วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559

อ้อนรัก1


"อ๊า...น่ารักอ่า" เสียงแหบซ่านของหญิงสาวคนนึงดังขึ้นท่ามกลางเสียงซ่อกแซกในโรงอาหารรวมของมหาลัยชื่อดังย่านอันนัม มหาลัยนี้เป็นมหาลัยชื่อดังติดท็อปไฟล์ของประเทศมีหลายคณะที่โด่งดังมากๆ คนที่สอบเข้าที่นี่ได้ต้องเก่งมีมันสมองหรือเป็นลูกคุณหนูของตะกลูต่างๆเพราะค่าเทอมของมหาลัยวิทยาลัยนี้โหดแสนโหด

"ใครอีก?" เพื่อนสาวผมยาวอีกคนทักขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายในขณะที่เธอกำลังหมกหมุ่นอยู่กับกองหนังสือเรียนตรงหน้า

"ผิวขาว ปากแดง ตากลม...หล่อแบบเทพบุตร..นิสัยก็ดี...เฮ้อ..."เพื่อนสาวผมสั้นใบหน้าค่อนไปทางสาวหมวยคนเดิมพรรณนาด้วยท่าทีเคลิบเคลิ้มพร้อมยกนิ้วขึ้นมาตีกรอบส่งไปทางคนที่เธอกำลังกล่าวถึง

" หึ..คงได้แอ้ม..หล่อ..รวย..นิสัยดี..แต่โดนแฟนทิ้ง..กี่คนแล้วนะ" เพื่อนสาวผมสั้นอีกคนที่กำลังกินข้าวเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนแคระเช่นกัน

"โดนแฟนทิ้งหรา!!.."เจสสิก้าดวงตาเบิกโผลงเหมือนเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

"เลิกกันแล้วเหรอ..อย่ามามั่วสิ...คบกันมาตั้ง2ปีนะ..แถมวันนั้นยังสวีทกันอยู่เลย"เจสสิก้าพ่นคำพูดออกมาราวกับเธอเป็นสโตกเกอร์ของท็อปมหาลัยแน่ะ

"คนอื่นในกลุ่มก็น่าสนนะทำไมเธอไม่มองบ้างล่ะหึ..พ่อหน้าสวยคนนั้นน่ะ เธอเลิกหวังเหอะ..เป็นคนดีเกิ๊น..ใครได้เป็นแฟนคงเหนื่อยใจ..ฉันเห็นยัยทิฟแล้วสงสารแทนเลย" เฟยมองตรงไปที่กลุ่มท็อปมหาลัยแล้วหมุนคอกลับมาอย่างรวดเร็ว

"ย่ะ!!..ตาบ้านั่นหูผีอีกล่ะ" เฟยอุทานด้วยท่าทีตกใจแบบสุดๆ

"เป็นอะไรยะ!!..ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย" เจสสิก้าถามเฟยทันทีที่เห็นท่าทางของเพื่อนราวกับกระต่ายตื่นตูม

"ตาบ้านั่น....ชิ...ส่งยิ้มมาอีกล่ะ...คิดว่าฉันมองนายรึไง" เฟยพ่นลมออกทางจมูกด้วยท่าทางดิบเถื่อนขัดกับหน้าตาสะสวยราวนางฟ้าของเธอ

"แทคยอนใช่ป่ะ...หมอนั่นคงคิดว่าตัวเองเป็นท็อปวัน แล้วสาวคงหลงหรือไม่ก็คิดว่าอยู่กลุ่มท็อปแล้วตัวเองจะดังมั้ง" เจสสิก้าค่อนแคระเพื่อนตัวสูงใหญ่ที่สุดในกลุ่มท็อปมหาลัยแถมยังเป็นคนที่ทำคะแนนดีที่สุดในกลุ่มทุกปีทุกเทอม เค้าเป็นคนที่ดูเข้ากับผู้หญิงนอกกลุ่มตัวเองง่ายที่สุดด้วย

"แล้วคนอื่นล่ะ.."ซูจีถามเพื่อนซี้ทั้ง2คนที่กำลังซุบซิปนินทาผู้ชายโต๊ะไม่ห่างจากพวกเธอมากนัก

"ไม่รู้สิ..ทำไมฉันต้องสนใจด้วยล่ะ" เจสสิก้าเมินทุกคนยกเว้นพระเอกของเธอ เธอทำราวกับคนอื่นไม่มีตัวตน

"ความสัมพันธ์กลุ่มนั้นแปลกๆแต่มันก็เรื่องของเค้าแหละ" เฟยเบ้ปากเมื่อพูดถึงกลุ่มท็อปทุกที เพราะเธอพยายามทำคะแนนให้ดีติดกลุ่มไม่ได้สักเทอม

"ฉันแค่สงสัยว่าทำไมพวกนั้นถึงต้องมานั่งรวมตัวกันที่นี่ทั้งที่คณะที่เรียนก็อยู่ไกลกันนะหรือ..แค่ว่าตัวเองเป็นท็อป..เหรอ." จีถามเพื่อนอย่างสงสัย

"ไม่ติดท็อปก็อยู่ในนั้นได้.." มีนพูดขึ้นหลังจากนั่งฟังเพื่อนๆเม้าส์มอยมานาน



"คุณฮยองฟังเพลงนี้สิครับ" เสียงเด็กน้อยเจื่อยแจ่วขึ้นข้างตัวคนผิวขาวปากแดงที่ถูกนินทาเมื่อครู่

"ไหนเพลงอะไร" นิชคุณหยิบหูฟังจากมือรุ่นน้องขึ้นมาและบรรจงกดเข้ากับช่องหูตัวเองเบาๆ เสียงดนตรีดังขึ้น คนผิวขาวส่งยิ้มบางๆให้รุ่นน้อง และเริ่มดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงเพราะๆ

listen, You were really beautiful. When you smiled, I was blinded by the light

ฟังนะ คุณน่ะสวยจริงๆ ตอนที่คุณยิ้ม ผมตาบอดด้วยแสงสว่าง

To that bright smile, I lost track of all thought

จากรอยยิ้มที่สดใสนั้น ผมลืมคิดถึงทุกสิ่ง

Oh~miss you baby, I really miss you so much

โอ้ คิดถึงคุณที่รัก ผมคิดถึงคุณมากจริงๆ

No can understand me, and also as of now

ไม่เข้าใจตัวเอง และเหมือนกับตอนนี้ด้วย

why to this day I still have a deep attachment to you

ทำไมวันนี้ ผมยังคงผูกพันธ์กับคุณอย่างเหนียวแน่น

"เพราะดีว่าไหมครับ" จางอูยองพูดพร้อมยิ้มหวานให้คนอายุมากกว่า

"เพลงไรอ่า..ฟังด้วยสิ" เสียงพี่คนโตสุดร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงน้อยใจและสีหน้าท่าทางตลกๆที่เค้าทำเป็นประจำ พี่ใหญ่แย่งสายหูฟังมาจากหูนิชคุณ เมื่อเค้าได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นรอยยิ้มที่เค้าทำเป็นประจำก็จางหายไป

‘ฉันหวังว่านายจะเข้าใจมันนะคุณมินจุนส่งสายหูฟังคืนให้น้องเล็กแก้มป่องทันที

            "only you ครับมินฮยอง" อูยองตอบพี่ใหญ่แต่สายตาเค้าจับจ้องแต่สีหน้าคนข้างกายที่ได้แต่ยิ้มบางๆ

"ใช่ฮยองรู้จักเพลงนี้ เพราะมากเลยนะ..เนื้อเพลงดีด้วย" มินจุนลดเสียงลงพลางเสมองไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจตัวเอง

".. ........."อีจุนโฮปรายตามองอูยองเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นมองควานชานชองที่นั่งอ่านหนังสือพิงหลังกับไหล่คนตัวใหญ่ที่เอาแต่นอน

"ผมกลับแล้วนะ..ฮยองไปเหอะ"จุนโฮพูดขึ้น เค้ายกมืออวบๆของตัวเองสะกิดแขนคนตัวใหญ่ที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องหลายที

"อ๊ะ...กลับแล้วเหรอ..ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอโฮ" นิชคุณทักขึ้นเมื่อรุ่นน้องอยู่ๆก็จะกลับหอก่อนอีกแล้ว

            "ผมว่าผมพาแทคฮยองกลับไปนอนหอก่อนดีกว่าครับ" จุนโฮเอาแทคยอนมาเป็นข้ออ้างในการหลบหนีจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ ชานชองไม่เคยสนใจเค้าเลย มินฮยองก็ทำท่าเหมือนโลกจะแตก เจ้าเด็กแก้มป่องนั่นก็เรียกร้องความสนใจไม่เลิก แทคฮยองก็หนีความจริงไปเรื่อย คนที่น่าปวดหัวมากที่สุดคือ คุณฮยอง หมอนี่ซื่อหรือโง่กันแน่นะถึงได้มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง

           อีจุนโฮเป็นคนหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ เค้าไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยากวุ่นวาย

"อืม...กลับดีๆนะ" นิชคุณยิ้มรับพร้อมมองหน้าจุนโฮและส่ายหัวให้กับเพื่อนตัวโตที่วันๆเอาแต่นอน หมอนี่ยืนหลับได้ นั่งหลับได้ นอนหลับได้ทุกที่

เจ้าคนที่ถูกนิชคุณรำพึงถึงลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารในสภาพเบลอเอ๋อ คนขี้เซาเดินเซไปเซมา

            "ฮยองเดินดีๆสิ...ย่ะ!!...ไปทางนู้นเลย"จุนโฮพลักแทคยอนให้เดินห่างๆเค้า

"....ยืมไหล่หน่อยไม่ได้เหรอ..แขนนายนิ่มอย่างกะขนนก" แทคยอนยิ้มอบอุ่นให้รุ่นน้อง

ขนนกบ้านฮยองสิ..โอ้ยบอกให้เดินดีๆจุนโฮโวยวายไปตลอดทางจนเด็กคณะอื่นหันมองตามเป็นทาง

"2คนนั้นสนิทกันดีนะครับว่าไหม..กลับด้วยกันทุกวันเลย" อูยองเปรยขึ้น

"อืมดีแล้วนี่ แทคมันจะได้มีคนพากลับหอ" มินจุนพี่คนโตสุดในกลุ่มพูดขึ้น เค้าเหลือบตาดูมักเน่ในกลุ่มที่ยังคงนั่งอ่านหนังสือไม่สนใจใครคนรอบข้าง

'พวกนายนี่นะหัดรู้ตัวเร็วๆหน่อยสิ...' มินจุนเปรยอย่างเหนื่อยใจ



"แทคฮยองแวะไดโซะแปปนึงดิ" จุนโฮสะกิดแขนรุ่นพี่ตัวโตที่ทำท่าทางเหมือนทำของหาย แทคยอนที่กำลังเดินกลับหออยู่ๆก็หยุดเดินเเละเริ่มตบกระเป๋าเสื้อ กางเกง และควานหาอะไรสักอย่าง

"นายซื้อของไปก่อนเลย ฮยองจะไปธุระ" แทคยอนพูดจบก็หันหลังกลับเค้าสอดส่องสายตาไปตามถนน

"แทคฮยองจะไปไหนอ่า..โธ๋!!ทิ้งกันเฉยเลยน้า" จุนโฮตะโกนถามตามหลังรุ่นพี่ของเค้าแต่คนตัวใหญ่ไม่ได้สนใจฟังเสียงรุ่นน้องเค้าสักนิด

"แทคล่ะ" มินจุนกลับมาบ้านและไม่เห็นแทคยอนในบ้านและบนเตียงนอนในห้องนอนของเค้า

  "ไปธุระครับมินฮยอง แทคฮยองบอกว่าจะกลับมืดๆ" จุนโฮตอบพร้อมบิดตัวไปมาหลังจากนั่งเล่นเกมส์อยู่หน้าจอคอมตั้งแต่บ่ายแก่ๆ เค้าโทรหาแทคยอนเมื่อรุ่นพี่ของเค้าหายหัวไปนานผิดปกติ และพี่แมวประจำบ้านก็ให้คำตอบว่าติดธุระอาจจะกลับดึก จุนโฮถามเหตุผล แต่ปลายสายกลับเงียบใส่ก่อนจะวางสายไป จุนโฮพยายามโทรอีกหลายครั้งแต่รุ่นพี่เค้าก็ไม่รับสายอีกเลย

"โอ๊ะ...ขอบใจมากนะเด็กน้อย" มินจุนตบไหล่จุนโฮเบาๆก่อนจะเดินหายลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อดูว่าเพื่อนตัวขาวทำอะไรให้กินวันนี้บ้าง

คุณ..คืนนี้นายทำอะไรกินอ่ามินจุนเดินไปกอดคอเพื่อนตัวขาวที่อายุน้อยกว่าเค้านิดหน่อย

นิชคุณ แทคยอน มินจุนเรียนชั้นเดียวกัน แต่เรียนคนละคณะ   3คนนี้สนิทกันตั้งแต่วันแรกของการเข้าเรียนเพราะความเปิ่นของมินจุนทำให้พวกเค้าต้องมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกันที่ห้องพักขนาดเล็กแต่ค่าเช่าบ้านไม่เล็กตาม และเป็นความโชคดีของมินจุนที่ครอบครัวนิชคุณรวยมาก เค้าสามารถผ่อนจ่ายค่าเช่าห้องให้นิชคุณล่าช้ากว่ากำหนดได้โดยที่เพื่อนตัวขาวไม่เคยทวงเงินสักครั้ง

"ผมยังไม่ได้คิดเลย..มื้อดึกกินอะไรดี..ต้องทำเพื่อแทคด้วยไหม" นิชคุณถามขึ้น เพราะวันศุกร์เป็นเวรทำอาหารของเค้า เค้าต้องออกแบบเมนูอาหารและกระปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับจำนวนเพื่อนร่วมบ้านทุกคน

"แทคฮยอง..ปิดมือถือครับ" อีจุนโฮตะโกนตอบจากห้องนั่งเล่น เค้าโทรตามแทคยอนไม่ต่ำกว่า10ครั้งตั้งแต่เห็นนิชคุณเดินเข้าห้องครัว

 นายก็ทำเพื่อแทคไว้สักนิดสิ..นะ..คนนี้หมอนั่นอาจจะหิวกลางดึกก็ได้นะมินจุนกอดคอเพื่อนแน่นๆอีกครั้งก่อนจะผละตัวออกจากห้องครัวกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง วันนี้มินจุนเคมีการบ้านวิชาภาษาอังกฤษกองมหึมา   เค้ากะจะให้เพื่อนตัวขาวช่วยแต่ก็เกรงใจเพราะช่วงนี้นิชคุณดูเบื่อโลกมาก ตั้งแต่เพื่อนซี้เค้าเลิกกับแฟน หมอนี่ก็ดูห่อเหี่ยวไปทุกอย่าง แต่ทำไงได้ล่ะก็ดูเหมือนเจ้าตัวยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าถูกบอกเลิกเพราะอะไร ดังนั้นการบ้านของเค้าช่วงนี้เลยต้องพึ่งพารูมเมทอัจฉริยะซะเป็นส่วนใหญ่ จนเจ้าเด็กท็อปมหาลัยดูจะเปื่อยลงทุกวันเพราะนอนไม่พอ แต่จะให้เค้าทำอะไรได้ล่ะ มินจุนเคไม่ใช่เด็กหัวดีนี่ เค้าต้องมีติวเตอร์เพื่อที่จะสอบให้ผ่านในคะแนนสูงเพื่อขอทุนมหาลัย และโชคดีมากที่อย่างน้อยเจ้าท็อปมหาลัยก็ไม่หยิ่งเกินไปที่จะไม่แคร์เพื่อนสนิทแบบเค้า

"ทำกินกันไปก่อนเถอะครับครับ ได้โปรด" ชานชองขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แต่เค้ายังคงสนใจหนังสือภาษาญี่ปุ่นในมือ ขณะที่นอนอยู่บนโซฟาห้องรับแขกใกล้ๆกับจุนโฮ

 กระเพาะนายนี่ใหญ่พอๆกับตัวนายแน่เลยชาน ...กินข้าวช้าหน่อยไม่ตายหรอก  ว่าแต่นายอ่านมันออกรึไง...ฉันเห็นนายก้มหน้าติดไอหนังสือเล่มนี้มาเป็นเดือนแล้วนะจุนโฮถามชานชองอย่างค่อนแคระ มักเน่ในกลุ่มเค้าชอบทำตัวลอยไปลอยมาไม่ค่อยสนใจอะไรใครเลยนอกจากหนังสือ

 เพราะอ่านไม่ออกถึงต้องพยายามอ่านไงครับ...แฟนคลับให้ผมมา..ถ้าผมไม่อ่านเค้าคงเสียใจแย่ชานชองตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  

 “นายมีแฟนคลับด้วยเหรอ...ใครน่ะ..ไปทำอีท่าไหนถึงฮอตได้ขนาดนี้จุนโฮเปลี่ยนท่าทีทีขึ้นมาทันควัน เค้ารู้สึกถึงอะไรบางอย่างในร่างกายเค้ามันส่งเสียงไม่พอใจ

 “แม่ส่งมาให้บอกว่า...ลูกสาวเพื่อนเค้าบอกว่ามันเป็นหนังสือที่ดีชานชองตอบกลับ
"ฟังดูเหมือนแม่นายพยายามจับคู่ให้นายกับลูกสาวเพื่อนเค้าเลยนะ

จุนโฮปล่อยขำ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่หัวใจเค้ามันเต้นแรงและเค้ากำลังรู้สึกแปลกๆ

 มันก็คงไม่แย่หรอกมั้งชานชองตอบกลับด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

 ชิส์!!...ไม่คุยด้วยแล้วจุนโฮไม่พอใจในคำตอบของมักเน่เอามากๆ หมอนี่ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของเค้าเลยสักนิด สักนิดก็ไม่มี อีจุนโฮโยนจอยเกมส์ในมือทิ้งใส่ท้องมักเน่อย่างแรงจนดูเหมือนจงใจปาใส่มากกว่า เค้าลุกขึ้นและเดินกระแทกเท้าปึงปังเข้าไปในห้องนอนตัวเองและเหวี่ยวประตูปิดเต็มแรง

"....."  ชานชองหยิบของที่อยู่บนหน้าท้องเค้าไปวางที่โต๊ะคอม น้องหมีประจำบ้านไม่สนใจกับอาการเหวี่ยงวีนของชายร่างอวบที่เพิ่งแสดงมารยาทแย่ๆใส่เค้า

ไอเด็กนิสัยไม่ดี..คอยดูนะสักวันฉันจะแก้แค้นนาย’ อีจุนโฮบ่นพึมพำคนเดียว

นิชคุณเดินออกจากครัวเพื่อไปหามินจุนที่ห้อง เค้ารู้สึกเบื่อเหมือนโลกทั้งใบเป็นสีดำ ไม่มีแสงสว่างไม่มีความสุข ไม่มีเสียงหัวเราะ เค้ารู้สึกเหมือนยืนอยู่ก้นหลุมดำที่ไม่มีใครสักคนหย่อนเชือกลงมาช่วยเค้า

"มินฮยอง.....ผมขี้เกียจทำกับข้าวอ่ะ..อากาศข้างนอกไม่ดีเลย..ผมไม่ชอบอากาศแบบนี้" นิชคุณบ่นงึมงำใส่มินจุน เค้าไม่รอฟังคำตอบจากเจ้าของห้องสักกระติ๊ด เค้าปล่อยให้มินจุนทำหน้าเหว๋อใส่เพราะตาแก่แดกูกำลังจะออกความเห็น แต่นิชคุณเดินออกจากห้องเค้าไปแล้ว นิชคุณกลับไปที่ห้องนอนตัวเองเค้าพบจุนโฮนั่งหน้าหงิกเอาหมอนฟาดตุ๊กตาไม่หยุด

 เป็นอะไรอะโฮ...นิชคุณเหลิกคิ้วมองจุนโฮอย่างสงสัย เด็กบ้านนี้มักมีพฤติกรรมแปลกๆ

เปล่าครับคุณฮยองจุนโฮตอบแบบเสียงขึ้นจมูกแต่มือยังคงทำสิ่งที่ทำอยู่

 นายดูเหมือน..เออ...โกรธใครมาเลยนิชคุณถามต่อ

 ไม่มีอะไรหรอกฮยอง..ว่าแต่ฮยองเหอะไม่ทำข้าวให้พวกเรากินเหรอจุนโฮถามกลับใบหน้าเค้ายังคงหงิกงอ

 สั่งมากินเถอะฮยองขี้เกียจ..พวกนายอยากกินอะไรจดใส่กระดาษมาเลยนะ..ฝากบอกคนอื่นด้วย..ฮยองขออาบน้ำแปปนึงนิชคุณพูดจบก็ตรงไปที่ตู้เส้อผ้า เค้าคว้าผ้าขนหนูเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนและเดินเข้าห้องน้ำไปทันที


เสียงประตูรั้วหน้าบ้านเปิดดังเอี๊ยด  เหล่าเด็กๆที่นั่งภายในบ้านก็เดาได้ทันทีว่าใครคือผู้มาเยือนกลางดึกเช่นนี้  ในขณะที่เหล่าเด็กๆนั่งอ่อยอิ่งกินข้าวมื้อเย็นกันอย่างเนิบนาบเพื่อรอคนไปทำธุระ  มันเป็นเวลานานมากกว่าผู้มาถึงจะเดินเข้ามาในตัวบ้าน

 แทคฮยองหรือโจรเนี่ย...ทำไมไม่เข้ามาสักทีเดี๋ยวผมออกไปดูดีกว่า” จุนโฮพูดขึ้นและกำลังจะลุกขึ้นจากโต๊ะโคนัตซึที่เพื่อนแม่ของมักเน่ส่งมาให้เป็นของขวัญปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว ถึงมันจะมีขนาดเล็กแต่พวกเด็กๆก็แออัดยัดขากันเข้าไปได้หมดทุกคน เสียงประตูบ้านเปิดเข้ามาทำให้จุนโฮไม่ต้องออกไปดูคนที่พวกเค้ารอแล้ว

"โอ๊ะ!!ทำไมเปียกยังกะลูกหมาตกน้ำแบบนั้นล่ะ" มินจุนถามขณะจ้องมองเสื้อผ้าหน้าผมของเพื่อนตัวใหญ่ เพื่อนตัวโตไปตกน้ำที่ไหนมารึเปล่ามินจุนคิดในใจหมอนี่ตัวเปียกไปหมดเลย

"กลับดึกเชียว...ไปไหนมาครับแทคฮยอง....ว่ายน้ำกลางดึกมารึฮะ" ควานชานชองถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย   ทั้งที่ปกติหาได้ยากมากที่มักเน่จะแสดงความห่วงใยกับใครในบ้าน

"..ไปฟิสเนสมา" แทคยอนพูดจบก็เดินสะโหลสะเหลไปทางห้องนอนตัวเอง เค้าเหมือนจะเดินชนนู่นชนนี่ทำท่าเหมือนคนเมามากกว่า

"เหรอ..งั้นไปอาบน้ำนอนเถอะ...เดี๋ยวฉันเก็บส่วนของนายไว้ให้" มินจุนตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และหันกับมากินข้าวต่อ

"วันนี้แทคฮยองเป็นอะไรรึเปล่า..ไม่กินข้าวก่อนเข้าห้องนอนอะ" จุนโฮพูดขึ้นมากลางวง

"กินมาแล้วมั้ง" มินจุนตอบ

"หมอนั่นดูไม่เหมือนเหนื่อยจากฟิตเนสเลย..ดูเหมือนเมาตกถังเหล้ามามากกว่า" นิชคุณเปรยขึ้ยมา

"พี่แทคเนี่ยต่อให้ตกถังเหล้าคงไม่เมาหรอก...คนเมาที่ดูน่าห่วงที่สุดคงเป็นฮยองเองมากกว่า" จุนโฮแซวนิชคุณ

"พูดได้ดีโฮ" คิมฮยองเสริมติดตลก

ในขณะที่เหล่าเด็กมหาลัยจัดการกินข้าวกินปลากันเรียบร้อยก็เตรียมตัวแยกย้ายกันไปตามที่ตามทางของตัวเอง จุนโฮ อูยอง นิชคุณนอนห้องเดียวกันเพราะ3คนนี้รักความสะอาดมากเหมาะที่จะอยู่ด้วยกัน ในขณะที่ชานชองชอบนอนพื้นเค้าเลยออกมานอนตีพุงที่ห้องนั่งเล่นทุกวัน ส่วนแทคยอนและและมินจุนเคนอนห้องเดียวกัน

เมื่อเวลาค่อยๆล่วงเลยเข้าสู่ความมืดยามวิกาล มินจุนเคที่ได้แต่พยายามทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษคนเดียวก็เอ่ะใจขึ้น ถึงแม้เค้าจะเปิดเพลงคลอเบาๆไประหว่างทำการบ้าน เค้าก็ยังรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในห้องตัวเอง

"หนาว" เสียงคนบนเตียงบ่นงึมงำๆอยู่ด้านหลังโต๊ะอ่านหนังสือของมินจุน

"แทคเป็นอะไรง่า" มินจุนรีบหันกลับมาดูเพื่อนทันที่ เจ้าเด็กท็อปนอนตัวแดงกระสับกระส่ายไปมา

"...หนาว.." แทคยอนกัดฟันหน้าจนได้ยินเสียงกึ้ดๆ ดังเป็นระยะ

"โอ๊ะ..นายมีไข้นะ..อ๋าทำไงดีนะ.ฮยองไม่มียาด้วยสิ." มินจุนเริ่มวิตกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเค้าไม่ได้อยู่กับแทคแค่2คนนี่นา

พี่ชายคนโตรีบวิ่งออกจากห้องตัวเองไปหยุดที่หน้าประตูห้องน้องๆทันที และไม่มีการเคาะประตูแต่อย่างใดเพราะมินจุนกำลังร้อนรนเสียมากไปจนลืมเรื่องมารยาทพื้นฐานที่ควรมีไปสนิทใจ

"พวกนายใครมียาแก้ไข้บ้าง" มินจุนร้องถามเมื่อเค้าพรวดพลาดเปิดประตูเข้ามาในห้องของเหล่าเด็กๆที่กำลังเตรียมตัวเข้านอน

".เหว๋อ!!.ตกใจหมดฮยอง..เคาะประตูสักหน่อยก็ดีนะครับอูยองร้องขึ้นพร้อมเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรง

 เอาไปทำไรอะไรอะฮยอง" จุนโฮเงยหน้าขึ้นจากหมอนในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น

"แทคไข้ขึ้นอ่ะ" มินจุนพูดเสียงดังด้วยท่าทีวิตกจริต

"โอ๊ะ!!..คุณมียาครับ..ฮยองรอแปปนะ" นิชคุณลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่โต๊ะของเค้า เจ้าชายไทยรื้อๆค้นๆหายาสามัญประจำบ้านที่พ่อแม่เค้ายัดใส่กล่องส่งมาให้ทุกเดือน

"เดี๋ยวฮยองเอาน้ำไปเช็ดตัวด้วย..นายรอหน้าห้องก็ได้เดี๋ยวติดกันหมดพอดี" มินจุนพูดกับนิชคุณ

"ไม่เป็นไรครับผมแข็งแรงดี" นิชคุณคว้ากล่องยาเจ้าปัญหามาทั้งกล่องเพราะเค้าอยากให้แน่ใจว่า แทคไม่ได้ต้องการแค่ยาลดไข้อย่างเดียวจริงๆ

"พวกนายไม่ต้องเข้าไปนะ.." นิชคุณเตือนน้องๆ

"คุณฮยองทำอย่างกับแทคฮยองเป็นเชื้อโรคเลย" ควานชานชองโผ่ลมาข้างหน้าประตูทำเอานิชคุณผวาเฮือก

ย่ะ..หมีนายทำฮยองตกใจหมด..กลับไปนอนซะเด็กดีนิชคุณตบบ่าชานชองเบาๆ

"เชื่อฟังดีๆซะ..ไม่งั้นจะไล่ไปนอนนอกบ้านให้หมด"นิชคุณแยกเขี้ยว

นิชคุณค่อยๆเปิดประตูห้องนอนแทคยอนเบาที่สุดเค้าหวังว่าจะไม่เป็นการรบกวนคนไข้ขึ้น แสงสว่างภายในห้องสว่างไม่มากนักอาจเพราะมินจุนเพื่อนของเค้าเปิดโคมไฟดวงเดียวที่โต๊ะทำงาน นิชคุณมองไปที่เตียงนอนเค้าเห็นคนร่างใหญ่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพื้นหนาของตน ช่างน่าขันนักที่นานๆเค้าจะได้เห็นเจ้าแมวยักย์ดูน่าสงสารถึงเพียงนี้ แทคยอนถึงจะไม่ใช่นักกีฬาแต่เค้าก็สุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอดเรียกได้ว่าเป็นเด็กสุขภาพดีมากทีเดียว แล้วดูวันนี้สิเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าแมวตัวนี้กันนะ มันคงเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่เปียกมะล็อกมะแล็กตอนเดินเข้าบ้านมาแน่ เจ้าเพื่อนตัวใหญ่ของเค้าไปทำอะไรนอกบ้านยามวิกาลกันแน่

"นายนี่นะ..ไปทำอะไรมาก็ไม่เคยบอกใคร..แล้วดูสิ..มาป่วยแบบนี้อีก" นิชคุณค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอนของแทคยอนทีละเม็ดช้าๆเพื่อไม่ให้เพื่อนตัวใหญ่ตื่นจากฝันร้าย เค้าค่อยๆประคองหลังเพื่อนขึ้นช้าๆ ตัวแทคยอนถูกยกตัวขึ้นเบาๆ  นิชคุณสามารถถอดเสื้อออกจากตัวแทคยอนได้สำเร็จ คนผิวขาวค่อยๆปล่อยตัวเพื่อนซี้ลงบนที่ฟูกนอนให้นุ่มนวลมากเท่าที่ทำได้ จากนั้นเค้าก็จัดการหยิบผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆมาบรรจงเช็ดตัวให้เจ้าแมวตัวแดงที่เหงื่อแต่ไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด

"คุณไปนอนเถอะเดียวฮยองดูแลต่อเอง" มินจุนลากฟูกนอนรับแขกออกมาวางในห้องนอนเค้าให้เพื่อนตัวขาวได้พักผ่อนตรงมุมห้อง เค้าไม่อยากให้เชื้อแพ่กระจายหากนิชคุณกลับไปนอนที่ห้องเด็กๆ

"ใกล้เสร็จแล้วครับ..ฮยองไปทำการบ้าน..แล้วเข้านอนเลยดีกว่าครับ.เดี๋ยวคุณดูแทคให้คืนนี้"    นิชคุณยิ้มบางๆให้เพื่อนที่แก่เดือนกว่า

นิชคุณเช็ดตัวให้เพื่อนตัวโตทั้งตัว ร่วมทั้งพยายามปลุกให้แทคตื่นมากินยา ชายหนุ่มบนเตียงสะลืมสะลือลุกจากเตียงด้วยสภาพไม่ต่างจากซากศพเท่าไหร่นัก นิ้วมือเรียวยาวควานหาแว่นตาบนเตียงไปทั่ว ชายหนุ่มพยายามพลิกตัวเพื่อหาแว่นตาของเค้าซ้ำอีก

“..เอามือมา” นิชคุณพูดจบก็ดึงมือแทคยอนมา เค้าหยิบเม็ดยาใส่มือแทคยอนเบาๆ

“กินยาลดไข้ซะ..นายไข้สูงมากเลย”นิชคุณพูดกับเพื่อนที่รับยาไปแต่ยังคงนั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหว

มือเรียวยาวพยายามส่งยาเข้าปากตัวเอง แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าปากตัวเองอยู่ไหน แทคยอนย่นคิ้วด้วยท่าทางหงุดหงิด เค้ามองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเองด้วยซ้ำ

“นายทำอะไรอะ...หาอะไรอยู่”นิชคุณเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเห็นมือใหญ่ขยับไปทางซ้ายทีขวาที

 “แว่น..ฮยองส่งแว่นให้ผมหน่อย” แทคยอนวางยาลงกับเตียงนอนและ ใช้มือเปปะไปทั่ว เค้าเริ่มขยับตัวมากขึ้นเพื่อนควานหาแว่นตา

 

“คุณ!!..ไอ้แทคมันมองไม่เห็นนายหยิบแว่นส่งให้มันที” มินจุนได้ยินเสียงแทคพูดขึ้นขณะที่เค้ากำลังจะหลับ การบ้านของเค้าเสร็จไปเพียงครึ่งเดียวนอกนั้นเค้าทำไม่ได้เค้าจึงตัดสินใจว่าจะหยุดทำแค่ที่ทำได้ และเข้านอนให้เร็วที่สุดเพื่อผลัดเวชกับนิชคุณในการเฝ้าไข้แทค

“โอ๊ะ!!...แว่นเหรอ..แปปนะแทค” คนผิวขาวรีบหยิบแว่นที่โต๊ะหัวเตียงและบรรจงใส้ลงบนหน้าแทคยอน

“กินยาซะแทค”นิชคุณหยิบยาที่เตียงส่งให้แทคยอนอีกครั้ง คนตัวใหญ่ยอมกินยาแต่โดยดี ก่อนจะค่อยๆกระเถิบตัวลงนอนพัก

แทคยอนตื่นขึ้นกลางดึก เค้าปวดหัวน้อยลงและรู้สึกดีขึ้น แทคยอนลุกขึ้นมานั่งและรู้สึกเหมือนมี

ผมใครสักคนคลุมทับมือเค้าอยู่ คนผิวเข้มสะดุ้งสุดตัว เค้าชักมือตัวเองออกอย่างรวดเร็ว หวาดผวากับเส้นผมปริศนา เนื่องจากแทคยอนเป็นคนขวัญอ่อนเค้ากลัวผีที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมบ้าน นี่เค้ากำลังฝันว่าโดนผีหลอกหรือว่ามีใครมานอนในห้องเค้ารึเปล่า แต่ไอบ้านั่นต้องบ้าแน่เพราะดันเอาหัวมาเกยเตียงเค้า หรอไม่ก็เมาหลับไม่รู้เรื่อง แทคยอนยื่นมือไปที่โคมไฟหัวเตียงเค้าปรับแสงไฟให้เป็นแสงขาวก่อนเพราะเนื่องจากแสงสีส้มจะทำให้ทุกอย่างดูน่าสะพรึ่งมากกว่าเดิมเหมือนในหนังผีที่ชอบใช้ไฟสีแปลกๆ



            แสงไฟสว่างวาบเมื่อแทคยอนกดสวิตไฟ เค้าเห็นเพื่อนตัวขาวนั่งหลับบนเก้าอี้และนอนฟุบอยู่ที่เตียงนอนของเค้า ที่โต๊ะหัวเตียงมีอ่างน้ำและผ้าขนหนู ถุงเจลคูลแพ็ค และกล่องยาประจำตัวนิชคุณ แทคยอนพอเดาทางได้ว่านิชคุณคงมาดูแลเค้าก่อนหน้านี้

ขอบใจนะคุณ...แต่นายนอนตรงนี้ไม่ได้หรอก..ตะคริวกินตายเลย" แทคยอนงึมงำกับตัวเอง เค้าสะกิดเพื่อนตัวขาว2-3ทีแต่ไม่มีหวี่แววว่าเพื่อนของเค้าจะรู้สึกตัว แทคยอนมองรอบห้องเค้าเห็นฟูกสำหรับรับแขก1ชุกวางไว้ที่มุมห้อง เดาได้ว่ามันเป็นที่นอนเสริมสำหรับเพื่อนเค้าแน่ แทคยอนค่อยลุกจากเตียงเค้าย่องเบาไปที่ตู้เสื้อผ้าตัวเองและหยิบที่นอนสำรองออกมาอีกชุด มันเป็นของที่แม่เค้าส่งมาให้ตอนวันเกิดเพราะว่าแทคตัวใหญ่กระดูกเยอะแม่ของเค้ากลัวว่าเค้าจะเจ็บหลังเพราะฟูกที่หอพักไม่นิ่มพอ แต่แทคก็ยังไม่เคยแกะมันออกมาใช้ คนตัวใหญ่ค่อยๆแกะห่อฟูกนอนและปูลงบนฟูกสำรองสำหรับแขกเพิ่มขึ้นอีกชั้น เค้าจัดที่นอนให้ดูนุ่มน่านอนจากนั้นก็เดินกลับมายืนมองเพื่อนตัวขาวที่คู้ตัวอยู่บนเก้าอี้

แทคยอนค่อยๆสอดแขนเข้าใต้ขาและแขนของเพื่อนเบาๆ เค้าอุ้มนิชคุณขึ้นและพาเพื่อนตัวขาวมานอน บนฟูกที่เค้าเตรียมไว้พร้อมแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่เครื่องปรับอากาศเค้าสังเกตุเห็นว่าบนหน้าผากนิชคุณมีเม็ดเหงื่อเล็กๆเกาะพราวอยู่ และตามตามตัวก็ดูจะชื้นๆ ส่วนมินจุนเคไม่ต้องสงสัยเลยมินฮยองแทบจะแก้ผ้านอนอยู่แล้วเมื่อแทคยอนปีนบันไดโผล่หัวขึ้นไปดูสภาพเนื่อนร่วมห้อง ทุกคนดูเหมอนจะร้อนจากอุณหภูมิจากเครื่องฮีลเตอร์

"โอ๊ะ..กลับมานอนนี่ได้ไงน่ะ" นิชคุณตื่นขึ้นมาตอนฟ้าสาง เค้าลุกขึ้นนั่งและสงสัยว่าตัวเองละเมอเดินมานอนที่เตียงนอนที่มินฮยองเตรียมไว้ให้งั้นหรือ ว่าแต่เจ้าฟูกนี่หลับสบายเป็นบ้าเลย บางทีเค้าคงต้องถามมินฮยองว่าซื้อมาจากที่ไหน เจ้าฟูกนี่ทำให้อาการปวดหลังของเค้าหายไป เป็นผลทำให้เค้าตื่นสายกว่าปกติ นิชคุณอยากจะเอนตัวลงนอนบนฟูกต่อแต่เค้านึกขึ้นได้ว่าเค้ามาทำอะไรที่ห้องของมินฮยอง นิชคุณรีบลุกขึ้นจากเตียงและปรี่ไปดูเจ้าแมวยักษ์ทันที

 

"โอ๊ะไข้กลับมาอีกแล้วนะแทค"

"กึ๊ดๆ"เสียงคนตัวใหญ่นอนกัดฟันดังขึ้นเบาๆ แทคยอนนอนตัวสั่นระริก เค้าพลิกตัวไปมาเพื่อหาพื้นที่อบอุ่น

"เขยิบหน่อยแทค" นิชคุณสังเกตุว่าอุณหภูมิในห้องต่ำลง คงมีใครสักคนร้อนมากไปแน่ๆ เค้าจึงตัดสินใจดันหลังเพื่อนให้ขยับตัวไปด้านหน้าของเตียงมากขึ้นเพื่อที่เค้าจะได้เข้าไปนอนด้วยได้

 

          “โอ๊ย!!..นี่อะไรเนี่ย..เจ็บง่า..อ๋าคนผิวขาวอุทานเมื่อเค้ามุดเค้าไปนอนหลังแทคยอนเนื่องจากเตียงนอนของห้องมินจุนเคเป็นเตียง2ชั้น การที่ผู้ชายตัวโต2คนจะเบียดตัวเข้าไปนอนด้วยกันมันยากมากจริงๆ นิชคุณทิ้งตัวลงบนกล่องเหล็กขนาด1ฝ่ามือ คนผิวขาวกระเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและหัวเค้ากระแทกเข้าเพดานเตียงเต็มแรง

          “ นี่อะไรอะ!!..นายนี่นะรกตลอด..ทำไมไม่เก็บของให้เป็นที่เป็นทางก่อนนอนน้า ย่ะ..จริงๆเลย”นิชคุณหน้านิ่วคิ้วขมวดสบถยาวเป็นชุด เค้าหยิบฝากล่องสีเขียวมาปิดกล่องและวางลงไปตรงล่องเตียงซึ่งเค้าเดาว่าหน้าจะเป็นที่วางกล่องนั่นแหละเพราะขนาดพื้นที่มันพอดีกัน

"ตัวนายเย็นมากเลยแทค..หวังว่านายคงไม่ตายคาอกฉันนะ" คนผิวขาวกอดหลังเพื่อนไว้ เค้าขยับตัวจนแผ่นอกของตัวเองแนบไปกับแผ่นหลังสีแทนของเพื่อนตัวใหญ่ และเค้าก็หลับไปพร้อมกับคนในอ้อมกอด

 มินจุนเคขยับตัวกระดุ๊กกระดิ๊กบนที่นอน เค้าดึงหมอนมาปิดตาเมื่อรู้สึกว่ามีแสงแดดยามเช้าแยงตาเค้าอยู่ หลังจากควานหาหมอนอิงอยู่สักพักมินจุนฮยองก็คิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนเค้ายกหมอนอิงให้นิชคุณไปใช้แทนหมอนหนุนหัว พี่ใหญ่ของบ้านรีบลุกขึ้นมานั่งทันที เค้านึกได้ว่าเค้าลืมบางอย่างไปเสียสนิทเลย

"แทคเป็นไงบ้าง" มินจุนตื่นมาตอนเช้าและรีบลงจากเตียงชั้นบนเพื่อลงมาดูเพื่อนซี้ที่นอนชั้นล่าง

แทคยอนนอนหลับสนิทโดยมีผ้านวมหนานุ่มคลุมตัวตั้งแต่คอลงมาถึงปลายขา มินจุนยกมือขึ้นอังหน้าผากเพื่อนตัวใหญ่เบาๆ ดูเหมือนว่าไข้ของเพื่อนเค้าจะลดลงมาอยู่ในอุณหภูมิที่โอเคมากแล้ว มินจุนรู้สึกโล่งใจที่เจ้าเพื่อนตัวดีอาการดีขึ้นในเช้าวันนี้

"เหมือนจะดีขึ้นครับ" เสียงนิชคุณดังขึ้นจากที่ไหนสักที่ใกล้ๆตัวเค้า มินจุนหันไปมองที่เตียงนอนของนิชคุณแต่เค้าไม่พบเจ้าของเสียง 

"โอ๊ะ..คุณเสียง..คุณนี่..อ๋า.ผีหลอกแต่เช้าเลย..ไอ้บ้าแทคแกทำฉันประสาทหลอนแต่เช้าเลยนะ" มินจุนเคหันรีหันขวางทำสีหน้าวิตกกังวลอีกครั้ง

"ผีเผลอที่ไหนมี  เสียงผมเอง..ผมอยู่นี่.. ฮยองนี่อยู่กะแทคด้วยกันบ่อยๆจะกลัวผีตามกันไปแล้วนะ"นิชคุณดึงผ้าห่มที่ปกปิดตัวเค้าอยู่ลงมา

 คนผิวขาวมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและนอนกอดเพื่อนแนบแน่นยันเช้าเพราะหวังว่าไอร้อนจากตัวเค้าจะไม่ทำให้เพื่อนเค้าแข็งตาย

"เฮ้ย!!..ทำไมไปอยู่ตรงนั้นล่ะ" มินจุนตกใจสะดุ้งโหยง เค้าถอยหลังทันทีที่ผ้าห่มถูกเปิดขึ้นโดยมือขาวๆด้านหลังแทคยอน

"หมอนี่ตัวเย็นมากเลยครับ..คุณกลัวแทคหนาวตายน่ะ" นิชคุณตอบแบบซื่อๆไร้เดียงสา

"นายเปิดฮีตเตอร์ก็ได้นี่" มินจุนเคแนะนำ ใบหน้าเค้ายังคงตกใจค้างอยู่

"ฮยองไม่ได้เป็นคนมาปิดฮีลเตอร์เหรอ.." นิชคุณทำตาโตใส่มินจุนเค ก่อนจะก้มลงมองเพื่อนตัวใหญ่ด้วยท่าทีสับสน

"เฮ้ย!!...แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดนอนให้ความอบอุ่นก็ได้มั้งเกิดนายติดหวัดอีกคนจะแย่เอานะ" มินจุนเองก็งงๆ เพราะเค้ามั่นใจว่าเมื่อคืนเค้าก็คิดว่าอากาศในห้องร้อนมาก แต่เค้าไม่ได้ลงมาปิดฮีทเตอร์แล้วเปิดแอร์แทนแน่ๆ

"เพื่อนกันไม่เป็นหรอกครับฮยอง" นิชคุณยิ้มบางๆให้มินจุน

"แล้วนี่หมอนี่..ยังไม่ตื่นอีกเหรอ" มินจุนถามนิชคุณเมื่อสังเกตุว่าคนตัวใหญ่หลับสนิทจริงๆ หลับจนดูเหมือนตายไปแล้วเลย ขนาดมีคนมายืนนินทาใกล้ขนาดนี้หมอนี่ยังไม่สะทกสะท้าน

"ผมว่าให้แทคนอนยาวอีกหน่อยดีกว่าเมื่อคืนเหมือนหลับไม่ดีเลย..น่าจะเพราะไม่สบายตัวรึเปล่า" คนผิวขาวตอบอย่างคนมีภูมิอยู่บ้าง ถึงเพื่อนตัวโตจะเป็นพวกหลับง่ายตื่นยากแต่แทคยอนก็ดูแย่จริงๆเมื่อคืนนี้ ถึงนิชคุณจะกอดให้ความอบอุ่นแทคยอนไว้ เค้าก็ยังรู้สึกได้ว่าแทคยอนยังคงหนาวสั่นตลอด1ชม.แรก

"แล้วนายล่ะจะนอนต่อไหมล่ะ" มินจุนถามนิชคุณเมื่อเห็นว่าขอบตาคนผิวขาวก็ดูช้ำๆเหมือนกับนอนไม่พอเช่นกัน

"ก็ดีครับ" นิชคุณตอบ พร้อมยกมือขึ้นบิดขี้เกียจ ปากก็หาวหวอด เค้านอนไม่พอจริงๆแหละ โชคดีที่วันนนี้เป็นวันเสาร์และเค้าไม่ต้องไปรับแฟนไปเดทอีกแล้ว เค้าว่างโคตรๆ ว่างจนคิดไม่ออกว่าจะเอาเวลา1วันในวันหยุดไปทำอะไร เค้าเคยใช้ชีวิต2ปีกับการคอยดูแลเทคแคร์แฟนในวันหยุดในทุกเวลาที่เค้าว่างเพราะทิฟอยากเจอเค้าทุกวัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

 ‘ ทำไมกันนะ ทั้งที่ให้เวลาเธอมากขนาดนี้แล้วเธอยังทิ้งผมไปได้อีกครับแม่..คุณทำอะไรผิดไปงั้นเหรอนิชคุณคิดในใจ

"นายจะนอนต่อ..ตรงนี้..ไม่เมื่อยเหรอ" มินจุนฮยองถามอย่างสงสัยในเมื่อเจ้าแมวยักษ์อาการดีขึ้นแล้ว ทำไมนิชคุณไม่ลุกไปนอนที่อื่น

"ฮะอะไรนะครับ..ฮยองว่าอะไรนะ" นิชคุณมั่วแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้สนใจฟังคำพูดของมินจุนเลย

"ฮยองถามว่านายจะนอนต่อ..ตรงนี้เหรอ..ไม่เมื่อยเหรอมินจุนมองหน้านิชคุณอย่างสนอกสนใจมากขึ้นอีกนิด

 ‘ช่วงนี้หมอนี่ใจลอยโคตรเลย..คนอกหักก็แบบนี้แหละ..เฮ้ยคนบ้านเรานี่จะมีใครสักคนที่สมหวังไหมเนี่ย’

"ไปนอนเตียงฮยองข้างบนก็ได้นะสบายกว่า" มินจุนบอกนิชคุณที่ทำท่าเหม่อลอยออกนอกอวกาศอีกครั้ง

          ไม่เป็นไรครับ..ผมไปนอนเตียงที่พื้นก็ได้ครับ..หลับสบายมากเลยนิชคุณจัดแจงขยับกล้ามเนื้อแขนขาที่หดเกร็งของตัวเองเพื่อที่จะเขยิบร่างกายตัวเองให้เบาที่สุดและลงจากเตียงไม่ให้เจ้าของเตียงตื่น

                ไม่เจ็บหลังเหรอ..เตียงฮยองนิ่มกว่านะมินจุนถามอย่างเป็นห่วง

               โอ๊ะ..ไม่เลยครับฟูกนอนนี่นิ่มมากเลยผมชอบมาก..ฮยองซื้อที่ไหนเนี่ยผมอยากได้มากเลยนิชคุณเอนตัวลงนอนหลังพูดจบ เค้ารู้สึกเหมือนตาจะปิดตลอดเวลา ‘ก็ดีนะอย่างน้อยก็ทำให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ต้องคิดว่าจะทำอะไรให้ใคร’

                ฟูกบ้าเนี่ยนะนิ่ม..โอ๊ะ!!..นี่ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย..ไอ้นี่มันฟูกที่แม่แทคส่งมาให้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ..แสดงว่าไอ้แมวนี่ตื่นมาตอนกลางคืนจริงๆสินะ..แผนสูง.. 5555 หรือว่าทนเห็นใครบางคน ทนทรมานไม่ได้กันนะมินจุนยิ้มคนเดียว บ่นคนเดียวจากนั้นก็พาตัวเองไปอาบน้ำให้ชุ่มปอด ปล่อยเด็กๆเค้านอนกันไปเหอะ 

                               'นานๆทีฉันก็ควรเปิดโอกาสให้นายบ้างสินะแทค'





 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น