วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

บ่วงรักในม่านหมอก21



“นิชคุณล่ะ” แทคยอนรู้สึกตัวตื่นหลังจากที่คนบนเตียงที่นอนเคียงข้างเค้าหายตัวไปได้ไม่นาน แทคยอนกล่าวถามชางมินบอดี้การ์ดส่วนตัว ชางมินชายผิวเหลือรูปร่างผอมสูงเพียวลม1ในมือซ้ายของนิชคุณ เค้าเก่งและมีความสามารถเป็นลองซึงลองเพียงนิดเดียว นิชคุณบังคับให้มาเฝ้ายามคนที่ครั้งนึงเคยถีบเค้ากระเด็นติดข้างฝา ชางมินดูจะไม่ค่อยชอบใจนัก แต่เค้าก็ไม่อาจปฎิเสธคำสั่งของผู้เป็นนายได้


“คุณหนูไปพบคุณเจสสิก้าที่โรงอาหารของเจ้าหน้าที่ครับ”  ชางมินตอบลอยๆไม่มองหน้าคนผิวเข้มที่นอนเพิ่งตื่นมาในสภาพงัวเงีย ผมเผ่ากระเจิง


“ไปนานรึยัง” แทคยอนถามซ้ำ คนตัวโตยกมือลูบหัวไปมาก่อนจะอ้าปากหาวหวอด


“สักพักครับ” ชางมินตอบกลับ เค้ายังคงไม่สนใจคนบนเตียงเช่นเคย หน้าที่ของชางมินคืออยู่ดูแลความปลอดภัยให้แทคยอนเท่านั้น เมื่อเค้าอยู่ในห้องกับแทคยอนเพียง2คน ชางมินเลยแค่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ


“งั้นเหรอ” ชายบนเตียงตอบเสียงเบาก่อนจะค่อยๆยันตัวขึ้นจากเตียง ดูเหมือนว่าเมื่อเช้าจะมีหมอมาเปิดเส้นให้น้ำเกลือที่มือเค้าตอนนอน แทคยอนเอื้อมมือจับเสาน้ำเกลือ เค้าลงจากเตียงและใช้เสาเหล็กเป็นตัวค้ำยันร่างกายตัวเอง พอขึ้นวันใหม่ร่างกายของคนตัวโตก็เริ่มส่งเสียงโอดครวญออกมาจากภาวะกล้ามเนื้ออักเสบ


“เจ็บชิบเป้งเลย..” คนตัวโตสบถกับตัวเอง แทคยอนกัดฟันกรอดๆ เค้าพาร่างกายตัวเองและเสาน้ำเกลือไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา เมื่อทำธุระยามเช้าเสร็จแล้ว แทคยอนก็ออกจากห้องน้ำมาในสภาพสดชื่นขึ้นนิดหน่อย


“ฉันจะหาคุณนะ...นายจะไปด้วยไหม” แทคยอนกล่าวถามชางมินที่เงยหน้าขึ้นมองร่างเค้าไม่วางตา


“คุณหนูไม่อนุญาติให้คุณออกไปไหนครับ” ชางมินตอบเสียงเข้มขึ้น


“นายไม่อยากรู้เหรอคุณเจสมาทำไม” แทคยอนถามชางมินกลับ เมื่อช่วงเช้ามืด แทคยอนได้ยินเสียงซึงลองคุยกับชางมิน ดูเหมือนชางมินจะไม่พอใจที่ถูกจับแยกมาติดแหงกอยู่กับเค้าแทนที่จะไปดูแลนิชคุณ


“.........” คนผิวเหลืองสบตาคนผิวสีชั่วครู่ก่อนจะลุกขึ้นยืน


“ห้องอาหารใช่ไหม...ดีเลย..ฉันกำลังหิว” คนผิวสีฉีกยิ้มระรื่น เดินลากขาตัวเองไปพร้อมกับเสาน้ำเกลือสีเงิน เสียงดังครึกๆ ไปตามทางเดิน


 


ภายในห้องอาหารของโรงพยาบาลมีพนักงานทั้งหมอและพยาบาลนั่งกินข้าวอยู่ไม่เยอะนัก บรรยากาศภายในจึงดูไม่วุ่นวาย ที่โต๊ะสุดมุมทางเดินมีชายหญิงคู่นึงนั่งอยู่ในที่ลับสายตาคน เจสสิก้าหญิงสาวผมยาวผิวขาว รูปร่างเล็ก เดินทางมาพบแฟนเก่าของตนในช่วงเวลาที่เช้าเอามากๆ


“ก็อย่างที่เจสบอกคุณน่ะแหละ.. นี่เป็นการ์ดงานหมั่น..เจสหวังว่าคุณกับคุณแทคจะไปได้นะ...คือเจสรู้ว่าจัดงานที่อเมริกามันก็ไกลอยู่..แต่เจสอยากให้ไปคุณไปนะ” เจสสิก้าพูด


“ทำไมไปแต่งที่นู่นล่ะ...” คนผิวขาวทำตาโตประกอบคำพูดตกใจ


“ก็เฮนนีย์เค้าทำงานที่นั่นน่ะ...คุณพาคุณแทคไปได้ใช่ไหม” เจสสิก้าออดอ้อนนิชคุณ


“ถ้าคุณไป..แฟนเจสจะโอเคเหรอ” คนผิวขาวถามกลับ


“เจสถึงอยากให้คุณพาคุณแทคไปด้วยไง...เฮนนีย์เค้าจะได้มั่นใจไงคะ” เจสสิก้าตอบ


“หืม” นิชคุณงงกับคำตอบจากปากเจสสิก้า


“ก็เฮนนีย์เค้ายังคิดว่าเจสชอบคุณอยู่...ถ้าคุณพาคุณแทคไปด้วย...เฮนนีย์ต้องเชื่อใจเจสแน่ๆ..ถือซะว่าช่วยเจสนะคะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างรวดเร็ว


“เออ..คุณ..ไม่..แน่ใจนะ” คนผิวขาวยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง เค้าไม่มีความมั่นใจเลยว่าแทคยอนจะยอมลางานไปด้วย ยิ่งเป็นงานแต่งแฟนเก่า นิชคุณยิ่งกลัวว่าแทคยอนจะรู้สึกไม่ดีที่เจสสิก้ายังติดต่อเค้าอยู่ ถึงแม้ว่าการเลิกเป็นแฟนจะไม่ได้หมายความว่าเลิกเป็นเพื่อนก็ตาม


“คุยอะไรกันอยู่ฮึ...ที่รัก!!


แทคยอนเดินลากเสาน้ำเกลือออกมาจนถึงห้องอาหาร เค้ารอบมองเจสสิก้าและนิชคุณอยู่ชั่วขณะก่อนจะโผล่มาด้านหลังเจสสิก้า


หญิงสาวตัวเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อฝ่ามือใหญ่สีเข้มโผล่มาวางแปะตรงหน้าเธอ เมื่อเจสสิก้าเอี้ยวคอมาด้านหลัง เธอพบอ๊ก แทคยอนยืนค้ำหัวเธออยู่ในระยะประชิด


“โธ่คุณแทคคะ..คุณทำเจสตกใจหมดเลย” เจสสิก้ายกมือขึ้นประสานกันไว้ที่หน้าอก


“คุณแทค..คุณออกมานี่ได้ยังไงกันครับ” คนผิวขาวสะดุ้งโหยงเช่นกัน เพราะเค้ามัวแต่คิดว่าแทคยอนจะยอมไปงานแต่งเจสสิก้ากับเค้าไหม


“..มัวเหม่อลอยอะไรอยู่ถึงไม่เห็นว่าแทคเดินมาหา”  คนตัวโตเดินลากเสาน้ำเกลือกับเก้าอี้นั่งมาอีกตัวนึง เค้าลากเก้าอี้มาวางซ้อนหลังคนผิวขาว และตัดสินใจนั่งลงด้านหลัง


“ทำไมนั่งตรงนั้นล่ะครับ..มานั่งข้างคุณสิ” นิชคุณขยับเก้าอี้หลบทางให้แทคยอน แต่มือหนาล็อกเก้าอี้สีขาวที่นิชคุณนั่งอยู่ให้อยู่กับที่


“นั่งตรงนี้แหละ..” คนตัวโตชะโงกหน้าเข้ามาที่ข้างแก้มคนผิวขาวจนใบหน้าเรียวตอบของคนผิวสีแนบชิดไปกับใบหน้าขาวอวบ


“อา...” นิชคุณครางในคอเบาๆ เค้ารู้สึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนแตะที่ข้างแก้ม


“กำลังคุยอะไรกันอยู่รึครับ” แทคยอนเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งร่วมโต๊ะกับนิชคุณมาก่อนหน้าเค้า ในขณะที่ท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสีเข้มสอดเข้าข้างตัวของคนผิวขาวที่นั่งข้างหน้าตัวเองอย่างไม่อายสายตาใคร คนผิวขาวหลับตาพริ้มหลงเคลิมไปกับสัมผัสร้อนๆจากท่อนแขนที่เค้าถวิลหา จนลืมตัวไปว่าเค้านั่งอยู่กลางโรงอาหารและนั่งอยู่ตรงหน้าแฟนเก่าของตน


“เอ่อ...” เจสสิก้านั่งตัวเกร็ง สายตามองจ้องไปที่ฝ่ามือสีเข้มของคู่สนทนาที่กำลังลูบคลึงบนหน้าท้องนิชคุณ


“ทำไมรึครับ” แทคยอนยกยิ้มมุมปาก แต่ก็แอบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้


“อา...คุณแทคครับ” คนผิวขาวครางเสียงแหบ ทิ้งน้ำหนักตัวลงกับผนักพิงเก้าอี้


“คุณ..อยากรู้สึกดีกว่านี้ไหม” คนตัวโตขยับริมฝีปากแนบใบหูของคนผิวขาว เค้ากระซิบถ้อยคำเสียงแหบหวานข้างหูคนรัก


“ครับ” คนตัวขาวตอบกลับเสียงเบา พร้อมขยับฝ่ามือของตนมาบีบหลังมือคนผิวเข้มอย่างลืมตัว


“ช่วยซื้อข้าวให้แทคหน่อยสิ..” แทคยอนใช้ฟันซี่ใหญ่ของตัวเองขบเม้มลงที่ติ่งหูของคนผิวขาวจนขึ้นรอยแดง


“ซื้อข้าวรึครับ” คนผิวขาวทวนคำพูดตัวเองเบาๆ


“ใช่..แทคหิวข้าว” แทคยอนตอบเสียงเบา ยกยิ้มกรุ่มกริ่มเมื่อเหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้าที่นั่งกำมือแน่น ใบหน้าของเจสสิก้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกแทคยอนล้ำเส้น


“คุณแทคหิวข้าวบ่อยจังนะครับ” คนผิวขาวตอบเสียงกระเส้า


“ก็เมื่อคืนนายน่ารักขนาดนั้นนี่...แทคใช้แรงไปหมดแล้ว..ถ้าคุณอยากรู้สึกดีกว่านี้..ซื้อข้าวให้แทคก่อนแล้วเราค่อยไปต่อก๊อก2กันที่ห้องดีกว่าไหม” แทคยอนพูดเสียงติดขำ


“เมื่อคืน..อ๊ะ..อา.” นิชคุณสะดุ้งตาโตเมื่อคนผิวเข้มรั้งผ้าพันคอที่ต้นคอลง และกระชากปกคอเสื้อเชิ้ตของคนผิวขาวให้อ้ากว้างโชว์ลาดไหล่สีขาวนวลเนียน แทคยอนอ้าปาก กัดฝังรอยเขี้ยวสีขาวบนไหล่ของคนผิวขาวจนขึ้นรอยแดง


ต้นคอคนผิวขาวมีรอยจูบสีแดงเป็นปรื้นประทับอยู่กระจัดกระจาย และตอนนี้บนไหล่ขาวๆของนิชคุณมีรอบฟันของคนรักประดับเพิ่มขึ้นอีก


“คุณอยากให้แทคกินคุณที่นี่แทนไหม” แทคยอนยิ้มแป้นเห็นไรฟัน


“คุณจะทานอะไรดีครับ” คนผิวขาวตาลีตาเหลือกตื่นจากพวังค์ รีบรวบปกคอเสื้อเชิ้ตไว้มาไว้ด้วยกัน และรีบคว้าผ้าพันคอจากมือคนร่างใหญ่มาพันรอบคอตัวเองอย่างเขินอาย เจ้าหน้าที่ที่นั่งโดยรอบหันมองเค้าเป็นตาเดียวกันเพราะนิชคุณร้องเสียงดังที่ถูกกัดคออย่างไม่ทันตั้งตัว


“เหมือนนายก็ได้..เร็วสิ..แทคหิวมากเลยนะ” แทคยอนขมวดคิ้วใส่คนร่างเล็กที่ยังหันซ้ายแลขวาเลิ่กลั่ก


“ครับๆ ผมจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้ล่ะ” คนผิวขาวรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ และก้าวเท้ายาวๆของตนไปที่ร้านอาหาร


“ยากจังนะครับ..กว่าจะไล่เค้าไปได้” แทคยอนยกยิ้มมุมปาก เค้าไม่สนใจกิริยาท่าทางของเจสสิก้าสักนิด


“มาคุยกันต่อจากเมื่อกี้ดีกว่าครับ” แทคยอนเริ่มบทสนทนาก่อน


“คือ..เจส..จะ..เอ่อ...” หญิงสาวพูดติดๆขัดๆ


“นี่อะไรครับเนี่ย” คนผิวสีปรายตามองกระดาษสีชมพูบนโต๊ะอาหาร เค้าสังเกตุมันคร่าวๆก็พอเดาได้ว่ามันเป็นการ์ดแต่งงาน


“การ์ดค่ะ...”เจสสิก้าตอบสั้นๆ


“แดเนียล...กับคุณเหรอ” แทคยอนคว้าการ์ดบนโต๊ะขึ้นมาอ่านอย่างรวดเร็วเมื่อเค้าสังเกตุเห็นชื่อคุ้นๆบนแผ่นกระดาษ


“คุณแทครู้จักเฮนนีย์เหรอคะ” เจสสิก้าเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ


“เพื่อนร่วมรุ่นที่มหาลัยน่ะครับ...ผมจบนอก” แทคยอนตอบกลับแบบแปลกใจเช่นกัน


“ค่ะ..เจสมาชวนคุณแทคกับคุณไปงานหมั่นของเราค่ะ” เจสสิก้ารวบรวมความกล้าในการพูดอีกครั้งนึง


“อ่อ...ครับ...ผมไม่แน่ใจว่าไปได้ไหม” แทคยอนตอบทันทีโดยที่เค้าไม่ต้องคิดให้เสียเวลา


“ติดธุระหรือคะ” เจสสิก้าถาม


“ก็นิดหน่อยครับ” แทคยอนยิ้มเฝื่อนๆ


“คุณแทคครับ..ข้าวได้แล้ว” คนผิวขาวโผล่หน้ามาขัดบทสนทนา


“ขอบใจนะ” คนผิวเข้มยกยิ้มมุมปากให้คนผิวขาว


“คุณ...งั้นเจสกลับแล้วนะ..คุณแทคคะ..เจสลาเลยนะคะ” เจสสิก้ารีบลุกขึ้นจากโต๊ะ เธอคิดว่า เธอควรกลับได้แล้ว


“อืม..กลับดีๆนะ” นิชคุณโบกมือลาเจสสิก้า


“คุยอะไรกันอยู่รึครับ” นิชคุณเอ่ยถาม แต่เค้าก็แอบมองมาตั้งแต่ต้น ดูเหมือนว่าเจสสิก้าจะออกปากชวนแทคยอนไปงานแต่งด้วยตัวเอง


“นายจะไปเหรอ” คนผิวเข้มยกกระดาษกลิ่มหอมสีชมพูขึ้นโชว์หรา


“ผม..แล้วแต่คุณอยู่แล้วครับ..ถ้าผมไปคนเดียวผมว่ามันไม่เหมาะ” นิชคุณตอบพลางจดจ้องมองริมฝีปากบางหยักขยับปากเคี้ยวข้าวงุบงับๆ


“ทำไมล่ะ” แทคยอนเลิกคิ้วถาม


“ผมเป็นแฟนเก่าเจส..มันคงไม่ดีหรอกครับ..เจ้าบ่าวคงไม่ชอบใจแน่” นิชคุณตอบตรงไปตรงมา


“แล้วคุณไม่คิดว่าแทคจะไม่ชอบใจบ้างเหรอ” แทคยอนตอบกลับ


“ก็เพราะผมกลัวคุณไม่สบายใจไงครับ..ผมถึงได้อยากไปกับคุณมากกว่า” นิชคุณยกยิ้มละไม


“เฮอะ!!” คนผิวเข้มสะบัดหน้าเรียวตอบของตัวเอง


“คุณหึงรึครับ” นิชคุณฉีกยิ้ม


“หึ...”แทคยอนเบี่ยงหน้าหลบไม่ตอบคำถาม


“เอาจริงอ่ะ” คนผิวขาวฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม


“.......” แทคยอนจ้วงข้าวในชามอย่างเคืองๆ เค้าเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถาม


“ผมชอบจัง..ผมชอบที่คุณหมอหึงผมแบบนี้” นิชคุณลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เค้าก้มตัวลงและจูบหน้าผากของแทคยอนเบาๆเมื่อแทคยอนเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวเพราะแปลกใจที่อยู่ๆนิชคุณก็ลุกขึ้นยืน


“หึ” คนตัวโตยิ้มบางๆ ใบหน้าของคนผิวสีมีเลือดฝาดขึ้นอีกนิดหน่อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น