วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

เศษเสี้ยวความทรงจำแห่งรัก17

หลังจากนิชคุณพาแทคยอนไปทานข้าวกลางวันกันเสร็จ คนผิวขาวก็จูงมือแทคยอนที่เดินท้องตึงออกจากร้านอาหาร เจ้าแมวมารยาทดีกินข้าวแบบถูกต้องตามมารยาทบนโต๊ะอาหารไม่มีคำพูดชวนหวาบหวิวมาให้สะดุ้งโหยงอีก แต่เจ้าแมวก็ซัดบะหมี่ไปหลายถ้วยอยู่ เรียกได้ว่ากระเป๋าเบากันเลยทีเดียว


            “แทครอคุณแปปนึงนะ..คุณไปกดเงินแปปนึง” คนผิวขาวปลีกตัวไปทำธุระที่ตู้ธนาคาร เค้าปล่อยแทคยอนไว้ที่หน้าร้านบะหมี่ ใจนึงคือ นิชคุณอยากเห็นแทคยอนตอนต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางฝูงชน คนผิวขาวแอบมองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ


            “คุณ...มาทำอะไรที่นี่จ๊ะ หญิงสาวในชุดหุ้มสั้นเสมอหูปรากฎตัวข้างกายคนผิวขาว เจสสิก้าคว้าแขนนิชคุณมาโอบตัวเธอไว้


            “เจส!!...ทำอะไรน่ะ” นิชคุณรีบชักแขนตัวเองกลับ เพียงแค่ชั่ววูบที่เค้าหันไปหาเจสสิก้าและหันกลับไปยังจุดที่แทคยอนยนรอเค้าอยู่ คนตัวโตท่ามกลางฝูงชนก็หายตัวไปซะแล้ว


            “แทค!!..นายไปไหนน่ะ” นิชคุณตาโตเหลิกลั่ก เค้ารีบวิ่งข้ามฝั่งถนนกลับมาที่ร้านราเมงทิ้งให้เจสสิก้ายืนกัดฟันอยู่หน้าชาที่ถูกคนหน้าตาดีทิ้งอย่างไร้เยื่อใยเพื่อไปหาผู้ชายอีกคนนึง


            นิชคุณวิ่งไปรอบๆ ทางเดินใกล้ๆ เค้าถามผู้คนที่เดินผ่านเค้าทุกคน ว่ามีใครเหห็นแทคยอนไหม แต่กลับไม่มีใครเห็นเจ้าแมวยักษ์ตัวโตหน้าตาดีสักคน


            “พี่ควอน...ปู่..ออกมาจากออฟฟิตก่อนได้ไหม..ช่วยคุณหน่อย..แทคหายตัวไป..ช่วยหาตัวแทคหน่อย” น้ำเสียงคนผิวขาวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เค้าไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆแทคยอนถึงหายตัวไป


            อูยอง โจควอน ปูแพนด้ารีบออกมาจากออฟฟิสทุกคนแตกตื่นกับข่าวที่เพิ่งรู้


" จอดตรงนี้ก่อน" ซีวอนปรายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ เค้าจับจ้องไปที่กลุ่มคนที่อยู่อยู่ข้างออฟฟิสของเค้า


" ผู้ชายคนนั้นใช่คนที่ชกนายในผับวันนั้นรึเปล่า " ซีวอนชี้ไปทางผู้ชายตัวโตที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนพื้นฟุตบาท


" ดูเหมือนว่าใช่ครับ..ทำไมมันดู...เอ่อ.." ชางมินขมวดคิ้วอย่างสงสัย ไอ้ตัวโตนั่นทำไมถึงมาอยู่ในสภาพนี้


" ฉันอยากคุยกับเค้า" ซีวอนพยักเผยิบไปทางกลุ่มคนด้านนอก


" ครับคุณซี" ชางมินรีบลงจากรถทันที


" เฮ้ย!! พวกแกทำอะไรอยู่วะ รังแกคนไม่มีทางสู้สนุกนักเหรอ" ชางมินเเยกเขี้ยวยิงฟัน ใส่นักเลงวัยรุ่น4 คน พร้อมปลายตามองชายหนุ่มร่างยักษ์ที่นอนหมอบตัวติดพื้นไม่ขยับ


" เฮ้ยแกเป็นใครวะ..อย่ามายุ่งดีกว่า"  กลุ่มเด็กวัยรุ่นดูไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ


" ฉันเป็นใครแกไม่รู้จัก..แสดงว่าเด็กน้อยทั้งหลายไม่ใช่คนแถวนี้สินะ ..." ชางมินพูดจาลากเสียงกวนโทสะ


" กลับบ้านไปนอนดูดนมแม่ไป!!" ชางมินตะเพิดเสียงดัง


" เสือกไปแล้วไอ้แก่!! ยุ่งไม่เข้าเรื่อง" เด็กหนุ่มคนนึงเงื้อมไม้เบสบอลขึ้นหวังจะฟาดใส่ชางมิน


" เอาสิ..ถ้าคิดว่ามือไวกว่าลูกตะกั่วก็เอาเลย"  ชางมินคว้ามือหยิบปนที่เหน็บไว้ที่เอวจ่อหัวเด็กที่ถือไม่เบสบอล และแสยะยิ้มส่งสายตาเย็นเฉียบให้ เด็กหนุ่มทั้ง4  คน


" ขี้โกงนี่หว่า"  เด็กหนุ่ม4 คนเริ่มแสดงท่าทางกลัวออกมาจนเห็นได้ชัด


" แถวนี้ไม่ใช่สนามเด็กเล่น..อยากตีเบสบอลก็ไปสนามโรงเรียนโน่น..แต่ถ้าอยากตายก็มาที่นี่ได้ตลอดเวลาคุณซีวอนเค้าสนองให้พวกแกได้" ชางมินตวาดใส่กลุ่มเด็ก


" ชเว ซีวอนเหรอ!!...ซวยแล้ว" เด็กหนุ่มคนนึงร้องเสียงหลงเมื่อเค้าแลซ้ายแลขวาและเพิ่งสังเกตุว่า พวกเค้าก้าวล้ำเข้ามาในเขตของมาเฟียย่านกังนัม แถมพวกเค้ายังยืนอยู่ข้างสำนักงานใหญ่ของเจ้าพ่อกลุ่มมาเฟียอีกตะหาก


" เออ..ขอโทษครับ!!..กลับเว้ย..กลับเลย" เด็กหนุ่มที่ดูฉลาดที่สุดในกลุ่มอุทานรีบลากเพื่อนจากไปทันที


" เฮ้..นายเป็นอะไรไหม" ชางมินลดตัวลงมานั่งข้างแทคยอน เค้าใช้มือจับเข้าที่บ่าของแทคยอน


" ไม่!!... อย่านะ..อย่า" แทคยอนหันตัวกลับมาเค้าปัดมือของชางมินออกอย่างแรง เค้าเขยิบตัวหนีชางมินที่มานั่งข้างตัว


ใบหน้าคนผิวเข้มแดงช้ำหลายตำแหน่ง ทั้งแก้ม เปลือกตา และมุมปาก ดวงตาเรียวยาวมีน้ำตาเคลือบวาววับ เลือดสดสีแดงไหลจากปลายคิ้วมาจรดปลายคาง


".คิ้วนายแตกนะ.." ชางมินผงะเล็กน้อยกับท่าทีประหลาดของชายร่างใหญ่


ชางมินล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา เค้ายื่นให้แทคยอน แต่ยิ่งทำให้คนตัวใหญ่แสดงอาการตื่นกลัวมากกว่าเดิม แทคยอนเริ่มเบ้หน้า เบะปาก


" คุณ..คุณ..คุณอยู่ไหน..แทคกลัว" แทคยอนบ่นงึมงำคนเดียวไม่หยุดปากและไม่สนใจชางมินที่นั่งอยู่ข้างๆเลย


ชางมินเปลี่ยนใจเค้าตัดสินใจจะซับเลือดที่หน้าให้คนตัวใหญ่แทน  เพราะแทคยอนไม่รับผ้าเช็ดหน้าจากเค้า


" ทำไมวะ!!...รังเกียจผ้าเช็ดหน้าเก่าๆใช้แล้วของฉันรึไง" ชางมินเอาผ้าเช็ดหน้ากดลงบนหัวคิ้วแทคยอนอย่างรวดเร็วจนคนตัวใหญ่ตั้งตัวไม่ทัน


"ไม่..อย่า..โอ้ยๆ.. คุณ.คุณ..แทคเจ็บ..คุณ..ชาน..ชานช่วยแทคด้วย" แทคยอนร้องเรียกชื่อนิชคุณดังลั่น และดิ้นหนีมือของคนแปลกหน้า


" คุณ.คุณไหนวะ.." ชางมินกดแผลแรงขึ้น จนรู้สึกว่าเลือดน่าจะหยุดไหลแล้ว


" หยุดดิ้นได้ไหม เดี๋ยวพ่อตบใส้แตก" ชางมินเงื้อมมือขึ้น เค้ากำลังโมโหและรำคาญ


"อย่า..ไม่..แทคกลัว..ชาน..ช่วยแทคด้วย" แทคยอนโวยวายด้วยน้ำเสียงสั่นระริก คนผิวเข้มหลับตาปี๊หันหน้าหนีด้วยความตกใจ


" น่ารำคาญชิบ..แกเป็นบ้าอะไรวะ ไม่รู้เว้ย.คุณของแกอยู่ไหน..แต่แกต้องไปกับฉัน" ชางมินกระชากแขนคนตัวใหญ่ขึ้น


" แง้...อือ..คุณ...ชาน.ช่วยแทคด้วย..แทคเจ็บ" แทคยอนปล่อยโฮ ร้องไห้ออกมาเสียงดัง เค้าเริ่มสะบัดตัวหนีอย่างแรง


" เฮ้ย!! ร้องไห้ทำไมวะ..แกเป็นเด็กหรือไงวะ...ไอ้กร๊วกนี่." ชางมินทำหน้าตาตื่นตระหนก เค้าหมุนตัวหนี หันกลับไปหาเจ้านายเค้าและส่งสัญญาณบอกว่าเค้าเอาหมอนี่ไปหาเจ้านายไม่ได้




rrrrrr


  " ครับคุณซี..ครับหมอนี่ร้องไห้เป็นเด็กปัญญาอ่อนเลย..ทำไงดีครับ" ชางมินเกาหัวแกรกๆ


"งั้นช่างมันเถอะไม่ต้องพามาแล้ว แต่จัดการส่งคืนไปหาไอ้หน้าหวานด้วยละกัน..บอกมันด้วยว่าอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉันไม่งั้น ..ฉันจะฆ่าเพื่อนมัน" ซีวอนแค่ต้องการจะขู่นิชคุณ


" เอ๊!!..แล้วผมจะไปส่งหมอนี่ที่ไหนล่ะครับ" ชางมินร้องเสียงหลง


" ตามสบายนายละกัน..หึหึ" ซีวอนขำท่าทางของชางมิน ' ไอ้โย่งนี่มันเป็นอะไรวะ วันนั้นมันไม่ได้ปัญญาอ่อนแบบนี้นี่หว่า..แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรของฉันนี่'  ซีวอนสั่งให้บอดี้การ์ดขับรถพาเค้าออกจากสำนักงาน


rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr


" เสียงโทรศัพท์..โทรศัพท์แกดังใช่ไหม" ชางมินถามชายตัวโต แต่แทคยอนไม่สนใจฟังคำพูดเค้าเลย


" แม่งเอ๊ย!!.. แก่ปญอ.รึเปล่าวะ " ชางมินเริ่มค้นตัวแทคยอน


 ' เริ่มจากไอ้เวรที่โทรมานี่แหละ มันต้องรู้เเน่ๆว่าจะเอาไอ้ปญอ.นี่ไปส่งคืนได้ที่ไหน' ชางมินคิดอย่างหงุดหงิด


"ไม่อย่า..อย่านะ.." แทคยอนสะบัดตัวหนีและพยายามพลั่กชางมินออกไปให้ห่างตัว


" เฮ้ย!!หยุดบ้าสักที" มือใหญ่ของชางมินตะคุบเข้าที่คอเสื้อแทคยอน เเละเค้าตวาดใส่คนตรงหน้าเสียงดัง จนทำให้แทคยินนิ่งค้างไปชั่วขณะ ชางมินรีบรับโทรศัพท์ทันทีที่เค้าเจอกับทางรอดของเค้า


" ฮัลโหลแทค..แทค ..นายอยู่ไหน" คนผิวขาวพูดเสียงดัง น้ำเสียงบ่งบอกความเป็นห่วง


" ไอ้หมอนี่ชื่อแทคเหรอ..แกคือคุณใช่ไหม" ชางมินถามกลับอย่างหงุดหงิด  อย่างน้อยเค้าก็จำเสียงไอ้ขี้เมาวันนั้นได้


" นายเป็นใคร..รับโทรศัพท์แทคได้ยังไง..แกต้องการอะไร" นิชคุณถามรัวเป็นชุด


" ใจเย็น..เรื่องมันยาว...เอาเป็นว่า..ดูเหมือนเด็กนายหลงทาง ..มารับหมอนี่กลับไปทีได้ไหม..เร็วๆนะโว้ย..ฉันไม่ได้ว่างทั้งวัน" ชางมินพ่นคำพูดเป็นชุด ใจนึงชางมินก็จะเอาแทคยอนไปส่งตำรวจแต่หมอนี่ไม่ยอมขยับไปไหนเลย แถมไม่ยอมให้เค้าเข้าใกล้ด้วย


" งั้นคุณรออยู่ตรงนั้นนะ..เดี๋ยวผมจะรีบไปรับทันทีเลย" นิชคุณวางสาย รีบวิ่งกลับไปตามทางที่ชางมินบอกไว้


เค้าไม่น่าเล่นอะไรแผลงๆเลย เค้าเกอบจะทำคนรักหายตัวไปอีกครั้งแล้ว ตำแหน่งที่เจ้าแมวยักษ์หลงไปก็ไกลจากตำแหน่งที่เค้าอยู่มาก ดูเหมือนสัตว์เลี้ยงแสนรักของเค้าจะเที่ยวเพลิน ไกลจนเหมือนกับต้องวิ่งจนสุดแรงหรือนั่งรถไปโผล่ตรงนั้น


" แทค!!.." นิชคุณรีบลงจากรถแทกซี่  เค้าร้องเรียกชื่อคนรักเสียงดัง


" คุณ..แทคเจ็บ..ช่วยแทคด้วย" แทคยอนหันขวับทันทีที่ได้ยินเสียงคนคุ้นเคย


" พระเจ้า!!เกิดอะไรขึ้นเนี่ย " นิชคุณตาโต เค้าอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นสภาพของแทคยอนคนผิวขาวโผกอด รวบร่างกายของเจ้าแมวตัวใหญ่มาแนบกาย


" คุณ..แทคกลัว..แทคเจ็บ..ช่วยแทคด้วย" คนผิวเข้มโอบหลังคนผิวขาวแน่น เค้าซบหน้าลงบนไหล่ของนิชคุณ


" คุณไปไหนมา..แทคกลัว" แทคยอนงึมงำข้างหูคนผิวขาว


" โอ๋ไม่เป็นไรนะคนดี..คุณมาแล้ว..เดี๋ยวคุณจะพาไปหาโฮจังนะ..โฮจังทำให้แทคหายเจ็บได้รู้รึเปล่า" นิชคุณปลอบใจแทคยอน เค้าใช้มือทั้ง2 ข้างลูบหัวและแผ่นหลังกว้างของเจ้าแมวยักษ์


" แกทำอะไรเค้า.แกคนที่ทะเลาะกับเราในผับนี่หว่า..แกต้องการอะไร." นิชคุณเงยหน้ามองชางมินตาเขียวปั้ด เค้าแยกเขี้ยวยิงฟัน


" เฮ้ย!!..น้อยๆหน่อยนะโว้ย..ฉันมาช่วยไอ้ลูกหมานี่นะโว้ย..แม่งชนะกูเสือกแพ้นักเลงฟันน้ำนม ถุย!!" ชางมินโมโหเค้าเตะขาอย่างหงุดหงิด


" แทคไม่ใช่หมานะ..แทคเป็นแมว" นิชคุณเถียง


" โอ้ยจะหมาจะแมวก็ไม่ใช่เรื่องของกูโว้ย" ชางมินหัวเสียมากขึ้นอีก


" ฉันไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กนะโว้ย..แกมาแล้วฉันไปได้แล้วใช่ไหม" ชางมินแยกเขี้ยวใส่คนผิวขาวเช่นกัน


" เออใช่นายฉันสั่งมา..อย่ามายุ่งกับคุณเจสสิก้าอีกไม่งั้น คุณซีไม่ปล่อยพวกนายแน่" ชางมินพูดทิ้งท้ายก่อนสะบัดสูทเดินเฉิบๆจากไป


" ลุกไหวไหมแทค.." นิชคุณพยุงแทคยอนลุกขึ้น


" เจ็บ!!.. แทคเจ็บ" แทคยอนพยายามลุกขึ้นแต่ลุกไม่ไหว เค้าทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น จนนิชคุณเซลงพื้นเกือบจะพร้อมกัน


"โอ้ย!!" นิชคุณเบ้ปาก เค้าล้มทับแทคยอนอีกแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะโครงสร้างสัดส่วนร่างกายและน้ำหนักที่เล็กและน้อยกว่าของนิชคุณทำให้เวลาแทคยอนล้อมนิชคุณเลยเซตามไปด้วยทุกที


" เจ็บตรงไหนแทค..ขอดูหน่อยแทค" นิชคุณถามอีเหมียว


" ขา..แทคเจ็บที่ขา" แทคยอนชี้นิ้วบอกตำแหน่งให้นิชคุณดู


" ไหนขอดูสิหน่อยนะ" คนผิวขาวเลิกขากางเกงข้างขวาแทคยอนขึ้น แทคยอนสะดุ้งเฮือก หลับตาปี๊ซบไหล่คนผิวขาว


" บ้าเอ๊ย!!"  นิชคุณสบถเสียงดัง


ข้อเท้าแทคยอนบวมม่วง และหน้าแข้งด้านข้างช้ำแดงอมม่วงและเขียว รอยเหมือนโดนฟาดด้วยของแข็งคนผิวขาวรีบกดโทรศัพท์ตามจุนซูทันที เค้าต้องการคนขับรถมารับเค้าและแทคยอนไปโรงพยาบาล


" อา..โหล..มีไรคร๊าบเจ้านาย...เจอเจ้าแมวแล้วใช่ไหม" พี่แพนด้ารับโทรศัพท์


ตอนที่มีคนพบแทคยอน นิชคุณก็โทรบอกจุนซูว่าเค้าพบแทคยอนแล้ว ทุกคนเลยกลับไปทำงานต่อ


" ขับรถมารับหน่อย..เดี๋ยวนี้เลย..เอากระเป๋าแทคกับคุณออกมาด้วย.." นิชคุณพูดเสียงเครียด


" อืมโอเค"  พี่แพนด้ารู้สึกถึงความผิดปกติเค้าคว้ากุญแจรถและวิ่งออกจากออฟฟิสอย่างรวดเร็ว


" พี่ไปไหนอ่ะ" โจควอนร้องถาม


" ไปรับคุณกับแทค..งานนี้มีเรื่องแน่ๆ" พี่แพนด้าพูดทิ้งท้าย


จุนซูมาช่วยพาแทคขึ้นรถ ทั้ง3มาโรงพยาบาล และพาแทคยอนกลับบ้านนิชคุณ คนผิวเข้มนอนหลับซบไหล่นิชคุณมาตลอดทาง นิชคุณถูกชานชองและจุนโฮตำหนิกับความคิดที่ทิ้งแทคยอนไว้ข้างนอกคนเดียวนั่นยิ่งทำให้คนผิวขาวเครียดและรู้สึกผิดมากขึ้น


" นายจะเหนื่อยเกินไปไหมคุณ..ถ้าแทคเป็นแบบนี้ไปตลอดล่ะ" จุนซูถามนิชคุณอย่างจริงจัง


" ...." นิชคุณไม่ตอบแต่มือเค้ายังลูบผมแทคยอนตลอด


" แทคเหมือนเด็ก5 ขวบตลอดเวลาแบบนี้..นายจะดูไหวเหรอ" จุนซูถามต่อ เค้าเห็นแล้วเหนื่อนแทน ทำงานงกๆ แล้วยังต้องมารู้สึกเหมือนเลี้ยงลูกอีก


" จะ5ขวบหรือ10 ขวบ แทคก็ยังเป็นแทคนะครับพี่" นิชคุณลูบผมแทคยอนอย่างเบามือ


" ไม่เหนื่อยหรอก..เดี๋ยวก็ปรับตัวได้" นิชคุณยกยิ้มอย่างมีความสุข


''แทคดูแลคุณมาเยอะแล้ว ให้คุณดูแลแทคบ้างก็ได้ ถ้าแทคกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง คุณอาจไม่ได้มีโอกาสเป็นฝ่ายต้องเทคแคร์แทคแล้วก็ได้ " คนผิวขาวพูดเรื่องจริง


" 5555 ก็ในหัวอิเหมียวมันสนใจแต่จะปกป้องนายนี่" จุนซูยิ้มเช่นกัน


อีเหมียวยักษ์อ่อนโยนและยอมนิชคุณตลอด เค้าดูแลและปกป้อนเพื่อนตัวขาวของเค้าอย่างดี มันทำให้จุนซูรู้สึกว่า เค้ากล้าที่จะปล่อยนิชคุณไว้กับแทคยอน




  แทนที่อาการทางด้านจิตใจแทคยอนจะดีขึ้น กลับกลายเป็นว่าตอนนี้แทคยอนดูอารมณ์แย่ลงกว่าเดิม เค้ามีอาการปวดขาจนน้ำตาคลอในตอนเช้าเมื่อตื่นนอน


            “คุณ...แทคปวดขา” คนตัวโตนั่งเบะหน้าเขย่า แขนคนผิวขาวที่นอนข้างกายเค้าในตอนเช้ามืด


            “อืม..หือ” นิชคุณลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกตัว เค้าลุกขึ้นนั่งมองหน้าแทคยอนชั่วครู่ ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าแทคยอนโดนตีที่ขามา


            จุนโฮพาแทคยอนไปเอ็กซ์เรย ผลที่ได้คือกระดูกหน้าแข้งด้านข้างร้าว แต่ไม่ถึงกับแตกจนผิดรูป ส่วนข้อเข้ามีอาการผลิกของเส้นเอ็น หลังจากดูฟิลม์เสร็จแล้ว ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เพราะเจ้าแมวยักษ์เกิดอาการสติแตกไม่ยอมให้เข้าใกล้ขา และสถานการ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นจนถึงขั้นไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเข้าใกล้ตัวเอง


            สุดท้ายแล้วจุนโฮเลยผสมยานอนซึมมากับน้ำดื่มให้กับแทคยอน พวกเค้าลองวางแก้วน้ำไว้ตรงหน้าแทคยอนแล้วแต่เจ้าแมวยักษ์ไม่ยอมกินน้ำเอง เอาแต่นั่งกอดตัวเองเป็นลูกบอลกลมๆข้างกำแพงห้องตรวจ นิชคุณใช้เวลานานมากในการปลอบแทคยอน และส่งน้ำให้เจ้าแมวยักษ์ดื่ม เมื่อยาออกฤทธิ์ คนตัวโตก็สิทธ์เรี่ยวแรงในการต่อต้าน


            “ระหว่างที่ใส่เฝือกไว้  ห้ามให้คุณแทคเดินเองโดยไม่ใช้ไม้ค้ำยัน ข้างที่เจ็บห้ามให้รับน้ำหนักเด็ดขาด และถ้าคุณแทคคัน แกห้ามเอาไม้ลงไปแยงให้เหมือนในหนังนะโว้ย....ถ้าเค้าคันแกก็ใช้พัดลมเป่าขาเค้าไป โฮจะให้ยาแก้คันไป แกให้กินเฉพาะเวลามีอาการนะคุณ โฮจะให้แคลเซียมไปด้วย กระดูกจะได้ผสานตัวเร็วขึ้น แล้วก็อย่าให้เผือกโดน้ำ  พยายามทำกายภาพบำบัด เดี๋ยวโฮไปสอนให้ที่บ้าน เข้าใจที่พูดไปไหม” หมออีจุนโฮอธิบายยาวเหยียด เพื่อนตัวขาวนั่วจุ่มปุ๊กห่อปาก พยักหน้าหงึกหงักๆ


            “คุณ..นายนี่นะ..ขยันหาเรื่องจริงๆ” จุนโฮพูดจบก็จ้องหน้าเพื่อน แถมขมวดคิ้วใส่นิชคุณด้วย


            “ขอโทษ” นิชคุณสำนึกผิดกับการกระทำของตัวเอง


            “โฮ!!....ความทรงจำแทคกลับมาด้วยนะ...มีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้นเลย..เราเดินผ่านบ้านจี..แล้วความทรงจำแทคก็กลับมา..ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่มันไม่มีเรื่องดีๆเลย” นิชคุณตีหน้าเครียดเมื่อเค้าพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้


            “อาจต้องใช้เวลาอีกสักพักละมั้ง...โฮคิดว่ากว่ากระดูกจะเชื่อมกันสนิท...ตอนนั้นคุณแทคคงได้ความทรงจำกลับมาแล้วล่ะ...เพราะกว่ากระดูกจะหายน่ะ..มันตั้งหลายเดือนเลยล่ะ” จุนโฮจิกกัดเพื่อนตัวขาวไม่ปล่อย


            “โฮ...คุณซีเรียสนะ” นิชคุณหน้ามุ่ยกับคำตอบที่ไม่ค่อยเข้าหูผู้ฟังแบบเค้า


            “โฮไม่ใช่จิตแพทย์ไม่ใช่นักบำบัดหรือหมอระบบประสาท แต่เดี๋ยวโฮจะไปคุยกับหมอยองให้นะ..ขอบใจที่บอกเรื่องนี้..” จุนโฮลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะตรวจมาตบบ่าเพื่อนหลายที


            “คุณชานอยากคุยกับนาย” อีจุนโฮต่อสายโทรศัพท์ในห้องทำงานส่งให้เพื่อนสนิท และก็เป็นไปตามคาดที่เพื่อนตัวขาวจะนั่งน้ำตาซึมเพราะโดนพี่ชายหวงน้องอย่างควาน ชานชองตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรง และวางสายใส่


            นิชคุณวางหูโทรศัพท เค้านั่งก้มหน้านิ่ง


            “คุณ...ที่คุณควานเค้าว่านาย...เพราะเค้ารักน้องชายเค้า..นายเข้าใจใช่ไหม...ถ้าโฮเป็นคนก่อเร่องนี้ คุณควานก็คงด่าโฮเหมือนกัน หรือแม้แต่นายก็คงโกรธโฮเหมือนกัน” อีจุนโฮบีบมือเพื่อนเบาๆเป็นการให้กำลังใจ


            “อืม” คนตัวขาวพยักหน้าเบาๆ คิมจุนซูที่นั่งนิ่งข้างกำแพงมองดูรุ่นน้องเจ็บปวด เค้าก็พลอยรู้สึกแย่ไปด้วย แต่นี่เป็นทางที่นิชคุณเลือก เค้าไม่มีสิทธ์เข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไร


            “พาคุณแทคกลับเถอะ...ถ้านายอยากพาคุณแทคไปเดินเล่น..เอาวีลแชร์ไปใช้ก่อนนะ..เดี๋ยวโฮให้ไปด้วยเลยล่ะกัน 2อาทิตย์แรกมันอาจจะปวดขามากอยู่นะ ทนหน่อยละกัน” จุนโฮบอกนิชคุณก่อนจะเรียกบุรุษพยาบาลมาพาแทคยอนไปส่งที่รถของเพื่อนซี้


            นิชคุณคิดพลางเดินไปหยิบยาที่โต๊ะข้างประตูห้องนอน เค้าหยิบยาแก้ปวดออกมา2เม็ด ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำเย็นที่ตู้เย็นกลับมาให้คนที่นั่งเป็นหุ่นสต๊าฟบนเตียงนอน


            “แทค..” คนผิวขาวคลานขึ้นเตียงนอน ขยับตัวมานั่งตรงหน้าคนตัวโต


            “หลับตาสิ” คนผิวขาวสั่งเสียงแหบพร่า


            “....” คนตัวโตหลับตาตามคำสั่ง เมื่อนิชคุณเห็นว่าแทคยอนหลับตา เค้าก็ลืมหย่อนยาใส่ปากตัวเอง ก่อนจะผลักร่างคนตัวโตลงนอนราบไปกับฟูกนอนนิ่มหลัง ฝ่ามือขาวขยับมือสอดประสานนิ้วมือคนผิวเข้มไว้ทั้ง2ข้าง


            “คุณ”  แทคยอนลืมตาเพราะตกใจ ริมฝีปากอิ่มแดงประกบลงบนริมฝีปากบางหยักรุนแรงราวกับจะบดขยี้ริมฝีปากคู่งามให้ช้ำไปพร้อมๆกัน เรียวลิ้นเล็กรีบทำหน้าที่ของมัน คนร่างขาวส่งเม็ดยาลงคอคนตัวใหญ่ไปอย่างง่ายดาย แต่เค้ากลับไม่ปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระง่ายๆ เมื่อได้เริ่มต้น นิชคุณก็ไม่อยากให้มันจบลงเพียงแค่การป้อนยา


            “อืม..อื้อ” เจ้าแมวยักษ์เริ่มหน้าแดงจากการขาดลมหายใจ สุดท้ายแล้วนิชคุณก็ต้องยอมปล่อยแทคยอนให้เป็นอิสระ เพราะเจ้าแมวยักษ์ดันกลั้นลมหายใจจนตัวแดงกล่ำ


            “แทคไม่ชอบเหรอ” นิชคุณจ้องมองใบหน้าคนรักภายใต้ร่างกายเค้าด้วยแววตาช่ำเยิ้ม


            “..” คนตัวโตอึกอัก หอบหายใจจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรง


            “แทค..ลืม” เจ้าคนตัวโตเอ่ยคำสัตย์


            “งั้นเหรอ...งั้นนอนกันเถอะ..ไว้มีเวลาเราค่อยเรียนรู้กันใหม่ละกันนะ” คนผิวขาวยิ้มละไม ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างกายคนร่างใหญ่ พร้อมรั้งเอวเจ้าแมวยักษเข้ามากอดไม่ปล่อย


            “คุณโกรธรึเปล่า” แทคยอนพลิกกายหันกลับมาสบตานิชคุณ


            “ทำไมคุณต้องโกรธด้วยล่ะ..แทคเป็นแบบนี้ก็น่ารักดีนะ...แต่ไม่ว่าแทคจะเป็นแบบไหนคุณก็รักแทคอยู่ดี..แทคไม่รู้ตัวเลยเหรอ” คนผิวขาวขยับใบหน้าอวบขาวของตนเข้าใกล้ใบหน้าเรียวตอบ


            “ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน จนวันนี้และวันสุดท้ายของชีวิต...คุณก็จะรักแทคแบบนี้ไปตลอดกาล” คนผิวขาวเอื้อนเอ่ยคำพูดที่แทคยอนไม่เข้าใจ แต่หัวใจของเจ้าแมวยักษ์กลับเต้นรัวแรงราวกับมันสั่นไหวไปด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมล้น นิชคุณจุมพิตที่ปลายจมูกเจ้าแมวยักษ์เบาๆก่อนจะหลับตาลง


            เมื่อยามเช้ามาถึง คนผิวขาวก็ออกจากห้องนอนไปเตรียมอาหารเช้ากลับเข้ามาที่ห้องนอนของตน เจ้าแมวยักษ์ยังคงนอนหลับสบายใจ


            “แทคตื่นได้แล้วนะ” นิชคุณรีบปลุกแทคยอนมาทานข้าว เช้าวันนี้เค้ามีแผนจะพาแทคไปนั่งนั่งรถเล่น และจะพาเจ้าแมวไปปิคนิคที่อิลซาน งานนี้อาจจะหนักหน่อยเพราะเค้าต้องอุ้มแทคลงไปหาที่นั่งพักผ่อนข้างบ่อน้ำ


            “หือ..แทคง่วง...แทคยังไม่หิว” คนตัวโตดึงผ้าห่มขึ้นปิดหน้า


            “ไปปิคนิคกัน..แทคอยากเห็นซากุระต้นเดือนไม่ใช่เหรอ” นิชคุณจำได้ว่า พวกเค้ามักไม่ค่อยมีเวลาไปดูซากุระบานกันซักเท่าไหร่ กว่าจะหาเวลาไปดูซากุระบานได้ เจ้าดอกไม้สีขาวอมชมพูก็ร่วงโรยแทบจะหมดทั้งสวนแล้ว และเจ้าแมวยักษ์มักจะโวยวายเมื่อมันเห็นแต่กิ่งก้านของต้นซากุระแทนที่จะเป็นดอก


            “ซากุระ...คืออะไร” คนตัวโตทวนคำ ก่อนลุกขึ้นมานั่งหลับตาใช้ความคิด


            “ไม่ต้องคิดตอนนี้หรอก..เราไม่มีเวลาขนาดนั้น” นิชคุณพูดจบก่อนอุ้มร่างคนตัวใหญ่เข้าห้องน้ำ เตรียมเก้าอี้นั่ง และเก้าพาดขาให้แทคยอนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเค้าก็รีบจับเจ้าแมวยักษ์ขัดสีถลีวัลย์ตามคำแนะนำของหมอตาตี่


           


            นิชคุณพยุงร่างคนตัวโตออกมาขึ้นรถหน้าประตูบ้าน เค้าเตรียมวีลแชร์ใส่ท้ายรถไปด้วย  ล่าสุด นิชคุณเพิ่งถอยรถออดี้หลังคาสีแดงมา เพราะเจ้าแมวยักษ์ดูจะสนใจรถคันนี้เป็นพิเศษ เมื่อมันมีโอกาสได้ท่องเนตครั้งแรกหลังจากป่วยมาหลายอาทิตย์ แทคยอนดูมีความสุขเมื่อเห็นเจ้ารถเปิดประทุนคันงามหน้าตรงหน้าชัดๆ เค้ายิ้มเมื่อมองมัน


            “ชอบใช่ไหมล่ะ...ขึ้นไปนั่งสิ..ข้างในมันโฉบเฉี่ยวกว่าสิ่งที่แทคเห็นตอนนี้อีกนะ” คนตัวขาวส่งร่างคนตัวใหญ่ขึ้นไปนั่งบนรถ


            “ชอบไหม” คนผิวขาวรีบถาม


            “คุณชอบมันเหรอ..คุณซื้อมาเหรอ...มันแพงมากเลยนะ” แทคยอนรีบถามกลับเช่นกัน


            “เปล่า...คุณซื้อเพราะแทคชอบ...มันแพง...แต่มันคุ้ม..ถ้าทำให้แทคมีความสุข..เอาล่ะนั่งดีๆนะ..ห้ามยืน..ห้ามเอาชิ้นส่วนไหนออกนอกรถโอเคไหม..ไม่งั้นคุณจะเอารถไปคืนเค้า” นิชคุณตอบ


            “อืม...” คนตัวโตพยักหน้า แต่เค้ากลับไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่ นิชคุณรอบมองแทคยอนอย่างสงสัย เค้าควรจะถามความรู้สึกเจ้าแมวน้อยตอนนี้ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วค่อยหาโอกาสคุยกันทีหลัง


            “เราจะไปไหนกัน...ซากุระคืออะไรน่ะ” แทคยอนเอ่ยถามเมื่อนิชคุณขับรถออกจากบ้านมาชั่วครู่


            “ไปที่ๆแทคบ่นอยากไปทุกปีไง” คนผิวขาวตอบเศร้าๆ


            “ที่ๆแทคอยากไปเหรอ...อิลซาน...มันไกลจากโซลทาวเวอร์ไหม” คนตัวโตเปรยขึ้น


            “โซลทาวเวอร์?” นิชคุณเลิกคิ้วสะดุดกับคำนี้


            “แทคเคยอยากไปที่นั่น...แทคเคยฝันถึงมันบ่อยๆ...ที่นั่นมีใครบางคนรอแทคอยู่..แทคเคยขอร้องให้ชานพาแทคไป...แต่แทคไม่เจอใครเลย...บางทีแทคอาจแค่ดูละครแล้วเก็บไปฝันก็ได้” แทคยอนกล่าวเศร้าๆ


            “แทคไปโซลเพราะอยากเจอใครเหรอ” นิชคุณขมวดคิ้ว


            “ไม่รู้..รู้แค่ว่ามันเป็นวันเกิดเค้า..และเราสัญญากันว่าเราจะไปที่นั่นด้วยกัน...มันจะเหมือนอิลซานไหม...ที่นั่นมีใครรอให้แทคไปหารึเปล่า” คนตัวโตพร่าเพ้อมองเหม่อออกไปนอกตัวรถ


            “เราสัญญากันไว้ว่าจะไปโซลด้วยกัน...และเราสัญญาว่าจะไปดูดอกไม้ด้วยกันแทค” คนผิวขาวคว้ามือแทคยอนมาจับไว้แน่น นิชคุณกล้ำกลืนฝืนทนกับความรู้สึกผิดมากขึ้นเมื่อเค้ารู้ความจริงจากปากแทคยอน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พวกเค้าเจอกัน ไม่ใช่เพราะแทคพาชานชองไปพลอดรักท้าทายเค้าที่โซลทาวเวอร์ เค้ามักจะคิดมากไปเอง เค้าโยนความผิดให้แทคยอนทั้งหมดมาโดยตลอด


             นิชคุณขับรถพาแทคยอนมาถึงอิลซาน  เค้าพาแทคลงจากลง ให้คนตัวโตนั่งวีลแชร์ คนผิวขาวเลือกหมวกสีดำใบสวยให้แทคยอน1ใบเพื่อไม่ให้แดดทำร้ายผิวสีเข้มของแทคยอนไปมากกว่านี้


            เมื่อมาถึงจุดแลกบัตร นิชคุณก็พาแทคยอนไปที่จุดรับฝากสัตว์เลี้ยง คนตัวโตทำหน้าเหว๋อเลิกลั่ก เจ้าหน้าที่จุดบริการยืนงงที่ชายหน้าตาดีเข็นวีลแชร์มาหยุดที่บูธรับฝากสัตว์


            “มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” เจ้าหน้าที่เอ่ยถาม


            “ฝากแมวตัวนึงได้ไหมครับ..ผมจะไปซื้อบัตร” นิชคุณยิ้มแป้น


            “แมว!!” แทคยอนทวนคำพร้อมกันกับเจ้าหน้าที่ชาย


            “ครับ” คนผิวขาวตอบกลับ พร้อมกระซิบข้างหูเจ้าหน้าที่ชาย


            “เค้ามีปัญหาเรื่องตื่นคนน่ะครับ...ผมอยากได้คนที่เท้าไวพอที่จะไล่จับแมวเตลิดได้” นิชคุณอธิบาย เจ้าหน้าที่จุดรับฝากของกลืนน้ำลายเฮือก


            “คุณจะไปไหนน่ะ” คนตัวโตยื่นมือจับชายเสื้อของนิชคุณไว้


            “ไปซื้อบัตรเข้างาน...แทครอนี่นะครับคนดี..อย่าดื้อนะ” นิชคุณบีบมือแทคยอนเบาๆ คนตัวโตพยักหน้าเศร้าๆ


            “ขาเจ็บรึครับ” เจ้าหน้าที่ชายชวนแทคยอนคุย


            “.....”คนตัวโตนั่งนิ่งเป็นหิน


            “ไม่ต้องกลัวหรอกครับ..ผมไม่กัดพี่หรอกครับ” เจ้าหน้าที่ชายอายุน้อยกว่าแทคยอนกล่าวขำๆ


            นิชคุณรีบไปซื้อตั๋วโดยเค้าขอให้เจ้าหน้าที่รีบออกบัตรให้เพราะเค้าพาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านความทรงจำมาด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็รีบออกบัตรให้ทันที คนผิวขาวรีบวิ่งกลับมาที่จุดรับฝากสุนัข เค้าเห็นแทคยอนยิ้มหวานให้กับหนุ่มน้อยหน้ามนเจ้าหน้าที่รับฝาก นิชคุณรู้สึกเจ็บข้างในหัวใจ เค้ากำลังหึงหวง เค้าไม่ชอบท่าทีที่เด็กหนุ่มกำลังอ่อยแทคยอน


            “แทค!!..” นิชคุณขึ้นเสียงมาแต่ไกล ใบหน้าคนผิวขาวหงิกงอ


            “คุณ...หมาตัวนี้น่ารักจัง” คนตัวโตอุ้มลูกสุนัขสีขาวไว้ในมือ หน้าตามันเหมือนสุนัขพันธ์ปอมผสม


            “หึ..ที่น่ารักนี่หมายถึงหมาจริงๆใช่ไหม” คนผิวขาวจ้องหน้าเด็กหนุ่มไม่วางตา มือขาวรวบรั้งกลุ่มผมที่ต้นคอของแทคยอน นิชคุณกระตุกรั้งหน้าแทคยอนให้เชิดขึ้นรับจูบจากริมฝีปากเค้าต่อหน้าเด็กหนุ่ม


            “อื้อ..อา..คุณ” คนตัวโตเคลิ้มเคลิมไปกับรสจูบหวานๆ น้องหมาบนตักของเค้าเงยหน้าขึ้นมองตามไปด้วย เด็กหนุ่มน้อยหน้ามนยืนหน้าชา เค้าไม่คิดว่าเค้ากำลังขั้วฝ่ายรับเหมือนตัวเอง


            “อย่ายุ่งกับคนของฉัน” นิชคุณปล่อยริมฝีปากบางหยักให้เป็นอิสระ เค้าเงยหน้าขึ้นมา ยืนเต็มความสูง ส่วนสูง181cm.ของนิชคุณทำไมเด็กหนุ่มกลืนน้ำลาย  เด็กน้อยเคยคิดว่าผู้ชายหน้าสวยใสราวผู้หญิงสาวคนนี้ไม่ว่าจะสูงสักเท่าไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหาของเค้าเพราะคนที่เค้าสนใจคือคนบนวีลแชร์ แต่ดูเหมือนผู้ชายหน้าสวยคนนี้จะไม่ยอมง่ายๆซะแล้ว


            “แทค..เอาหมาคืนให้เค้าไป” นิชคุณอุ้มลูกหมาจากมือแทคยอนส่งให้เด็กหนุ่ม ชายบนวีลแชร์หยู่ปาก สายตาละห้อยเมื่อต้องจากน้องใหม่น่ารักไป


            “พี่ไปก่อนนะครับเอ็ดดี้” คนตัวโตยกมือโบกลา


            “แปปเดียวก็รู้จักชื่อกันแล้วเหรอ..หน้าตายังกะเกาหลีสไตส์แต่ชื่อฝรั่งมากเลยนะ..ทำไมหึแทค..นายนี่ชอบผูกสัมพันธ์กับคนบ้านเกิดตัวเองรึไง” คนผิวขาวประชดด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ คนผิวขาวกัดริมฝีปากตัวเอง ในความคิดเค้า ถ้าเป็นเวลาปกติแทคยอนจะไม่เข้าหาใคร และไม่ยอมตีสนิทกับใครง่ายๆ เหมือนเค้าคอยพะวงความรู้สึกของนิชคุณตลอด เพราะนิชคุณเป็นพวกหวงของหนักมาก


            “คุณไม่ชอบเอ็ดดี้เหรอ..มันออกจะน่ารักนะ..ขนนิ่มมากเลย” แทคยอนเงยหน้าถามคนรักที่กำลังเข็นรถวีลแชร์ไปตามทางสู่พื้นที่จัดโชว์ดอกไม้


            “นิ่ม..นี่นายเล่นหัวกันแล้วเหรอ” นิชคุณกัดฟันกรอด


            “ไม่ใช่แค่หัวนะ..แทคได้จับทั้งตัวเลย..แทคไม่เคยชอบหมาเลย..หมาน่ากลัว...แต่เอ็ดดี้น่ารักต่างจากหมาตัวอื่นจริงๆ”แทคยอนตอบกลับ


            “เอ็ดดี้ที่ว่านี่หมายถึงหมาเหรอ..ไม่ใช่ไอ้เด็กนั่นใช่ไหม” นิชคุณกลืนน้ำลายเฮือก


            “ทำไมแทคต้องไปจับเด็กคนนั้นด้วยล่ะ” แทคยอนเอียงคอสงสัย


            “เหรอ..ฮะ..ฮะ” คนผิวขาวหน้าแดงขึ้นมา เค้าเอานิสัยคิดไปเองมาใช้อีกแล้ว


            “อ๊ะ..นี่อะไรอะคุณ” คนตัวโตเอื้อมมือคว้าสิ่งที่ปลิวผ่านหน้าเค้าไว้ได้ทัน มือใหญ่เปิดดูสิ่งของในมือ


            “แดนดิไลออน...ดอกไม้น่ะ..จริงๆดอกมันเป็นสีเหลืองนะ..แต่ตอนนี้มันกำลังติดเมล็ดน่ะ..ขนสีขาวแบบนี้ทำพวกมันลอยลมได้น่ะ” นิชคุณอธิบาย เค้าวางแผนจะพาแทคยอนมาเที่ยว ดังนั้นเค้าเลยต้องหาความรู้เยอะหน่อย เพราะเจ้าเด็กโข่งตัวใหญ่ยักษ์กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาสมองและความทรงจำ จะยัดอะไรลงไปก็ต้องเป็นเรื่องจริง


            “ดอกสีเหลืองเป็นยังไงเหรอ..แทคอยากเห็น” แทคยอนโอบอุ้มเจ้าดอกไม้ขนฟูไว้ในมือ


            “ถ้าเจอคุณจะชี้ให้ดูนะ”นิชคุณพาวีลแชร์ของแทคยอนออกเดินทางอีกครั้ง  เค้าพาแทคยอนเข้าชมดอกไม้นานาชาติ มีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายให้ความรู้อยู่ทุกบูธ นิชคุณพาแทคยอนออกมาข้างนอกเพื่อหาจุดทานอาหาร


            “คุณ..มีร้านอาหารไทยด้วย..ดูสิ..คุณไม่ทานเหรอ” แทคยอนพูดและชี้ไปยังหุ่นไม้ผู้หญิงใส่ชุดไทยยืนพนมมออยู่หน้าร้าน


            “แทคอยากกินไหมล่ะ” คนผิวขาวถาม เค้าแปลกใจที่อยู่ๆแทคยอนก็พูดถึงร้านอาหารไทย ตั้งแต่แทคยอนความจำเสื่อม เค้าคิดว่าเค้าไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นคนไทยเลย


            “แทคอยากกินมังคุด” คนตัวโตออกปาก


            “ฮึ..ในนั้นไม่มีมังคุดหรอกนะ..เอาเป็นข้าวสิ” นิชคุณเลิกคิ้วขึ้นครั้งที่2 เจ้าคนตัวโตพูดชื่อผลไม้เมืองไทย ที่เค้าเคยเอามาแกล้งแทคยอนให้กินทั้งเปลือก ครั้งแรกเจ้าตัวหน้าแหย โกรธเค้าเป็นวัน แต่พอได้กินเนื้อข้างในก็พร่ำบ่นแต่จะกินเจ้ามังคุด แต่เพราะในเกาหลีผลไม้ไทยนั้นราคาสูงมาก นิชคุณเลยต้องใช้เส้นสายนำมังคุดกับอาหารไทยผ่านคนรู้จักเข้าประเทศมาฝากแทน


            “ข้าวเหรอ..ข้าวของคนไทย” คนตัวโตเกาคอแกรกๆ แทคยอนพยายามใช้ความคิด


            “ไม่ต้องพยายามคิดขนาดนั้นก็ได้...งั้นเข้าไปดูเมนูก่อนละกันนะ..จะกินไม่กินค่อยว่ากันอีกที” นิชคุณตอบพลางเข็นรถพาแทคยอนมาที่แท่นโชว์เมนูอาหาร เค้าหยิบสมุดเมนูลงมาให้แทคยอนดู


            “ข้าวผัดหมู” แทคยอนเอ่ยสำเนียงไทยชัดมากราวกับเป็นภาษาบ้านเกิด


            “อ่านภาษาไทยได้ด้วยเหรอ” นิชคุณเลิกคิ้วรอบที่3


            “มันมีทับศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่ตรงนี้” คนตัวโตชี้นิ้วลงบนตัวหนังสือ


            “อ่อ.แล้วจะกินไหมละ.”นิชคุณยิ้มเขินๆ


            “กิน” แทคยอนพยักหน้าหงึกหงัก นิชคุณพาแทคยอนเข้าร้านอาหารไทย เค้าสั่งไก่ทอด ข้าวผัดหมู น้ำแตงโมปั่นให้แทคยอน ส่วนตัวเองกินกระเพาไก่ไข่ดาว น้ำแตงโมปั่น


            ทั้งสองทานข้าวกันจนอิ่มแปร้ นิชคุณพาแทคยอนออกมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เค้าสั่งชุดข้าวหน้าปลาไหล ซูชิรวมมิตร อีก4กล่อง โดยให้แทคยอนอุ้มไว้บนตัก


            “เราจะไปไหนกันต่อ” แทคยอนถาม


            “ไปดูซากุระ” นิชคุณยิ้มบางๆ เค้าค่อยๆเข็นรถพาแทคยอนข้ามสะพานเข้าสู่สวนอิลซาน  ต้นไม้ที่ประดับด้วยดวกไม้สีขาวอมชมพูบานสะพรั่งไปทั่วท้องฟ้า


            แทคยอนนั่งตะลึงกับความสวยงามที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน


            “สวยจังคุณ..นี่คือซากุระเหรอ” แทคยอนถาม


            “ใช่..นี่คอดอกซากุระที่แทคอยากเห็นไง” คนผิวขาวเข็นรถมาตามทางเดิน ข้างในสวนแทบจะเป็นอุโมงค์ดอกซากุระ แทคยอนเงยหน้ามองดอกไม้ตาไม่กระพริบ


            “แทคชอบที่นี่...สวยจัง..แทคไม่เคยเห็นอะไรสวยแบบนี้มาก่อนเลย” คนตัวโตน้ำตาคลอ


            “คุณจะพาแทคมาอีกทุกปีเลย...แทคอยากมากับคุณอีกไหม” นิชคุณก้มหน้าลงถามคนรัก


            “คุณจะพาแทคมาอีกเหรอ..สัญญานะ...ไม่เอาซากุระหมดต้นแล้วนะ..”แทคยอนพูดขึ้น


คำพูดของแทคยอนที่หลุดออกมาทำให้นิชคุณค่อยๆเข้าใจไปทีละนิด ความทรงจำเก่าๆของแทคยอนค่อยๆกลับมา แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างปิดกลั้นใจแทคยอนไว้ทำให้เค้าเหมือนนึกได้และลืมมันไปอีก


“ไม่มาตอนหมดต้นแล้วเชื่อสิ..คุณไม่อยากเห็นแทคงอแงเป็นเด็กไม่รู้จักโต” นิชคุณขยี้หัวคนตัวโตเบาๆอย่างเอ็นดู


 


            คนผิวขาวเข็นรถพาแทคยอนเที่ยวๆรอบๆ ทั้งลานน้ำพุ โซนดอกไม้ ศาลาที่พักข้างทางเดิน สถาปัตยกรรมสวยงามทำให้คนผิวเข้มยิ้มไม่หุบ นิชคุณพาแทคยอนมานั่งริมน้ำ เมื่อเห็นแทคยอนตาปรือๆ ราวกับเจ้าแมวยักษ์กำลังจะหลับ


            “แทค..หลับตาสิ” นิชคุณสั่งอีกครั้ง


            “..” คนผิวเข้มหลับตาตามคำสั่ง นิชคุณป้อนยาเข้าปากแทคยอน ครั้งนี้เค้าแค่ป้อนยาเท่านั้นเพราะเห็นท่าทีอ่อนล้าของเจ้าแมวตัวโต


            หลังจากนิชคุณให้ยาแทคยอนจนครบ คนผิวเข้มก็นอนหลับลงบนพื้นหญ้าริมน้ำ โดยนิชคุณนอนเป็นเพื่อนแทคยอนข้างๆ คนผิวขาวมองนอนมองท้องฟ้าอยู่ชั่วครู่ก็หลับตาลงเช่นกัน เมื่อนิชคุณลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งเค้าก็พบว่าท้องน้ำยามนี้สวยเหลือเกิน เป็นเวลาใกล้พลบค่ำ น้ำพุกลางบ่อน้ำถูกเปิดขึ้น


            “แทค..ตื่นเร็ว” นิชคุณเขย่าตัวคนข้างกายจนเจ้าแมวยักษ์ลืมตาขึ้น


            “สวยจัง..” คนตัวโตดีดตัวพึ้งขึ้นนั่งมองน้ำพุสีขาวท่ามกลางแสงไฟ สายลมเย็นๆพัดมากระทบร่างคนตัวใหญ่


            “ขอบคุณนะคุณ..วันนี้แทคมีความสุขมากเลย” คนตัวโตกล่าวคำขอบคุณก่อนจะดึงร่างคนผิวขาวเข้ามากอดแนบอก


            “อืม” นิชคุณซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอคนผิวเข้มในอ้อมแขนของตน


            “แทคตัวเย็นจัง..หนาวเหรอ” นิชคุณถาม


            “ไม่หนาวหรอก..กอดคุณแบบนี้ก็อุ่นแล้ว” แทคยอนตอบกลับ


            “แสดงว่าหนาวสินะ..งั้นรีบกลับกันเถอะ” คนผิวขาวพยุงร่างแทคยอนให้ลุกขึ้นยืน และนั่งลงบนวีลแชร์ แทคยอนนั่งกินซูชิระหว่างทางกลับ เค้าเอี่ยวตัวกลับมาป้อนซูชิให้นิชคุณไปด้วย  ใช้เวลานานพอสมควรกว่าทั้งคู่จะกลับถึงรถ ขากลับนิชคุณต้องปิดประทุนเพราะกลัวคนตัวโตจะเป็นหวัดซะก่อน


            เมื่อกลับถึงบ้าน นิชคุณก็อาบน้ำให้เจ้าแมวยักษ์ เค้าจัดการป้อนยา และพาเจ้าแมวยักษ์เข้านอน ส่วนตัวเค้าเองก็จัดการก๊อปปี้ไฟล์รูปจากมือถือลงคอม คนผิวขาวนั่งมองรูปคู่ที่เค้าถ่ายกับแทคยอนวันนี้อย่างมีความสุข พวกเค้าไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันมานานมากแล้ว รูปในอดีตทั้งหมดที่เคยมี นิชคุณจัดการทำลายทิ้งไปหมดแล้ว และเค้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนี้เป็นต้นไปเค้าต้องสร้างความทรงจำที่ดีขึ้นมาใหม่




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น