เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศยามเช้าสดใสกว่าที่คาด คนผิวขาวเลือกใส่เสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นใส่สบายๆ และเค้าเลือกหมวกสีแดงใบเก่งติดตัวมาด้วยเหมือนทุกวัน เช้าวันนี้เค้าตั้งใจจะไปเรียนก่อนแล้วค่อยแวปไปหาคนป่วยที่โรงพยาบาล มินจุนติดแหงกอยู่กับหมีชานที่ห้องสมุด อูยองติดอัดเสียงกับเพื่อนร่วมวง หลังช่วงเช้าจึงมีนิชคุณคนเดียวที่ว่าง ความจริงเค้าอยากหนีบหมีชานไปด้วยแต่หมีชานติดติวหนังสือ นิชคุรเลยต้องมาโรงพยาบาลคนเดียว
"เอ๊!!.อ๋า..กลับไปแล้ว..เช็คดูดีๆรึยังครับ" คนผิวขาวร้องลั่นเคาเตอร์โรงพยาบาล
"เค้าบอก..ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา..ถ้านอนนานกว่านี้ค่ะ" เจ้าหน้าที่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเชยราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
"ผมจะจ่ายเอง..ผมหมายถึง..ผมทำเค้าเจ็บ..ผมจะรับผิดชอบค่ารักษาเอง" คนผิวขาวหยิบแพ็ตตินั่มการ์ดขึ้นมาโชว์
" มันเป็นสิทธ์ของคนไข้ค่ะ ในเมื่อหมออนุญาติให้เค้ากลับบ้านได้ คุณจะให้เรารั้งเค้าไว้ยังได้ยังไงคะ..อ้อแล้วเค้าก็จ่ายเงินสดด้วย" เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินย่นคิ้วใส่นิชคุณ เหมือนเป็นสัญญาญเตือนว่านิชคุณกำลังล้ำเส้นกับผู้ใหญ่
"แล้วพอมีที่อยู่เค้าไหมครับ..คือผมเก็บของเค้าไว้..ผมต้องคืนเค้าน่ะครับ" นิชคุณรีบถามต่อ
"ขอบคุณนะครับ..เอ่อแล้วก็..เอ่อผมขอโทษที่เสียมารยาท" คนผิวขาวกล่าวก่อนจะรีบขับรถออกจากโรงพยาบาลไปยังที่อยู่ที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
คนผิวขาวขับรถมาถึงบ้านเจ้าของสร้อยแต่เส้นทางที่เค้าจะเข้าไปได้คงมีไม่กี่วิธี วิธีแรกคือเดิน วิธีที่สองคือรถเล็กจำพวกจักรยานไม่ก็มอเตอร์ไซต์แบบที่แม่บ้านใช้กัน
" ทำไมบ้านหมอนี่ถึงได้มาอยู่ในย่านแออัดขนาดนี้เนี่ย" คนผิวขาวบ่นกับตัวเอง เค้าลงจากรถและเดินขึ้นเนินแคบๆอ่านตามบ้านเลขที่ไปเรื่อยๆ ทั้งขึ้นเนินลงบันไดไต่ขอบรั้วหลบหมา " โอ้ยนี่..คุณหลงรึเปล่าวะ แง้..หมีชาน" นิชคุณพูดพรำคนเดียวมาตลอดทางจนมาเจอบ้านเป้าหมาย
"บ้านเล็กดีนะ...คนตัวโตแบบนายมุดตัวเข้าไปได้ด้วยเหรอเนี่ย" คนผิวขาวยืนอึ้งเล็กน้อย เค้าเกาหัวตัวเองงงๆก่อนนึกขึ้นได้ว่าเค้ากำลังรีบ
“ไม่ใช่ว่าบ้านรวยเหรอ..นี่สินะถึงต้องเป็นนักเรียนทุน” นิชคุณคิดก่อนยักไหล่ ‘ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่’
กริ๊ง!! กริ๊ง!! นิชคุณกดกริ่งรัวหลายทีติดกันแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่บ้านสักคน “หรือหมอนั่นกลับไปที่มหาลัยรึเปล่านะ..สวนทางกันเหรอ...เอาไงดีเนี่ย..โอ๊ย” นิชคุณบ่นงึมงำพึบพับเค้าเดินวนไปวนมาหน้าบ้านแทคยอน
"มาหาพี่แทคเหรอคะ..พี่แทคยังไม่กลับมาเลยค่ะ" เสียงเด็กสาวเจือยแจ่วขึ้นข้างรั้วบ้านขนาดความสูงแค่เอว เด็กสาวผมยาวหน้าตาสวยใสสไตส์เกาหลีเอ่ยขึ้น
คนผิวขาวเงยเหลือบมองไปทางด้านซ้ายของตัวเองเค้าสบตาเข้ากับดวงหน้าของเด็กสาวที่โผล่มายืนอยู่ข้างกำแพงบ้านของแทคยอน เธอเป็นเด็กสาวที่สวยจนทำให้หัวใจนิชคุณเต้นไม่เป็นจังหวะ
"เอ๊ะ..ยังไม่กลับมาเลยรึครับ...เอาไงดีเนี่ย..เอ่อคุณ.." นิชคุณอึกอักหาคำพูดมาใช้ไม่ถูก เค้าถูกสเน่ห์สาวครอบงำอีกแล้ว
“คุณ...คงไม่ใช่เพื่อนพี่แทคใช่ไหม...คุณมีธุระอะไรสำคัญรึเปล่า..บอกฉันได้นะคะ..คือเรา..หมายถึงฉันกับพี่แทคสนิทกันน่ะ..ฉันบอกพี่แทคให้ได้นะคะ” เด็กสาวพูดด้วยท่าทีเขินอาย
“เอ่อ..บอกเค้าว่าให้เค้าติดต่อหาผมด้วยนะครับ” คนผิวขาวหยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองออกมา และรีบหยิบนามบัตรของตัวเองส่งให้เด็กสาวคนสวยทันที
"นามบัตรสวยจังเลยค่ะไปจ้างใครทำมาคะเนี่ย..มีนามบัตรแสดงว่าเป็นเจ้าของกิจการ จะจ้างพี่แทคทำงานเหรอ..โอ้ยรายนี้งานรัดตัวมากเลยน้า..จะปลีกตัวมารับงานเพิ่มได้อีกเหรอ...คนบ้าอะไรไม่รู้วันๆทำแต่งาน..." เด็กสาวเบ้หน้าแสดงความน้อยใจออกมาจนนิชคุณรู้สึกได้ แต่มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่คนสนิทกันจะมีความคิดน้อยใจกันบ้างละนะ
"เอ่อ..เค้าทำงานที่ไหนบ้างพอทราบไหมครับ" นิชคุณรีบถามเมื่อนึกขึ้นได้
"...5ที่ค่ะ" เด็กสาวชูนิ้วขึ้นมา5นิ้วประกอบคำพูดตัวเอง เธอตอบพร้อมเขียนแผนที่ที่ทำงานให้นิชคุณโดยไม่ได้เอ่ะใจอะไรเลย
"ถ้าคุณเจอเค้า..บอกเค้าว่า..ของที่เค้าตามหาอยู่ มันอยู่ที่ผมให้เค้ามาเอาของที่ผมนะครับ" คนผิวขาวก้มตัวให้เด็กสาวเล็กน้อยก่อนจะตรงดิ่งไปที่ที่ทำงานที่แรก
"ของที่พี่แทคหา.. ทำไมต้องทำท่าร้อนรนแบบนั้นด้วยน้า.." เด็กสาวเก็บนามบัตรลงกระเป๋าก่อนเดินเข้าบ้าน ทั้งเธอและนิชคุณต่างสวนทางกับแทคยอน
นิชคุณรู้สึกร้อนๆหนาวๆหลังจากแวะไปตามที่ทำงานของแทคยอน เค้ากลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ยังไงซะเค้าต้องหาตัวเจ้าของสร้อยให้เจอ คนผิวขาวรีบโทรตามหมีชานและอูยองให้ไปหาตัวแทคยอนที่มหาลัยแต่ไม่ใครเจอ
คนผิวเข้มกลับไปบ้าน เค้าพยายามตามหาสร้อยคอของตัวเอง เค้าคลำคล้ายคลับคลาว่าทำตกที่สนามหญ้า บางทีอาจเป็นสนามหญ้าที่บ้านเค้าอีกที่นึง แทคยอนรีบไปมหาลัยเพื่อทำเรื่องขอลากิจ เค้ากลับบ้านไปเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางและออกจากบ้านทันที คนตัวโตรีบโทรจองตั๋วเครื่องบินที่นั่งพิเศษ เค้ายอมเอาเงินเก็บที่มีทั้งหมดมาใช้เพื่อหาสร้อยที่แม่เค้าให้ไว้เมื่อหลายปีก่อน
"พี่.." จาง อูยองไปดักรอแทคยอนที่ตึกเรียน เด็กแก้มบวมยืนทำตาโตอึ้งเมื่อทราบข่าวจากอจ.ที่ปรึกษาของแทคยอน
"เอ่อพี่คุณ..พี่คนนั้นเค้า..ดูเหมือนจะขอหยุดเรียนไม่มีกำหนด.." อูยองวิ่งมาหาหมีชานที่สนามบอล เด็กหนุ่มรุ่นน้องมองหน้าหมีชานอย่างหวั่นวิตก
"ดร็อปเหรอ..หมอนั่นเป็นนักเรียนทุนนะ" ชานชองแหวว เค้าก็เป็นคนนึงที่อยากได้ทุนเรียน เค้าเบื่อที่ต้องทนขอเงินพ่อแม่ที่รวยมากๆ แต่เค้าก็ไม่ฉลาดพอ เค้าเลยต้องพยายามเพื่อจะให้ได้ทุนนักกีฬาทุกปี
"....บ้าชิบ...ถามอจ.สิ..ถามๆๆๆหมอนั่นดร๊อปไปทำอะไร..นายถามมารึเปล่า" นิชคุณรนรานจนออกอาการวิตกจริต เค้าไม่ชอบการรอคอยแบบไม่รู้ชะตากรรม
"พี่เค้าทำของหายอะ..เหมือนจะเป็นสร้อยคอของแม่น่ะ.." อูยองคุยกับอจ.ที่ปรึกษาของแทคยอนมา
"ซวยแล้ว!!" คนผิวขาวร้องลั่นจนอูยองตกใจ
"สร้อยหมอนั่นอยู่กับพี่นี่แหละ..พี่ก็ตั้งใจจะคืนให้วันนี้ตอนไปเยี่ยม" คนผิวขาวพูดเร็วจนลิ้นแทบพันกัน
"รู้ไหมหมอนั่นจะดร็อปไปไหน"นิชคุณถามอีก
"ไม่รู้ฮะพี่..อจ.ก็ไม่รู้..ตอนมาพี่เค้าดูเบลอๆมึนแล้วก็ออกไป..อจ.แกบอกแบบนี้อ่ะ"อูยองตอบ
"ซวยล่ะ” คนผิวขาวกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก
“คงไปไม่นานมั้ง..คุงคุงนายใจเย็นๆก่อนสิ..มีสติหน่อย..รอดูวันสองวันก่อนก็ได้นี่ถ้าหมอนั่นไม่มามหาลัยจริงๆเราค่อยจัดการเรื่องนี้กันก็ได้”ชานชองเค้ามือถือน้องเล็กไปคุยแทน
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ..มีอะไรรึเปล่าทำไมนายมาอยู่นี่หล่ะ..หรือวันนี้อยากลงซ้อมกับพวกพี่ “คิมมินจุนโผล่มายืนข้างตัวควานชานชองเงียบๆจนทำให้หมียักษ์สะดุ้งโหยง
“ไม่ซ้อม..ไม่แข่ง...ไม่ลงสนามชัดไหมครับ”ชานชอนนิ่วหน้าใส่มินจุนก่อนจะรีบเดินแยกตัวออกจากอูยองทันที
“พี่ทำอะไรผิดหล่ะเนี่ย..ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ” มินจุนหันหน้ามองอูยองอย่างสับสน
“ก็ปีที่แล้วพี่ตามสิงพี่หมีจนเค้าเกือบไม่ได้ทุนนักกีฬานี่..พี่หมียังโกรธพี่อยู่น้า...ทำไมพี่ไม่หาคนอื่นลงสนามแทนล่ะ”
อูยองพูดเอื่อยๆก่อนจะเดินหนีมินจุนไปอีกคน
“ย๊า!!..ก็พวกนายมันเก่งนี่..ถ้าฉันไม่คว้าตัวพวกนายจะให้ไปคว้า..ต้นไผ่ที่ไหนวะแล้วนี่พวกนายจะไปไหนกันเนี่ย” มินจุนตะโกนลั่นสนาม เค้าถูกน้องๆทิ้งกันไปหมดเลย
“ไปติวหนังสือกะพี่คุณ” จางอูยองตะโกนตอบพี่แก่แดกูจากอีกฝ้ากของสนามเค้าหวังว่าคนแก่คนนั้นจะได้ยิน
"คุงคุงเป็นอะไรอย่าเหมอสิ..เดี๋ยวชานสอบตกนะ" ชานชองใช้ดินสอจิ้มมือเพื่อนร่วมรุ่น หลังจากที่นิชคุณเริ่มตั้งสติได้เค้าก็กลับมาบ้านเพื่อเตรียมหนังสือเรียนให้เพื่อนตัวใหญ่
"หึ..อืม..หมี. นายคิดว่าตอนนี้หมอนั่นทำอะไรอยู่..นายอยากเป็นนักโบราณคดีนี่...ถ้านายต้องหาวัตถุโบราณสักชิ้น..นายจะไปที่ไหนบ้างเหรอ" คนผิวขาวถามด้วยแววตาละห้อย
"แต่ถ้าหมอนั่นกลับมาวันนี้..คนที่ซวยคงเป็นคุงคุงนะ..ห่วงตัวเองดีกว่าไหม..ถ้าสร้อยนี่สำคัญกับเค้าถึงขนาดดร็อปเรียนไปตามหา..ถ้าเค้ากลับมาและไม่ได้มันคืน...ชานกลัวว่าเค้าจะเอาเรื่องนายนะ" ชานชองตอบด้วยถ้อยคำเนิบนาบตามสไตส์หมีมึน
"แต่เค้าอาจเอาออกได้นะ..เค้าเป็นเจ้าของสร้อยนี่.." นิชคุณฉีกยิ้ม ตาโตเหมือนมีความหวัง
"แต่ถ้าเค้าถอดไม่ได้ล่ะ" ชานถามกลับ พร้อมเอื้อมมือมาแตะสร้อยทองคำขาวเบาๆ
“คุงคุง..ของๆใคร ใครๆก็หวง..ถ้าเค้าอยากได้มันคืนละ” ชานชองตอบ
"อ๋า!! คุณจะฆ่าพี่คิมก่อนที่หมอนั่นจะฆ่าคุณ....โอ้ยทำไมพี่คิมต้องมาทำให้เรื่องมันยากขึ้นด้วยนะ..หมอนั่นจะต้องโกรธมากแน่เลย" คนผิวขาวฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานในห้องนั่งเล่น
อีกด้านนึงของอีกประเทศนึง แทคยอนเดินทางกลับมาบ้านเพื่อตามหาสร้อยคอของแม่ที่เค้าทำหล่นหายไป เค้านึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเค้าทำหล่นหายหรือเค้าลืมไว้ที่บ้าน นี่เป็นที่สุดท้ายที่เค้าจะออกตามหาแล้ว
"แทคแกพูดจาให้มันดีๆนะ..ทำไมทำตัวเป็นเด็กก้าวร้าวแบบนี้" เสียงทุ่มใหญ่ตวัดเสียงสูงใส่เด็กที่เดินกระแทกเท้าเข้ามาในบ้านพ่อเค้าอย่างถือตัวเอามากๆ
"แล้วพ่อทำอะไรอยู่..แม่ตายได้ไม่กี่วันก็เอานังนี่เข้าบ้านมานอนกกแล้วเหรอ" คนเป็นลูกแยกเขี้ยวขู่ฟ่อใส่หญิงสาวที่ดูอายุไม่น่าจะแตกต่างจากเค้ามากนัก
"แกเล่นยามารึไงแทค.. ดูหน้าตาสิโทรมจะเป็นศพ...แล้ว....แผลที่หัวไปโดนอะไรมา..แกโดนใครทำร้ายมา" ผู้เป็นพ่อเดินเข้าหาลูกชายเพื่อจะตรวจดูรอยแผลใต้ผ้าพันแผลอย่างห่วงใย
"อย่ามาโดนตัวผม..ออกไปห่างๆ..ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน" แทคยอนแยกเขี้ยวใส่พ่อบังเกิดเกล้าของตนก่อนจะสะบัดตัวหลบมือพ่อของเค้า
"แทค..หนูเป็นอะไรน่ะลูก" หญิงสาวสำทับเสริมด้วยเสียงอ่อนโยน
"ใครเป็นลูกแก..อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น..พ่อ..เห็นสร้อยแม่ไหม..แทคลืมไว้นี่รึเปล่า..แกเห็นรึเปล่า..รึแกเอาไป"แทคยอนเดินดุ่มๆเข้าหาผู้หญิงที่อายุห่างจากเค้าไม่มากและแถมยังตัวเล็กกว่าร่างกายเค้าเท่านึง
"หยุดนะแทค..แกเอามันไปเกาหลีด้วย..จำไม่ได้รึไง..เกิดอะไรขึ้น..ไปโรงพยาบาลกับพ่อเดี๋ยวนี้...ฉันจะเรียกโฮมาดูแลแก" ชายผู้เป็นพ่อรู้สึกว่าลูกชายผิดปกติไปมาก บางทีแผลที่หัว กับการตามหาสร้อยที่หายไปคงเป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายเค้าก้าวร้าวขึ้น
"เดี๋ยว!! แทคแกจะไปไหน" ชายรูปร่างสูงใหญ่ร้องเรียกลูกชายแต่ไม่ทัน แทคยอนสะพายเป้พุ่งตัวออกนอกบ้านไปก่อน
"โฮนายช่วยจัดการเรื่องแทคให้ทีนะ "ผู้เป็นนายรีบโทรศัพท์สั่งลูกน้องตัวเอง เค้าต้องการได้ตัวลูกชายตัวเองกลับมาอยู่ในความดูแลให้เร็วที่สุด
"คุณคะ..ฉันว่าแทคอาจกลับไปเกาหลีก็ได้...ว่าแต่สร้อยนั่น..สร้อยของเธอรึคะ" ภรรยาสาวชี้ไปที่รูปแม่แทคยอนที่ติดอยู่ข้างผนังหนังบ้าน
"ใช่..ของขวัญวันครบรอบวันแต่งงานของเธอน่ะ..แล้วก็เป็น..ช่างเถอะ" ชายสูงวัยกล่าวเศร้าๆ
"ลูกชายคุณล่ะ..ตอนนี้เค้าทำใจเรื่องเราได้รึยัง" ชายหนุ่มพูดถึงลูกติดภรรยาสาว
"ถ้ารับได้เค้าคงมาเยี่ยมเราแล้วกระมั่งคะ..ตอนนี้ก็กลายเป็นเด็กดื้อไปแล้ว" หญิงสาวส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับการมีลูกอายุใกล้เคียงกัน
แทคยอนตรงดิ่งกลับเกาหลีทันที เค้าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่บ้านเกิดตัวเอง คนตัวใหญ่นั่งเครื่องบินด้วยความรู้สึกปวดหัวเวียนเกล้า ทำไมเค้าถึงได้ลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ได้ ตลอดเวลาตั้งแต่เด็กเค้าจะใส่สร้อยคอของแม่มาตลอด ไม่ว่าใครจะห้ามเรื่องราคาสร้อยที่แพงเกินกว่าที่นักเรียนม.ต้นจะเอามาใส่เดินโฉบไปโฉบมายังไง แต่แทคยอนก็ยังดื้อรั้นและเค้าก็ดูแลสร้อยแม่เค้ามาได้อย่างดี
แทคยอนแวะพักโรงแรมใกล้สนามบิน1วัน เค้าอยากพักและคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เมื่อถึงบ้านเค้ามีแผนการจะรื้อบ้านครั้งใหญ่
"พี่แทคไปไหนมาน่ะ..ควอนคิดถึงจะแย่แล้ว" เด็กสาวข้างบ้านยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู เธอชะโงกหน้ามาทักทายเพื่อนบ้านตัวโต
" เลิกแต่งตัวเป็นผู้หญิงเหอะเห็นแล้วขัดลูกตาหว่ะ..อยากอ้วก “ คนผิวเข้มตาขวางใส่เด็กเพื่อนบ้านอย่างเหลืออด
"โห!!..พี่แทคไม่เจอกันไม่กี่วันปากหมาขึ้นเยอะเลยนะ..กลับไปบ้านมาหรือครับ" โจควอนยังคงตื้อไม่เลิกเมื่อเห็นแบ็กแพ็คของแทคยอนดูน้อยกว่าปกติ
"นายเห็นสร้อยที่ฉันใส่ประจำไหม.." แทคยอนปิดประตูบ้านเข้ามา เค้าก้มลงตรวจตราหาสิ่งที่ต้องการ
"โอ๊ะ!!...พี่ทำของหายเหรอ..เมื่อ2วันก่อนมีคนมาถามหาพี่ เค้าบอกว่าว่าเค้าเก็บของพี่ได้..เดี๋ยวนะพี่เค้าให้นามบัตรไว้ด้วย" โจควอนรีบวิ่งเข้าบ้านไปหยิบแผ่นนามบัตรสีขาวดีไซน์หรูออกมาให้พี่ชายข้างบ้าน
" ถ้าพี่หาสร้อยเจออย่าลืมเลี้ยงข้าวตอบแทนด้วยนะ.." ควอนส่งจูบให้แทคยอนก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไปทั้งคอสเพลชุดผู้หญิง
แทคยอนอ่านชื่อที่อยู่เบอร์โทรในนามบัตรอย่างรวดเร็ว เค้ารีบโทรติดต่อเจ้าของนามบัตรทันทีแต่ไม่มีใครรับสาย คนตัวใหญ่รีบเปิดเนตหาข้อมูลเจ้าของบัตรทันทีเค้าพบว่าใครคนนั้นยังเป็นนักศึกษา และเรียนอยู่ที่เดียวกับเค้า เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ต่างคณะ บางทีเค้าคงต้องไปตามหาที่ภาควิชาของหมอนี่ แทคยอนรีบเก็บข้าวของ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและตรงดิ่งไปยังมหาลัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น