตรีแซกสีน้ำเงินเข้มคลิบทองเปิดอกนิดๆ กระโปรงสั้นเสมอเข่าเข้ารูปเสนอหน้าเข้ามารับแขกอย่างรวดเร็ว


“ไม่ต้องพิธีรีตองขนาดนั้นก็ได้มั้งครับคุณหนู..เด็กๆผมจองโต๊ะกันไว้แล้วครับ..เห็นว่า..อ๊ะตรงนั้นครับ” นิชคุณส่งสายตามองไปรอบๆห้องอาหารสุดหรู เค้าเจอเข้ากับหัวสีแดงๆของอีจุนโฮ


“อ่า..มากับคุณควานนี่เอง ..งั้นเชิญด้านในเลยค่ะ...แต่วันนี้อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่..คุงคุงอยากเปลี่ยนไปใช้ห้องVIP แทนไหมคะ” คุณหนูเจ้าของภัตตาคารอาหารเพื่อนเก่าของนิชคุณกล่าวด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีพลางปรายตาไปที่โต๊ะอาหารด้านหลังของโต๊ะที่กลุ่มเด็กๆนั่ง


“ทำไม” นิชคุณปรายตามองตามแต่เค้าไม่เห็นอะไรที่เพื่อนเค้าต้องการสื่อสักอย่าง


“ทำไมคุงคุงต้องมาที่นี่วันนี้ด้วยนะ..”โบยองคุณหนูแห่งภัตราคารกล่าวอย่างหัวเสีย


“อะไรอีก..เธออยากคุยอะไรเดี๋ยวลากโต๊ะไปคุยด้วยกันก็ได้นะ..แฟนคุณหิวจะเป็นลมแล้ว” นิชคุณกระชับมือของแทคยอนแน่น จนคนผิวเข้มตกใจที่ถูกดึงมือไปจับ


“ไหนแฟนเธอ” โบยองหันซ้ายแลขวา เค้าไม่เห็นผู้หญิงสักคนนอกจากผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้ม ใส่สูทน้ำเงินคลิบดำ มีผ้าพันคอไหมพรมเนื้อหนาพันจากคอขึ้นมาปิดถึงสันจมูก และดวงตาเรียวเล็กสีดำกำลังก้มมองมาที่โบยอง


“นี่แฟนใหม่แกะกล่องของคุณน่ะ” นิชคุณยิ้มหวานให้เพื่อนพร้อมยกมือตัวเองที่สอดประสานนิ้วมือแทคยอนขึ้นมาโชว์หราให้เพื่อนซี้ดู


“เฮ้ย!!” โบยองสำลักน้ำลายตัวเอง เค้ามองหน้าเพื่อนอย่างไม่เชื่อสายตา


“ไม่ต้องเฮ้ย...แฟนคุณหิวแล้ว...เมื่อไหร่เธอจะปล่อยฉันไปสักทีวะโบ” นิชคุณแยกเขี้ยวใส่เพื่อน


“เดี๋ยวสิ..จะไม่แนะนำกันก่อนเลยเหรอ” โบยองขยับตัวขวางหน้าเพื่อนซี้ตัวขาวที่สูงชะรูดจนเธอต้องแหงนหน้าคุยด้วย


“นี่แทคยอน..เด็กคณะวิเทศ..ท็อปวันมหาลัย..เธอไม่ต้องกลัวเรื่องเกาะกิน” นิชคุณแนะนำแทคยอนให้เพื่อนรู้จัก


“ท็อปวันมหาลัยนายเหรอ..อ๊ะ..แทคเหรอ” โบยองตาค้างรอบ2ในเวลาเพียงไม่กี่วิ


“ครับพี่..ความจำยังสั้นเหมือนเดิมนะครับ” แทคยอนก้มตัวทำความเคารพรุ่นพี่ตัวเอง


“ย๊า!! ก็นายเล่นปิดหน้าขนาดนี้ใครจะจำได้ห๊ะ..เออดีเลยเป็นแฟนกันแล้วใช่มะ..งั้นไปนั่งโต๊ะเลย” โบยองจูงมือนิชคุณอย่างถือวิสาสะ แทคยอนถึงกับแยกเขี้ยวใส่คนผิวขาวที่ทำหน้าเหรอหราไม่ต่างกัน


“มื้อนี้ฉันเลี้ยง...รุ่นน้องมารวมตัวกันสักที” โบยองเริงร่า


สาวสวยโบยองส่งนิชุณและแทคยอนเข้าไปนั่งที่ๆ มินจุนจองไว้ให้ ก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้างเด็กน้อยมักเน่ที่นั่งริมสุดของโต๊ะฝั่งตรงข้ามกับนิชคุณ


ซอโบยองย่างเท้ามาหยุดยืนข้างควาน ชานชอง เธอก้มตัวลงกระซิบข้างหูหมียักษ์


 “ฉันอยากเซอร์ไพร์จัดเค้กชิ้นใหญ่ให้คู่รักสุดพิเศษ ผ้าม่านด้านหลังนายจะไหม้ไหม” โบยองถามหมียักษ์ ดวงตาเธอจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ด้านหลังผ้าม่านพื้นบาง


“ถ้าเค้กพี่ไม่ได้มีเทียนพรรษาปักมาด้วย ความร้อนคงไม่ทำให้ผ้าม่านไหม้หรอกครับ” ควานชานชองกระซิบตอบ


“แต่ถ้าพี่อยากเซอร์ไพร์พวกแอนตี้แฟน...พี่ก็ลองทำดูก็ได้นะ” ชานชองยิ้มร้ายๆกลับมาที่โบยอง

 
อีจุนโฮนั่งกัดฟันดูชานชองกระซิบกระซากกับเจ้าของภัตตาคารสุดสวย รูปร่างเธอผอมเพรียว แถมหน้าสวยราวกับนางฟ้าลงมาโปรด สวยชนิดที่คุณฮยองยังชิดซ้าย จุนโฮมองอย่างเคืองๆ “ใช่สิ..ฉันมันไม่สวยนี่”จุนโฮบ่นพึมพำงึมงำ เค้าล่ะอยากร้องไห้ออกมาเสียจริง


นิชคุณจูงมือแทคยอนเข้าไปนั่งด้านในของโต๊ะ ในพื้นที่ที่อุ่นที่สุด แต่ก็ยังไม่อุ่นพอจะทำให้เจ้าแมวยักษ์หายปวดจมูก อากาศเย็นๆบาดลึกเข้าไปถึงชั้นใต้ผิวหนังบริเวณจมูกของเค้า แทคยอนกระชับผ้าพันคอขึ้นปิดจมูกด้วยความทรมาน


“แทคปวดจมูกเหรอ”นิชคุณถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย


“..........” คนผิวเข้มยกมือขึ้นผ้าขึ้นปิดหน้าตัวเองทั้งหมด


“เราไปที่อื่นก็ได้นะ...กลับบ้านไหม” นิชคุณกระซิบกระซากกลับแทคยอนในขณะที่เพื่อนร่วมบ้านนั่งทานอาหารและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศเสียงเพลงเพราะๆจากเปียโนสีดำตัวใหญ่ยักษ์ที่ตั้งอยู่ที่ระเบียงชั้น2ที่ยื่นออกมา แสงเทียนจากโครมไฟระย้าสะท้อนวิบวับไปกับเม็ดคริสตันที่ประดับตกแต่งไปทั่วตัวอาคาร


“ไม่เป็นไร” แทคยอนตอบเสียงลอดฟัน ตอนนี้เค้าอยากหาอะไรอุ่นๆรองท้อง และกินยาเข้านอนมากๆเลย แทคยอนไม่อยากขัดความสุขของเด็กๆในบ้านและแฟนหนุ่มของเค้าเพียงเพราะเค้าปวดหัวจะระเบิด


“งั้นเดี๋ยวคุณสั่งอาหารให้นะ..เอาอะไรที่กินง่ายแบบที่หมอสั่งละกัน” นิชคุณเรียกบริกรเค้าสั่งดับเบิ้ลรีซอตโต้ไข่ที่แทคยอนชอบกิน


นิชคุณถอดเสื้อสูทตัวนอกของตัวเองออกเค้าเอามันมาคลุมทับบนหัวแทคยอนก่อนจะรวมร่างคนร่างใหญ่เข้ามากอดเพื่อแบ่งความร้อนจากร่างกายตัวเองให้ เป็นความผิดเค้าเองที่เลือกมากินข้าวที่ร้านนี้ในวันนี้ นิชคุณเรียกโบยองมาคุยที่โต๊ะด้วยความรู้สึกผิดหวัง


“ทำไมวันนี้แอร์ร้านเธอถึงเย็นนัก ฮีตเตอร์เจ๊งทำไมไม่ซ่อม..”คนผิวขาวกล่าวหาเพื่อนอย่างเหลืออดในขณะที่มือเค้ายังคงกอดคนร่างใหญ่ที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าจนมิดชิด


“ก็ใครใช้ให้นายพาแฟนขี้หนาวมาร้านวันนี้ยะ..ถ้านายบอกล่วงหน้าชั้นจะเตรียมฮีลเตอร์ต้มไก่ให้เลย” โยองพูดเสียงดังจนแขกโต๊ะข้างๆหันมามอง รวมทั้งหญิงสาวที่พยายามขยับเก้าอี้เข้ามานั่งติดหลังมินจุนเค


“แฟนคุณเหรอ..ใครน่ะ..ชิเห็นหน้าไม่ชัดสักคน..ไอ้ผ้าม่านบ้าๆนี่เกะกะชะมัด” หญิงสาวในชุดราตรีสีเพลิงบ่นพึมพำ


“เป็นอะไรไปครับทิฟ..ทำไมต้องนั่งไกลจากโต๊ะขนาดนั้นด้วย..ฮยองไม่กัดหรอกนะ” บุรุษวัยกลางคนยิ้มบางๆให้ด้วยความสงสัยแต่แววตาเค้าไม่ได้อบอุ่นสอดคล้องไปกับอากับกิริยา


“เปล่าค่ะโอป้า..วันนี้อากาศค่อนข้างเย็น..พอดีตรงนี้มันอุ่นน่ะค่ะ” ทิฟฟานี่พยายามกลบเกลื่อน เธอแค่อยากเห็นหน้าแฟนเก่าเธอ และแฟนใหม่ของแฟนเก่าเธอ


“ควานอ่ะ..คุงคุงว่าโบล่ะ...ควานต้องรับผิดชอบนะ” โบยองหันมาทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับควานชานชองที่กำลังกินสเต๊กปลาทอด


“ครับๆ” หมียักษ์ทำหน้ามึน รีบยัดชิ้นปลาทอดเข้าปากอย่างไม่ค่อยสนใจบทสนทนาจากโบยอง


ป๊อก!!


“ โอ้ยอ่า” หมียักษ์ทิ้งส้อมในมือลงบนจานตรงหน้า หมียักษ์ยกมือมาจับหัวแทน


“แกไม่สนใจฉันเหรอไอ้หมี.มื้อนี้อยากกินฟรีหรืออยากจ่ายเงินเองฮะ.”โบยองขึ้นเสียงใส่หมียักษ์


“ถ้าโบไม่เลี้ยงผมก็จ่ายเองอยู่ดี..อ่อไม่ใช่สิ...มื้อนี้ถ้าโบไม่เลี้ยงคนที่จ่ายเงินให้ผมเค้าก็ต้องจ่ายให้ผมอยู่ดี” ควานชานชองฉีกยิ้มให้อีกจุนโฮที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดๆกินอาหารตรงหน้าไม่สนใจใคร


“ใครจ่ายอาหารให้แกมีหวังจนไปอีก1ปี” โบยองหันมองตามสายตาหมียักษ์ไปหยุดอยู่ที่อีจุนโฮ


“โฮะ!!..เด็กฝึกค่ายXJเหรอ...ว้าวฉันชอบเสียงเธอจังพ่อหนุ่ม..เธอชื่ออะไรนะ” โบยองเปลี่ยนท่าทีทันควัน เธอหันตัวกลับมามองเด็กหนุ่มร่างอวบสไตส์ไอดอลเกาหลีเป๊ะ


“....”จุนโฮเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวสุดสวยเจ้าของภัตตาคารอย่างงงๆ


“เธอจำฉันไม่ได้เหรอ...ไม่แปลกนะ..ฉันก็จำหน้าเธอไม่ได้เหมือนกัน555” โบยองพูดเองเออเอง หัวเราะเอง


“ผีบ้าเข้าสิงรึไงวะ..เธอเป็นเจ้าของร้าน เธอจะมายืนเม้าส์แตกค้ำหัวลูกค้าอีกนานไหม” นิชคุณสบถใส่โบยอง


“ผีบ้ายังไม่เข้าตอนนี้หรอกแต่อีกสักเดี๋ยวจะเข้า” โบยองลอบมองไปที่ทิฟฟานี่


“คุงคุงอย่าเพิ่งกลับนะ..นูน่ามีเซอร์ไพร์จ่ะ” โบยองเดินมาตบไหล่แทคกับคุณเบาๆ เธอเดินรัดเลาะไปตามทางเดินจนถึงเคาเตอร์บาร์ หญิงสาวกระดิกนิ้วเรียกบริกรให้ขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆเธอ เธอกระซิบข้างหูลูกน้องของตัวเองและเดินหายเข้าไปด้านในของห้องครัว


“โฮไม่รูจักโบยองชีเหรอ” อูยองพูดหลังจากเงียบมานาน


“ไม่” จุนโฮยังคงอามรณ์เสีย


“เค้าเป็นลูกสาวประธานบริษัทนายอ่ะ” อูยองตอบ


“ลูกสาวแล้วไง..คิดว่าฉันแคร์เหรอ” จุนโฮงึมงำเสียงสูง


“จุนฮยองหัวเสียเรื่องอะไร”หมียักษ์ถาม


“แล้วทำไมนายต้องไปอี๊อ๊อกะเธอด้วยล่ะ” จุนโฮตวาดใสหน้าหมียักษ์ ควานชานชองนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ อันที่จริงก็นิ่งไปทั้งโต๊ะรวมทั้งแทคยอนด้วย


“บ้าเอ๊ย!!..ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” อีจุนโฮพูดจบก็ลุกพรวดพราดออกจากเก้าอี้ไปทางห้องน้ำ


“.....นายควรตามไปนะ” มินจุนยกไหล่ขึ้นสูงพรางมองหน้าหมียักษ์


“อย่างน้อยก็ควรคุยกันให้เข้าใจ” อูยองเสริมทับ “พวกนายไม่ใช่เด็กแล้ว” อูยองพูดจบก็หันหน้าหนีไปทางกระจก


นิชคุณมองอูยองอย่างเศร้าๆ แทคยอนนั่งก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด


มินจุนฮยองกอดคออูยองเบาๆ “เอาน่า..นายก็เก่งที่ผ่านมันมาได้นะเพราะนายโตแล้วไง”


เสียงเพลงเวดดิ้งจากเปียโนเหนือหัวดังขึ้นแผ่วๆ ไปทั่วๆร้าน ลูกค้าทุกคนต่างหันรีหันขวา เค้กปอนด์มหึมาค่อยๆถูกยกออกมาจากด้านของครัวหลัก


“เนื่องจากวันนี้ดิฉันมีความสุขเป็นพิเศษเพราะรุ่นน้องของดิฉันพาแฟนเค้ามาเปิดตัวที่นี่..ดิฉันจึงจัดเค้กเซอร์ไพร์ให้ทั้งคู่ รวมทั้งอยากให้แขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มรสเค้กสุดแสนอร่อยจากพ่อครัวชื่อดังที่ดิฉันเพิ่งซื้อตัวมาด้วย ลองทานกันคนละชิ้นนะคะ“ โบยองเดินออกมายืนข้างขนมเค้กที่ถูกตกแต่งขึ้นมาอย่างสวยงามและกล่าวพอเป็นพิธี


“อะไรน่ะ” นิชคุณทำหน้าเหว๋อ


เหล่าบริกรยกเค้กเลื่อนโต๊ะขนมเค้กมาจรดโต๊ะอาหารของเหล่าหนุ่มๆ ม่านทุกผื้นถูกเปิดออก เพื่อให้แขกทุกท่านได้เป็นสักขีพยานความรักของแทคยอนและนิชคุณ


“ตัดเค้กสิ” โบยองส่งมีดให้นิชคุณที่ลุกขึ้นมายืนมองหน้ารุ่นพี่เค้าอย่างสับสน


“แค่จับมือกันแล้วตัวเค้กเอง” โบยองกระเส้าเย้าแหย่รุ่นน้อง


“โบนูน่าเนี่ยตลอดเลยนะ” นิชคุณคว้ามือแทคมาประคองไว้ มือสั่นๆของเจ้าแมวเย็นเฉียบ นิชคุณยิ้มหวานให้แทคยอน เค้ายกมือแทคขึ้นมาประกบที่ริมฝีปาก เค้าเปาลมร้อนๆใส่มือแทคยอนเบาๆหลายครั้งก่อนจะให้แทคยอนจับมีดไว้ให้มั่นก่อนจะบรรจงตัดเค้ก


“อิจฉาเหรอทิฟ” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทีไม่พอใจของทิฟฟานี่


“อิจฉาอะไรหรือคะ” หญิงสาวในชุดราตรีสีเพลิง นั่งตัวแข็งเธอกำช้อนในมือแน่น


“แฟนเก่าเธอไม่ใช่เหรอ” ชายวัยกลางคนกล่าวต่อ พร้อมยกไวน์ขึ้นจิบ เค้ากำลังสนุกกับท่าทีของหญิงสาวที่นั่งตรงหน้าเค้า เค้าสามารถเอาเรื่องนี้ไปเขียนข่าวได้ แต่เค้าจะไม่ทำ


“ฮยองรู้เหรอคะ” ทิฟฟานี่ตาโต เธอทำช้อนตกจากมือจนได้ยินเสียงเคร้ง!!ตามมา


“หนุ่มหล่อสาวสวยไปที่ไหนใครก็รู้จัก..ต่อให้เธอพลางตัว..ยังไงคนวงในเค้าก็รู้” ชายหนุ่มพูดติดขำ เค้าทำราวกับว่าทิฟฟานี่เด็กเกินไปในวงการที่เธออยู่ ถึงแม้เธอจะพยายามวางตัวสูงมากเท่าไหร่ ใครๆก็ยิ่งขุดเรื่องของเธอมากขึ้น


“ให้ฮยองเตือนไหม...ที่นักข่าวไม่กล้าแตะเธอไม่ใช่เพราะต้นสังกัดเธอออกหน้ารับแทน...แต่เพราะบรรดานักข่าวเค้ากลัวหมาน้อยของเธอคนนั้นตะหาก..เธอบอกว่าเธอเบื่อที่ดีเกินไป   เธอแค่ยังไม่รู้จักตัวตนของเค้า...ดีแล้วที่เธอเลิกกับเค้าเร็วนะทิฟ.”ชายหนุ่มวัยกลางคนค่อยๆขยับมือมาลูบหลังมือทิฟฟานี่เบาๆ


“ถ้าเรื่องเธอรักสนุกแดงขึ้นมา...บางทีเธออาจ...” สายตาชายวัยกลางคนสว่างวาบ เมื่อบริกรยกเค้กมาเสริฟที่โต๊ะเค้า2ชิ้น


“บางทีอะไรคะฮยอง” ทิฟฟานี่ร้องถามอย่างสนใจทันที


“บางทีเธออาจต้องทำให้ฮยองพอใจก่อนแล้วเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันเหมือนที่เธอยื่นข้อเสนอไว้” ชายหนุ่มชักมือกลับพร้อมกลับไปสนใจกับเค้กชื้นโตตรงหน้า เค้าส่งเค้กสีเขียวเหลือบทองแดงส่งให้ทิฟฟานี่


“ทานเยอะๆหน่อยสิ..คืนนี้เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ” หนุ่มนักข่าวตักเค้กเข้าปาก พลางมองไปที่คนข้างกายชายหนุ่มผิวขาว เค้าเพ่งพินิจคนที่อยู่ภายใต้ชุดสูทของนิชคุณดูยังไงก็ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เรื่องนี้เอาไปทำข่าวไม่ได้ เค้าก็บอกทิฟฟานี่ไม่ได้ เค้าไม่อยากตกเป็น1ในจำเลยปากเอกในวงการ เค้าไม่อยากจบอาชีพตัวเองด้วยการไม่ยุ่งกับพวกผู้มีอิทธิพล พูดง่ายๆคือเค้าไม่อยากยุ่งกับพวกคนรวย


“แทคกินเค้กสักคำไหม” นิชคุณตักเนื้อครีมเค้กส่งให้ชายในอ้อมกอดตัวเอง คนข้างกายเค้าคลอนหัวไปมา


“กลับได้ไหม” แทคยอนพูดเสียลอดฟัน ผ่านผ้าพันคอเนื้อหนานุ่ม เค้ากัดฟันตัวเองแน่น ใบหน้าแทคยอนยับย่น


“แต่แทคยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ” นิชคุณคะยั้นคะยอแฟนหนุ่มของตน


“แทคปวดจมูก” แทคยอนยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง เค้าหิวแต่ก็ปวดหัวเกินกว่าจะทนได้


“งั้นห่อกลับบ้านนะ” นิชคุณรีบร้องเรียกบริกร


“พวกนายกินกันไปก่อนเลยนะ ฮยองขอโทษ ฮยองจะพาแทคไปโรงบาลอีกทีนึง” นิชคุณบอกกับพวกเด็กๆ จุนโฮและควานชานชองเดินกลับมานั่งที่โต๊ะหลังจากหายเข้าไปที่ห้องน้ำได้ไม่นาน


“ไปเถอะแทค” นิชคุณและชานชองลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมกันเค้าช่วยกันพยุงร่างใหญ่ของเจ้าแมวยักษ์ออกทางหลังร้านเพราะมันสะดวกและถึงลานจอดรถเร็วกว่า โบยองให้คำแนะนำ เธอเดินไปส่งรุ่นน้องทั้ง2ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในร้าน โดยมีสายตาทิฟฟานี่พยายามจดจ้องไปที่บุคคลที่เดินกลางกลุ่ม วันนี้เธอได้ยินชื่อแทคยอน2-3ครั้งจากปากนิชคุณ ดูเหมือนแทคยอนจะป่วย เธอไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะรู้ว่า2คนนี้เคยสนิทกันมาก่อน แต่วันนี้เป็นวันเปิดตัวแฟนใหม่นิชคุณ ทำไมเธอถึงไม่เห็นใครเลย อาจเป็นเพราะแฟนนายตัวเล็กและเด็กนายตัวใหญ่จนบังเธอมิดสินะ

ทิฟฟานี่ยิ้มเหยาะกับตัวเองเธอ เธอหัวเราะคนเดียวเบาๆ สุดท้ายนายก็ไม่ต่างจากเดิม เห็นคนอื่นสำคัญกว่าแฟนเสมอ...และผู้หญิงก็จะทิ้งนายอีก..สุดท้ายนายก็ต้องกลับมาหาฉันคุณ..ฉันแค่ให้บทเรียนว่านายควรปฎิบัติกับฉันให้ดีกว่านี้


“หัวเราะอะไรครับทิฟ”หนุ่มนักข่าวมองทิฟฟานี่อย่างครุ่นคิด เธอจะดังไปได้อีกสักเท่าไหร่หากเธอทำตัวแบบนี้ อายุเธอยังน้อย เธอไม่ควรออกนอกหลู่นอกทางเร็วขนาดนี้ บางเวลาเค้าก็อยากได้เธอเป็นแฟน แต่ความรักกับหน้าที่มันต่างกัน เค้าโตพอที่จะแยกมันออกจากกันได้แล้ว


“เปล่าค่ะฮยองเราไปกันดีกว่า..เค้กนี่ทิฟไม่รับละกัน”ทิฟฟานี่ลุกขึ้นและเดินตัวปลิวออกไป นักข่าวหนุ่มหยิบการ์ดแพตตินั่มส่งให้บริกร


 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น