“นี่กี่วันแล้วล่ะ” คนผิวขาวถามกลับ นิชคุณกำลังนั่งหั่นเปลือกมังคุดให้เจ้าแมวยักษ์
“กี่วัน?” แทคยอนย้อนคำถาม เค้าขยับรถเข้ามานั่งข้างๆตัวคนผิวขาว
“ใส่เฝือกมากี่วันแล้ว” นิชคุณถามเน้นคำประโยคให้ชัดขึ้น
“แทคใส่เฝือกมาเป็นเดือนแล้ว..แทคไม่เจ็บแล้ว..เมื่อไหร่จะถอดออกได้สักที” คนตัวโตบ่นยาว นิ้วมือสีเข้มเอื้อมหยิบมังคุดที่ถูกคว้านเปิดเปลือกจนเห็นเนื้อในสีขาวบริสุทธ์ในจานข้าวขึ้นมา
“แทคกินได้ไหม” คนตัวโตชูเจ้าผลไม้เปลือกสีม่วงอมดำโชว์ให้นิชคุณดู
“ต้องทำยังไงก่อน” คนผิวขาวแกล้งแซวเจ้าแมวยักษ์เล่นๆ
“อ๊า...พวกผู้ชายนี่นิสัยเหมือนกันหมดเลย!!” เจ้าแมวยักษ์บ่นเสียงดัง
“เหมือนกัน” นิชคุณมองหน้าแทคยอนอย่างสงสัยในคำพูด
จุ๊บ!!
คนผิวขาวตาโตเป็นไข่ห่าน เจ้าแมวตัวโตอยู่ๆก็ยื่นใบหน้าเรียวตอบเข้าใกล้เค้า ริมฝีปากบางหยักกดจูบเข้ากับใบหน้าสีขาวผ่องเบาๆ มีเสียงจุ๊บเบาๆข้างหูนิชคุณ
“......” คนผิวขาวยกมือที่เปลื้อนน้ำสีม่วงจากเปลือกมังคุดขึ้นลูบแก้มตัวเองปอยๆ
“คุณ...หน้าเลอะหมดแล้วนะ” แทคยอนร้องทัก
“ฮึ..อ๊ะ!!..ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวค่อยล้างออกก็ได้” คนผิวขาวตื่นจากพวังค์ในบัดดล
“ใครสอนให้จูบแก้มแบบนี้น่ะแทค” นิชคุณเปรยขึ้นเบาๆ
“ชาน..ชานบอกให้จูบขอบคุณ” แทคยอนตอบหน้าซื่อ
“ย่าห์!!...พี่ชายนายเนี่ย...มันน่านักจริงๆ” คนผิวขาวสบถพร้อมกัดฟันกรอดๆ สอนน้องชายมาแต่ละอย่างดีๆทั้งนั้น
“ห้ามทำแบบนี้กับใครอีกนะ...รู้ไหม” นิชคุณเอ็ดใส่เจ้าแมวเสียงดัง
“ทำไมล่ะ” คนตัวโตถามกลับ
“ไม่ทำไมหรอก...แทคมีแฟนแล้ว..ปากแทค มือแทค ตัวแทคเป็นของคุณ..เข้าใจรึเปล่า..ห้ามนายไปเกาะแกะใคร..ห้ามให้ใครมาโดนตัวนายด้วย” คนผิวขาวรู้สึกเลือดขึ้นหน้า
“ทีคุณยังยอมให้ใครไม่รู้มากอดแขนได้เลย..ทำไมแทคจะโดนตัวคนอื่นไม่ได้..ไม่ยุติธรรมเลย” แทคยอนสะบัดเสียงอย่างไม่พอใจ
“กอดแขน?...เมื่อไหร่” นิชคุณเลิกคิ้วขึ้น
“วันที่คุณทิ้งแทคไว้หน้าร้านบะหมี่...”แทคยอนเลื่อนรถวีลแชร์หนีหลังจากที่เค้าพูดจบ
“เดี๋ยวแทค...แทคเข้าใจผิดแล้ว..แทค” คนผิวขาวรีบก้าวเท้าตามวีลแชร์ของคนรักทันที
“ปล่อย!!”
แทคยอนขืนตัวออกจากวงแขนของคนรัก เมื่อนิชคุณขยับตัวมาขวางหน้ารถวีลแชร์และคว้าตัวแทคยอนมากอด
“แทค..แทคเข้าใจผิดนะ..คุณไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลยนะ” นิชคุณไม่ยอมปล่อยมือจากแทคยอน
“เชื่ออะไรไม่ได้สักอย่าง ปากบอกว่ารักจีแต่ก็ทิ้งจี ปากบอกว่ารักจีมากแต่ก็ยังไปนัวเนียกับผู้หญิงอื่น..บอกว่าแทคเป็นของคุณแต่ตัวเองกลับยอมให้ผู้หญิงอื่นมากอด เชื่ออะไรไม่ได้เลย ...คนหลายใจ...” คนตัวโตสติแตก
“ซื้อรถเพราะอยากเห็นแทคมีความสุขเหรอ...เอาเงินมาล่อแทค...ใช้เงินซื้อตัวแทค..จะโปรยเงินใส่แทคอีกใช่ไหม แทคไม่ได้ขายตัวนะ..แทคไม่ได้ขายตัว...ปล่อยแทคนะ...อย่ามาจับตัวแทค!!ปล่อยยยย” เจ้าแมวยักษ์เริ่มออกแรงดิ้นแรงขึ้น คนตัวโตพยายามลุกหนีจากวีลแชร์
“แทค!!...ใจเย็นๆสิ..แทคอย่าทำแบบนี้” นิชคุณตะลึงกับถ้อยคำเสียดสีที่หลุดออกมาจากปากคนรัก ดูเหมือนความจำของเจ้าแมวกำลังล้นทะลักและตีกันวุ่นวาย
“ปล่อย!!..ปล่อยแทคนะ..บอกให้ปล่อย...ชาน..ชาน” คนตัวโตแหกปากลั่นบ้าน ดีดดิ้นจนทั้งตัวเค้าและนิชคุณล้มเทกันมาข้างหน้า วีลแชร์ที่แทคยอนนั่งอยู่ล้มกลิ้งลงกับพื้น
“เจ็บ..แทคเจ็บ..เจ็บ..ชาน..โอ้ย” เจ้าแมวยักษ์ครวญคราง กัดฟันแน่น ใบหน้าเจ้าแมวยับย่น ดวงตายาวเปิดสนิท แทคยอนงอตัวเป็นกุ้ง มือใหญ่หนาจับเฝือกสีขาวที่ขาตนเอง จังหวะที่ทั้งคู่ล้มลง ขาข้างที่เข้าเฝือกไว้ฟาดลงกับพื้นจนเฝือกสีขาวแตกเป็นทางยาว
RRRRRRRRRRRRRRRRRR กริ๊งงงงงงงงงงงงง
“ไม่อยู่บ้านมั้งพี่...ไม่รับโทรศัพท์ด้วย” เสียงแหลมใสของโจควอนเจื้อยแจ้วอยู่ข้างคิมจุนซู
“อยู่สิ..ตะกี้พี่เพิ่งคุยกะไอ้หมาเอง” คิมจุนซูตอบ
“ลองเรียกดูไหม” มินโฮออกความเห็น
“คุณณณณณณ...แทคคคคคคคค....เปิดประตูหน่อยยยยยย...พี่มาแว้วววววว” คิมจุนซูร้องเสียงดังหน้าประตูบ้านของเจ้านายเค้า
“ไอ้ลูกหมา...ข้างงงง...นอกกกกก..มันร้อนนะโว้ยยยยย..”โจควอนช่วยประสานเสียงอีกคน
“คุณ..อย่าเพิ่งนอนสิ..คุณ..แทคเจ็บขา” คนตัวโตลืมตาขึ้น เค้าเห็นใบหน้าของคนผิวขาวอยู่ระดับเดียวกับสายตาของเค้าบนพื้นราบ
“คุณ!!” แทคยอนเอื้อมมือเขย่าตัวคนผิวขาวหลายทีแต่ดูเหมือนคนรักของเค้าจะไม่รู้สึกตัว
“คุณ!!..คุณเป็นอะไรอ่ะ” แทคยอนตาโต เจ้าแมวยักษ์ลุกขึ้นนั่งมองร่างคนรักของเค้านอนนิ่งกับพื้นไม่ขยับ คนตัวโตใจหายวูบจนลืมเจ็บ
“คุณ!!..ไม่นะ..อย่าเอาแต่นอนแบบนี้” คนผิวสีตบแก้มสีขาวของคนรัก
“คุณ...โอ๊ย!!” เจ้าแมวตัวโตหลับตาปี๊ เพราะอยู่ก็ปวดหัวขึ้นมา แสงสีขาวสว่างวาบไปวาบมาในหัวของคนตัวโต
“มันต้องไม่เป็นแบบนี้” คนตัวโตบ่นงึมงำก่อนจะลืมตาขึ้น แทคยอนปวดหัวตุบๆ คนร่างใหญ่สอดแขนเข้าใต้ตัวนิชคุณ เค้าออกแรงยกตัวคนผิวขาวขึ้น แทคยอนอุ้มนิชคุณจนตัวลอย เค้าลุกเดินในสภาพที่เจ็บแสนสาหัส มีเศษเฝือกที่แตกร่วงลงพื้นเป็นระยะ คนตัวโตพาร่างคนผิวขาวขึ้นรถ เค้าขับรถพานิชคุณมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลพาคนร่างเล็กเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เจ้าแมวยักษ์สลบเหมือดคาพวงมาลัยทันทีที่นิชคุณถึงมือหมอ ทั้งยามทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายคนต้องพาแทคยอนไปห้องฉุกเฉินอีกคน
“นายเป็นไงบ้างคุณ” จุนโฮถามไถ่อาการเพื่อนเมื่อนิชคุณรู้สึกตัวขึ้นมา เนื่องจากมีพยาบาลจำแทคยอนได้ เธอส่งข่าวให้จุนโฮ ลีจุนโฮถึงรู้ว่าแทคยอนพาเพื่อนซี้เค้ามาโรงพยาบาล นิชคุณนอนสลบอยู่บนเตียง ในขณะที่แทคยอนข้อเท้าแตก กระดูกแทงทะลุออกมานอกผิวหนัง แต่ก็ยังขับรถพาคนรักมาส่งถึงโรงพยาบาลได้ จุนโฮแปลกใจเป็นที่สุด
“ปวดหัว” คนตัวขาวพูดเสียงอ่อย
“เกิดอะไรขึ้น..จำได้ไหม” เพื่อนตาตี่ถาม
“เราอยู่บ้านรอพี่ควอน..ความจำแทคสับสน..เค้าโกรธและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้” นิชคุณตอบเสียงเบา
“แทคอยู่ไหน” คนผิวขาวสะลืมสะลือถาม
“อยู่ห้องผ่าตัด..คุณแทคข้อเท้าแตก..เสียเลือดเยอะ..เค้าขับรถพานายมาที่นี่” จุนโฮตอบ
“ขับรถมา..”นิชคุณพูดก่อนจะหลับตาลง
“ใช่..ขับรถมา..” จุนโฮลูบผมเพื่อนเบาๆ อีจุนโฮโทรศัพท์หาควานชานชองที่กลับบอสตันไปจัดการเรื่องอุบัติเหตุของซูจี ซึ่งชานชองบอกว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด จากนั้นโฮก็โทรไปหาพวกควอน พี่ชายทั้งหลายช็อกไปตามๆกันเพราะช่วงเวลาที่น่าจะเกิดเหตุพวกเค้ายืนอยู่หน้าบ้านนิชคุณแต่ก็ตัดสินใจกลับกันไปก่อน
“คุณ...เมื่อไหร่แทคจะเดินเองได้สักที..แทคไม่อยากนั่งรถเข็นแบบนี้เลย” คนตัวโตขยับล้อรถวีลแชร์พาตัวเองปลิวไปรอบๆตัวบ้าน
“นี่กี่วันแล้วล่ะ” คนผิวขาวถามกลับ นิชคุณกำลังนั่งหั่นเปลือกมังคุดให้เจ้าแมวยักษ์
“กี่วัน?” แทคยอนย้อนคำถาม เค้าขยับรถเข้ามานั่งข้างๆตัวคนผิวขาว
“ใส่เฝือกมากี่วันแล้ว” นิชคุณถามเน้นคำประโยคให้ชัดขึ้น
“แทคใส่เฝือกมาเป็นเดือนแล้ว..แทคไม่เจ็บแล้ว..เมื่อไหร่จะถอดออกได้สักที” คนตัวโตบ่นยาว นิ้วมือสีเข้มเอื้อมหยิบมังคุดที่ถูกคว้านเปิดเปลือกจนเห็นเนื้อในสีขาวบริสุทธ์ในจานข้าวขึ้นมา
“แทคกินได้ไหม” คนตัวโตชูเจ้าผลไม้เปลือกสีม่วงอมดำโชว์ให้นิชคุณดู
“ต้องทำยังไงก่อน” คนผิวขาวแกล้งแซวเจ้าแมวยักษ์เล่นๆ
“อ๊า...พวกผู้ชายนี่นิสัยเหมือนกันหมดเลย!!” เจ้าแมวยักษ์บ่นเสียงดัง
“เหมือนกัน” นิชคุณมองหน้าแทคยอนอย่างสงสัยในคำพูด
จุ๊บ!!
คนผิวขาวตาโตเป็นไข่ห่าน เจ้าแมวตัวโตอยู่ๆก็ยื่นใบหน้าเรียวตอบเข้าใกล้เค้า ริมฝีปากบางหยักกดจูบเข้ากับใบหน้าสีขาวผ่องเบาๆ มีเสียงจุ๊บเบาๆข้างหูนิชคุณ
“......” คนผิวขาวยกมือที่เปลื้อนน้ำสีม่วงจากเปลือกมังคุดขึ้นลูบแก้มตัวเองปอยๆ
“คุณ...หน้าเลอะหมดแล้วนะ” แทคยอนร้องทัก
“ฮึ..อ๊ะ!!..ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวค่อยล้างออกก็ได้” คนผิวขาวตื่นจากพวังค์ในบัดดล
“ใครสอนให้จูบแก้มแบบนี้น่ะแทค” นิชคุณเปรยขึ้นเบาๆ
“ชาน..ชานบอกให้จูบขอบคุณ” แทคยอนตอบหน้าซื่อ
“ย่าห์!!...พี่ชายนายเนี่ย...มันน่านักจริงๆ” คนผิวขาวสบถพร้อมกัดฟันกรอดๆ สอนน้องชายมาแต่ละอย่างดีๆทั้งนั้น
“ห้ามทำแบบนี้กับใครอีกนะ...รู้ไหม” นิชคุณเอ็ดใส่เจ้าแมวเสียงดัง
“ทำไมล่ะ” คนตัวโตถามกลับ
“ไม่ทำไมหรอก...แทคมีแฟนแล้ว..ปากแทค มือแทค ตัวแทคเป็นของคุณ..เข้าใจรึเปล่า..ห้ามนายไปเกาะแกะใคร..ห้ามให้ใครมาโดนตัวนายด้วย” คนผิวขาวรู้สึกเลือดขึ้นหน้า
“ทีคุณยังยอมให้ใครไม่รู้มากอดแขนได้เลย..ทำไมแทคจะโดนตัวคนอื่นไม่ได้..ไม่ยุติธรรมเลย” แทคยอนสะบัดเสียงอย่างไม่พอใจ
“กอดแขน?...เมื่อไหร่” นิชคุณเลิกคิ้วขึ้น
“วันที่คุณทิ้งแทคไว้หน้าร้านบะหมี่...”แทคยอนเลื่อนรถวีลแชร์หนีหลังจากที่เค้าพูดจบ
“เดี๋ยวแทค...แทคเข้าใจผิดแล้ว..แทค” คนผิวขาวรีบก้าวเท้าตามวีลแชร์ของคนรักทันที
“ปล่อย!!”
แทคยอนขืนตัวออกจากวงแขนของคนรัก เมื่อนิชคุณขยับตัวมาขวางหน้ารถวีลแชร์และคว้าตัวแทคยอนมากอด
“แทค..แทคเข้าใจผิดนะ..คุณไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลยนะ” นิชคุณไม่ยอมปล่อยมือจากแทคยอน
“เชื่ออะไรไม่ได้สักอย่าง ปากบอกว่ารักจีแต่ก็ทิ้งจี ปากบอกว่ารักจีมากแต่ก็ยังไปนัวเนียกับผู้หญิงอื่น..บอกว่าแทคเป็นของคุณแต่ตัวเองกลับยอมให้ผู้หญิงอื่นมากอด เชื่ออะไรไม่ได้เลย ...คนหลายใจ...” คนตัวโตสติแตก
“ซื้อรถเพราะอยากเห็นแทคมีความสุขเหรอ...เอาเงินมาล่อแทค...ใช้เงินซื้อตัวแทค..จะโปรยเงินใส่แทคอีกใช่ไหม แทคไม่ได้ขายตัวนะ..แทคไม่ได้ขายตัว...ปล่อยแทคนะ...อย่ามาจับตัวแทค!!ปล่อยยยย” เจ้าแมวยักษ์เริ่มออกแรงดิ้นแรงขึ้น คนตัวโตพยายามลุกหนีจากวีลแชร์
“แทค!!...ใจเย็นๆสิ..แทคอย่าทำแบบนี้” นิชคุณตะลึงกับถ้อยคำเสียดสีที่หลุดออกมาจากปากคนรัก ดูเหมือนความจำของเจ้าแมวกำลังล้นทะลักและตีกันวุ่นวาย
“ปล่อย!!..ปล่อยแทคนะ..บอกให้ปล่อย...ชาน..ชาน” คนตัวโตแหกปากลั่นบ้าน ดีดดิ้นจนทั้งตัวเค้าและนิชคุณล้มเทกันมาข้างหน้า วีลแชร์ที่แทคยอนนั่งอยู่ล้มกลิ้งลงกับพื้น
“เจ็บ..แทคเจ็บ..เจ็บ..ชาน..โอ้ย” เจ้าแมวยักษ์ครวญคราง กัดฟันแน่น ใบหน้าเจ้าแมวยับย่น ดวงตายาวเปิดสนิท แทคยอนงอตัวเป็นกุ้ง มือใหญ่หนาจับเฝือกสีขาวที่ขาตนเอง จังหวะที่ทั้งคู่ล้มลง ขาข้างที่เข้าเฝือกไว้ฟาดลงกับพื้นจนเฝือกสีขาวแตกเป็นทางยาว
RRRRRRRRRRRRRRRRRR กริ๊งงงงงงงงงงงงง
“ไม่อยู่บ้านมั้งพี่...ไม่รับโทรศัพท์ด้วย” เสียงแหลมใสของโจควอนเจื้อยแจ้วอยู่ข้างคิมจุนซู
“อยู่สิ..ตะกี้พี่เพิ่งคุยกะไอ้หมาเอง” คิมจุนซูตอบ
“ลองเรียกดูไหม” มินโฮออกความเห็น
“คุณณณณณณ...แทคคคคคคคค....เปิดประตูหน่อยยยยยย...พี่มาแว้วววววว” คิมจุนซูร้องเสียงดังหน้าประตูบ้านของเจ้านายเค้า
“ไอ้ลูกหมา...ข้างงงง...นอกกกกก..มันร้อนนะโว้ยยยยย..”โจควอนช่วยประสานเสียงอีกคน
“คุณ..อย่าเพิ่งนอนสิ..คุณ..แทคเจ็บขา” คนตัวโตลืมตาขึ้น เค้าเห็นใบหน้าของคนผิวขาวอยู่ระดับเดียวกับสายตาของเค้าบนพื้นราบ
“คุณ!!” แทคยอนเอื้อมมือเขย่าตัวคนผิวขาวหลายทีแต่ดูเหมือนคนรักของเค้าจะไม่รู้สึกตัว
“คุณ!!..คุณเป็นอะไรอ่ะ” แทคยอนตาโต เจ้าแมวยักษ์ลุกขึ้นนั่งมองร่างคนรักของเค้านอนนิ่งกับพื้นไม่ขยับ คนตัวโตใจหายวูบจนลืมเจ็บ
“คุณ!!..ไม่นะ..อย่าเอาแต่นอนแบบนี้” คนผิวสีตบแก้มสีขาวของคนรัก
“คุณ...โอ๊ย!!” เจ้าแมวตัวโตหลับตาปี๊ เพราะอยู่ก็ปวดหัวขึ้นมา แสงสีขาวสว่างวาบไปวาบมาในหัวของคนตัวโต
“มันต้องไม่เป็นแบบนี้” คนตัวโตบ่นงึมงำก่อนจะลืมตาขึ้น แทคยอนปวดหัวตุบๆ คนร่างใหญ่สอดแขนเข้าใต้ตัวนิชคุณ เค้าออกแรงยกตัวคนผิวขาวขึ้น แทคยอนอุ้มนิชคุณจนตัวลอย เค้าลุกเดินในสภาพที่เจ็บแสนสาหัส มีเศษเฝือกที่แตกร่วงลงพื้นเป็นระยะ คนตัวโตพาร่างคนผิวขาวขึ้นรถ เค้าขับรถพานิชคุณมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลพาคนร่างเล็กเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เจ้าแมวยักษ์สลบเหมือดคาพวงมาลัยทันทีที่นิชคุณถึงมือหมอ ทั้งยามทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายคนต้องพาแทคยอนไปห้องฉุกเฉินอีกคน
“นายเป็นไงบ้างคุณ” จุนโฮถามไถ่อาการเพื่อนเมื่อนิชคุณรู้สึกตัวขึ้นมา เนื่องจากมีพยาบาลจำแทคยอนได้ เธอส่งข่าวให้จุนโฮ ลีจุนโฮถึงรู้ว่าแทคยอนพาเพื่อนซี้เค้ามาโรงพยาบาล นิชคุณนอนสลบอยู่บนเตียง ในขณะที่แทคยอนข้อเท้าแตก กระดูกแทงทะลุออกมานอกผิวหนัง แต่ก็ยังขับรถพาคนรักมาส่งถึงโรงพยาบาลได้ จุนโฮแปลกใจเป็นที่สุด
“ปวดหัว” คนตัวขาวพูดเสียงอ่อย
“เกิดอะไรขึ้น..จำได้ไหม” เพื่อนตาตี่ถาม
“เราอยู่บ้านรอพี่ควอน..ความจำแทคสับสน..เค้าโกรธและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้” นิชคุณตอบเสียงเบา
“แทคอยู่ไหน” คนผิวขาวสะลืมสะลือถาม
“อยู่ห้องผ่าตัด..คุณแทคข้อเท้าแตก..เสียเลือดเยอะ..เค้าขับรถพานายมาที่นี่” จุนโฮตอบ
“ขับรถมา..”นิชคุณพูดก่อนจะหลับตาลง
“ใช่..ขับรถมา..” จุนโฮลูบผมเพื่อนเบาๆ อีจุนโฮโทรศัพท์หาควานชานชองที่กลับบอสตันไปจัดการเรื่องอุบัติเหตุของซูจี ซึ่งชานชองบอกว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด จากนั้นโฮก็โทรไปหาพวกควอน พี่ชายทั้งหลายช็อกไปตามๆกันเพราะช่วงเวลาที่น่าจะเกิดเหตุพวกเค้ายืนอยู่หน้าบ้านนิชคุณแต่ก็ตัดสินใจกลับกันไปก่อน
“หมายความว่าไง” นิชคุณลุกจากเตียงผู้ป่วยอย่างตื่นตระหนก ดวงตากลมโตเบิกกว้าง สิ่งที่เค้าได้ยินเต็ม2รูหูคือสิ่งที่เค้าไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น
“คุณชานพาคุณแทคกลับไปแล้ว..” อีจุนโฮนั่งนิ่งเป็นตอไม้ การตัดสินใจของชานชองก็ทำให้เค้าเจ็บปวดไม่แพ้กัน การพาน้องชายกลับไปนิวซิแลนซ์นั่นหมายถึง เค้ากับชานต้องห่างกัน
“ทำไม!!” คนผิวขาวกระโจนลงจากเตียงนอน นิชคุณบีบแขนหมอโฮอย่างแรงจนจุนโฮรู้สึกเจ็บ
“ที่นั่นมีผู้เชี่ยวชาญดูแลคุณแทค24ชม. เราควรทำแบบนี่มานานแล้วนะคุณ...” จุนโฮพูดจบก็เงียบลง ทั้งเค้าทั้งชานชองต่างก็เข้าใจความรู้สึกของนิชคุณ
“ที่นั่นน่ะที่ไหน..บอกคุณที...คุณจะไปหา” คนผิวขาวเริ่มโยเยเป็นเด็กๆ
“คุณ..นายหยุดงานมานานเกินไปแล้วนะ...นายมีชีวิตของนาย..นายจำได้ไหม...นายเป็นผู้บริหาร” จุนโฮพยายามให้เหตุผล
“งานไม่สำคัญเท่าแทคหรอกนะ..บอกที่อยู่มาโฮ” เพื่อนผิวขาวขย้ำต้นแขนหมอร่างอวบสุดแรง คนตัวขาวกำลังฟิวส์ขาด
“คุณ!!..มีสติหน่อย” อีจุนโฮตวาดใส่หน้าเพื่อน
“นายทำให้คุณชานคิดว่าน้องชายเค้าเป็นภาระของนายนะ...นายบริหารเวลาของตัวเองไม่ได้..นายดูแลคุณแทคก็ไม่ได้ เพราะนายเป็นคนทั่วไป นายไม่มีความรู้...นายอยากให้คุณแทคหายดีไหม..อยากให้เค้ากลับมาเป็นแทคยอนคนเดิมเร็วๆไหม..ถ้านายอยากให้เค้าหายดี..นายต้องปล่อยเค้าไป..แต่ที่นายรั้งเค้าไว้..เพราะนายมันเห็นแก่ตัว..นายรักและอยากอยู่ใกล้ชิดโดยไม่มองความจริง..นายทำตัวไม่ต่างจากแม่คุณแทคเลย” จุนโฮสติแตกอาละวาทใส่นิชคุณบ้าง
“ทำไมเป็นแบบนี้..เราเพิ่งเจอกันเองนะ..เราเพิ่งกลับมาเจอกันเองนะ..ทำไมต้องแยกจากกันอีกแล้ว..ทำไมชีวิตคุณถึงเป็นแบบนี้..”คนผิวขาวทิ้งตัวนั่งกับพื้นแบบไร้เรี่ยวแรง นิชคุณซบหน้าลงกับหัวเข่าเพื่อนสนิท
“ทำไมเป็นแบบนี้..” สิ้นเสียงแห่งความเจ็บช้ำ นิชคุณก็หมดสติไป
“นั่นสินะ...ทำไมเป็นแบบนี้..เราเพิ่งเจอกันเอง” จุนโฮทวนคำพูดของนิชคุณ การที่ชานชองไปบ้านถึงมันจะไม่ได้หมายความว่าจะคุยกันไม่ได้ ไปหาไม่ได้ หรือไปแล้วไม่กลับมา แต่ในใจลึกๆจุนโฮก็กลัว ถ้าแทคยอนไม่ดีขึ้น บางทีชานชองอาจจะไม่ติดต่อกลับมาและอาจจะไม่กลับมาเกาหลีอีก บางทีความสัมพันธ์ของพวกเค้าอาจจะจบลงก็ได้
จุนโฮพักงานที่โรงพยาบาล เค้ากลับมาคอยดูแลเพื่อนสนิทอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีใครขอหรือจ่ายค่าจ้างให้ หมอโฮเลือกงานนี้ด้วยใจของตัวเอง นิชคุณถูกประคบประหงมอย่างดีโดยพี่ๆที่ทำงาน จุนโฮคอยดูแลตามติดไม่ห่าง เจ้านายใหญ่ของบริษัทดูหงอยเหงาเป็นปลาขาดน้ำ ควานชานชองเงียบหายไปไม่ส่งมาแม้แต่ข้อความในกล่องอีเมลล์ ไม่อ่านข้อความที่จุนโฮส่งไป พวกเค้าไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย อีจุนโฮได้แต่นั่งมองดูกล่องข้อความเข้าทุกๆวัน เค้าอยากเจอชานชอง อยากได้ยินเสียงหัวเราะ อยากสัมผัสร่างกายของคนรัก
“เฮ้อ...” อีจุนโฮถอนใจยาว
“เป็นไรอ่าโฮ” ปู่แพนด้าถามไถ่อาการหมอโฮที่เอาแต่นั่งจ้องมือถือตาไม่กระพริบ
“เบื่อ” อีจุนโฮตอบเซงๆ
“ไปเดินเล่นดิ..เดี๋ยวพี่ดูคุณให้” ปู่แพนด้าให้คำแนะนะหน้าระรื่น
“เปล่า..ไม่ได้เซงแบบนั้น” จุนโฮทิ้งตัวลงนอนไปกับโซฟายาวในออฟฟิส
“แล้วเซงแบบไหนล่ะ..ติสซ์อีกคนล่ะ” ปู่คิมแซะ
“เซงแฟนทิ้งน่ะสิ” จุนโฮเปรย
“ทำใจเหอะ..ก็โดนทิ้งกันทุกคนน่ะแหละ” ปู่คิมบ่นพร้อมรัวแป้นคีย์บอร์ดเสียงดัง
“ทุกคนอะไรกัน..มีแค่ผมกับไอ้คุณเอง” จุนโฮตอบพร้อมฟุบหน้าลงกับโซฟา
“ใครว่าล่ะครับโฮ” เสียงแหลมสูงของคนที่นั่งทำงานเงียบๆมานานพูดขึ้น
“อะไรครับพี่ควอน”จุนโฮเงยหน้ากลับไปทางต้นเสียง
“ไอ้แพนด้ามันโดนด้งทิ้งน่ะสิ..ดีเนอะมาทำงานที่เกาหลี3คน แล้วก็เอาหัวใจคนเกาหลีกลับไปทั้ง3คน” โจควอนแซะชานชอง แทคยอน อูยอง
“ห๊า..” หมอลีจุนโฮถึงกับตาโตขึ้นจากปกติหลายเท่า
“เค้าถึงมีสุภาษิตที่ว่า สมภารอย่ากินไก่วัดไง” โจควอนแซะเพิ่ม
“พี่คบกันมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย” จุนโฮรีบคลานเข่ามาถามไถ่ข้อมูลจากปู่แพนด้าถึงข้างโต๊ะทำงาน
“อย่าว่าแต่ได้คบเลย..แม่ง...สารภาพรักปุ๊บ..แฟนนายก็ลากแฟนชั้นกลับไปเฉยเลย” ปู่คิมหยิบแฟ้มงานที่วางอยู่ใกล้มือฟาดหัวน้องหมอเต็มแรง
“โอ๊ย..เจ็บนะพี่..ผมเป็นหมอนะ..พี่ฟาดหัวผมแบบนี้..ความรู้ผมกระเด็นออกจากหัวหมดพอดี” ลีจุนโฮยกมือขึ้นคลำหัวปอยๆ
“ตอนนี้แกไม่ได้เป็นหมอนี่..ฉันจะตีแกเท่าไหร่ก็ได้” ปู่คิมเตรียมฟาดแฟ้มซ้ำ ลีจุนโฮรีบคลานเข่าหนีกลับไปนั่งโซฟา
“นานแค่ไหนแล้วนะ..ตั้งแต่แทคป่วย พี่ไม่ได้เจอแทคเลย..แล้วคุณชานยังพาแทคหายไปอีก” โจควอนพร่ำเพ้อคนเดียว
“5เดือนแล้ว”จุนโฮตอบเสียงเศร้า ชานชองพาน้องชายออกจากเกาหลีไป5เดือนแล้ว ‘อาการยังไม่ดีขึ้นเหรอ ความจำยังไม่กลับมาเหรอ ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายแบบนี้นะ’ ลีจุนโฮแค่คิดก็เจ็บมากพอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเจ้าคนผิวขาวที่เริ่มใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ถ้ำเลย แทคยอนหายไปคราวนี้ไม่ได้แค่เอาหัวใจใครบางคนไป แต่เค้าเอาวิญญาณและชีวิตของใครบางคนแถวนี้ไปด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น