วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

คล้องรักจับเธอ2



 
เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศยามเช้าสดใสกว่าที่คาด คนผิวขาวเลือกใส่เสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นใส่สบายๆ และเค้าเลือกหมวกสีแดงใบเก่งติดตัวมาด้วยเหมือนทุกวัน เช้าวันนี้เค้าตั้งใจจะไปเรียนก่อนแล้วค่อยแวปไปหาคนป่วยที่โรงพยาบาล มินจุนติดแหงกอยู่กับหมีชานที่ห้องสมุด อูยองติดอัดเสียงกับเพื่อนร่วมวง หลังช่วงเช้าจึงมีนิชคุณคนเดียวที่ว่าง ความจริงเค้าอยากหนีบหมีชานไปด้วยแต่หมีชานติดติวหนังสือ นิชคุรเลยต้องมาโรงพยาบาลคนเดียว

"เอ๊!!.อ๋า..กลับไปแล้ว..เช็คดูดีๆรึยังครับ" คนผิวขาวร้องลั่นเคาเตอร์โรงพยาบาล

"เค้าบอก..ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา..ถ้านอนนานกว่านี้ค่ะ" เจ้าหน้าที่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเชยราวกับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

"ผมจะจ่ายเอง..ผมหมายถึง..ผมทำเค้าเจ็บ..ผมจะรับผิดชอบค่ารักษาเอง" คนผิวขาวหยิบแพ็ตตินั่มการ์ดขึ้นมาโชว์

" มันเป็นสิทธ์ของคนไข้ค่ะ ในเมื่อหมออนุญาติให้เค้ากลับบ้านได้ คุณจะให้เรารั้งเค้าไว้ยังได้ยังไงคะ..อ้อแล้วเค้าก็จ่ายเงินสดด้วย"  เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินย่นคิ้วใส่นิชคุณ เหมือนเป็นสัญญาญเตือนว่านิชคุณกำลังล้ำเส้นกับผู้ใหญ่

"แล้วพอมีที่อยู่เค้าไหมครับ..คือผมเก็บของเค้าไว้..ผมต้องคืนเค้าน่ะครับ" นิชคุณรีบถามต่อ

 "ขอบคุณนะครับ..เอ่อแล้วก็..เอ่อผมขอโทษที่เสียมารยาท" คนผิวขาวกล่าวก่อนจะรีบขับรถออกจากโรงพยาบาลไปยังที่อยู่ที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล

 

คนผิวขาวขับรถมาถึงบ้านเจ้าของสร้อยแต่เส้นทางที่เค้าจะเข้าไปได้คงมีไม่กี่วิธี วิธีแรกคือเดิน วิธีที่สองคือรถเล็กจำพวกจักรยานไม่ก็มอเตอร์ไซต์แบบที่แม่บ้านใช้กัน

 " ทำไมบ้านหมอนี่ถึงได้มาอยู่ในย่านแออัดขนาดนี้เนี่ย" คนผิวขาวบ่นกับตัวเอง เค้าลงจากรถและเดินขึ้นเนินแคบๆอ่านตามบ้านเลขที่ไปเรื่อยๆ ทั้งขึ้นเนินลงบันไดไต่ขอบรั้วหลบหมา  " โอ้ยนี่..คุณหลงรึเปล่าวะ แง้..หมีชาน" นิชคุณพูดพรำคนเดียวมาตลอดทางจนมาเจอบ้านเป้าหมาย

"บ้านเล็กดีนะ...คนตัวโตแบบนายมุดตัวเข้าไปได้ด้วยเหรอเนี่ย" คนผิวขาวยืนอึ้งเล็กน้อย  เค้าเกาหัวตัวเองงงๆก่อนนึกขึ้นได้ว่าเค้ากำลังรีบ

“ไม่ใช่ว่าบ้านรวยเหรอ..นี่สินะถึงต้องเป็นนักเรียนทุน” นิชคุณคิดก่อนยักไหล่ ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่

กริ๊ง!! กริ๊ง!! นิชคุณกดกริ่งรัวหลายทีติดกันแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่บ้านสักคน หรือหมอนั่นกลับไปที่มหาลัยรึเปล่านะ..สวนทางกันเหรอ...เอาไงดีเนี่ย..โอ๊ยนิชคุณบ่นงึมงำพึบพับเค้าเดินวนไปวนมาหน้าบ้านแทคยอน

 

"มาหาพี่แทคเหรอคะ..พี่แทคยังไม่กลับมาเลยค่ะ" เสียงเด็กสาวเจือยแจ่วขึ้นข้างรั้วบ้านขนาดความสูงแค่เอว เด็กสาวผมยาวหน้าตาสวยใสสไตส์เกาหลีเอ่ยขึ้น

คนผิวขาวเงยเหลือบมองไปทางด้านซ้ายของตัวเองเค้าสบตาเข้ากับดวงหน้าของเด็กสาวที่โผล่มายืนอยู่ข้างกำแพงบ้านของแทคยอน เธอเป็นเด็กสาวที่สวยจนทำให้หัวใจนิชคุณเต้นไม่เป็นจังหวะ

"เอ๊ะ..ยังไม่กลับมาเลยรึครับ...เอาไงดีเนี่ย..เอ่อคุณ.." นิชคุณอึกอักหาคำพูดมาใช้ไม่ถูก เค้าถูกสเน่ห์สาวครอบงำอีกแล้ว

คุณ...คงไม่ใช่เพื่อนพี่แทคใช่ไหม...คุณมีธุระอะไรสำคัญรึเปล่า..บอกฉันได้นะคะ..คือเรา..หมายถึงฉันกับพี่แทคสนิทกันน่ะ..ฉันบอกพี่แทคให้ได้นะคะเด็กสาวพูดด้วยท่าทีเขินอาย

เอ่อ..บอกเค้าว่าให้เค้าติดต่อหาผมด้วยนะครับคนผิวขาวหยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองออกมา และรีบหยิบนามบัตรของตัวเองส่งให้เด็กสาวคนสวยทันที

"นามบัตรสวยจังเลยค่ะไปจ้างใครทำมาคะเนี่ย..มีนามบัตรแสดงว่าเป็นเจ้าของกิจการ จะจ้างพี่แทคทำงานเหรอ..โอ้ยรายนี้งานรัดตัวมากเลยน้า..จะปลีกตัวมารับงานเพิ่มได้อีกเหรอ...คนบ้าอะไรไม่รู้วันๆทำแต่งาน..." เด็กสาวเบ้หน้าแสดงความน้อยใจออกมาจนนิชคุณรู้สึกได้ แต่มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่คนสนิทกันจะมีความคิดน้อยใจกันบ้างละนะ

"เอ่อ..เค้าทำงานที่ไหนบ้างพอทราบไหมครับ" นิชคุณรีบถามเมื่อนึกขึ้นได้

"...5ที่ค่ะ" เด็กสาวชูนิ้วขึ้นมา5นิ้วประกอบคำพูดตัวเอง เธอตอบพร้อมเขียนแผนที่ที่ทำงานให้นิชคุณโดยไม่ได้เอ่ะใจอะไรเลย

"ถ้าคุณเจอเค้า..บอกเค้าว่า..ของที่เค้าตามหาอยู่ มันอยู่ที่ผมให้เค้ามาเอาของที่ผมนะครับ" คนผิวขาวก้มตัวให้เด็กสาวเล็กน้อยก่อนจะตรงดิ่งไปที่ที่ทำงานที่แรก

"ของที่พี่แทคหา.. ทำไมต้องทำท่าร้อนรนแบบนั้นด้วยน้า.." เด็กสาวเก็บนามบัตรลงกระเป๋าก่อนเดินเข้าบ้าน ทั้งเธอและนิชคุณต่างสวนทางกับแทคยอน

นิชคุณรู้สึกร้อนๆหนาวๆหลังจากแวะไปตามที่ทำงานของแทคยอน เค้ากลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ยังไงซะเค้าต้องหาตัวเจ้าของสร้อยให้เจอ คนผิวขาวรีบโทรตามหมีชานและอูยองให้ไปหาตัวแทคยอนที่มหาลัยแต่ไม่ใครเจอ

คนผิวเข้มกลับไปบ้าน เค้าพยายามตามหาสร้อยคอของตัวเอง เค้าคลำคล้ายคลับคลาว่าทำตกที่สนามหญ้า บางทีอาจเป็นสนามหญ้าที่บ้านเค้าอีกที่นึง แทคยอนรีบไปมหาลัยเพื่อทำเรื่องขอลากิจ เค้ากลับบ้านไปเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางและออกจากบ้านทันที คนตัวโตรีบโทรจองตั๋วเครื่องบินที่นั่งพิเศษ เค้ายอมเอาเงินเก็บที่มีทั้งหมดมาใช้เพื่อหาสร้อยที่แม่เค้าให้ไว้เมื่อหลายปีก่อน

"พี่.." จาง อูยองไปดักรอแทคยอนที่ตึกเรียน เด็กแก้มบวมยืนทำตาโตอึ้งเมื่อทราบข่าวจากอจ.ที่ปรึกษาของแทคยอน

"เอ่อพี่คุณ..พี่คนนั้นเค้า..ดูเหมือนจะขอหยุดเรียนไม่มีกำหนด.." อูยองวิ่งมาหาหมีชานที่สนามบอล เด็กหนุ่มรุ่นน้องมองหน้าหมีชานอย่างหวั่นวิตก

"ดร็อปเหรอ..หมอนั่นเป็นนักเรียนทุนนะ" ชานชองแหวว เค้าก็เป็นคนนึงที่อยากได้ทุนเรียน เค้าเบื่อที่ต้องทนขอเงินพ่อแม่ที่รวยมากๆ แต่เค้าก็ไม่ฉลาดพอ เค้าเลยต้องพยายามเพื่อจะให้ได้ทุนนักกีฬาทุกปี

"....บ้าชิบ...ถามอจ.สิ..ถามๆๆๆหมอนั่นดร๊อปไปทำอะไร..นายถามมารึเปล่า" นิชคุณรนรานจนออกอาการวิตกจริต เค้าไม่ชอบการรอคอยแบบไม่รู้ชะตากรรม

"พี่เค้าทำของหายอะ..เหมือนจะเป็นสร้อยคอของแม่น่ะ.." อูยองคุยกับอจ.ที่ปรึกษาของแทคยอนมา

"ซวยแล้ว!!" คนผิวขาวร้องลั่นจนอูยองตกใจ

"สร้อยหมอนั่นอยู่กับพี่นี่แหละ..พี่ก็ตั้งใจจะคืนให้วันนี้ตอนไปเยี่ยม" คนผิวขาวพูดเร็วจนลิ้นแทบพันกัน

"รู้ไหมหมอนั่นจะดร็อปไปไหน"นิชคุณถามอีก

"ไม่รู้ฮะพี่..อจ.ก็ไม่รู้..ตอนมาพี่เค้าดูเบลอๆมึนแล้วก็ออกไป..อจ.แกบอกแบบนี้อ่ะ"อูยองตอบ

"ซวยล่ะคนผิวขาวกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก

คงไปไม่นานมั้ง..คุงคุงนายใจเย็นๆก่อนสิ..มีสติหน่อย..รอดูวันสองวันก่อนก็ได้นี่ถ้าหมอนั่นไม่มามหาลัยจริงๆเราค่อยจัดการเรื่องนี้กันก็ได้ชานชองเค้ามือถือน้องเล็กไปคุยแทน

เกิดอะไรขึ้นเหรอ..มีอะไรรึเปล่าทำไมนายมาอยู่นี่หล่ะ..หรือวันนี้อยากลงซ้อมกับพวกพี่ คิมมินจุนโผล่มายืนข้างตัวควานชานชองเงียบๆจนทำให้หมียักษ์สะดุ้งโหยง

ไม่ซ้อม..ไม่แข่ง...ไม่ลงสนามชัดไหมครับชานชอนนิ่วหน้าใส่มินจุนก่อนจะรีบเดินแยกตัวออกจากอูยองทันที

พี่ทำอะไรผิดหล่ะเนี่ย..ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะมินจุนหันหน้ามองอูยองอย่างสับสน

ก็ปีที่แล้วพี่ตามสิงพี่หมีจนเค้าเกือบไม่ได้ทุนนักกีฬานี่..พี่หมียังโกรธพี่อยู่น้า...ทำไมพี่ไม่หาคนอื่นลงสนามแทนล่ะ

อูยองพูดเอื่อยๆก่อนจะเดินหนีมินจุนไปอีกคน

ย๊า!!..ก็พวกนายมันเก่งนี่..ถ้าฉันไม่คว้าตัวพวกนายจะให้ไปคว้า..ต้นไผ่ที่ไหนวะแล้วนี่พวกนายจะไปไหนกันเนี่ย  มินจุนตะโกนลั่นสนาม เค้าถูกน้องๆทิ้งกันไปหมดเลย

ไปติวหนังสือกะพี่คุณจางอูยองตะโกนตอบพี่แก่แดกูจากอีกฝ้ากของสนามเค้าหวังว่าคนแก่คนนั้นจะได้ยิน

"คุงคุงเป็นอะไรอย่าเหมอสิ..เดี๋ยวชานสอบตกนะ" ชานชองใช้ดินสอจิ้มมือเพื่อนร่วมรุ่น หลังจากที่นิชคุณเริ่มตั้งสติได้เค้าก็กลับมาบ้านเพื่อเตรียมหนังสือเรียนให้เพื่อนตัวใหญ่

"หึ..อืม..หมี. นายคิดว่าตอนนี้หมอนั่นทำอะไรอยู่..นายอยากเป็นนักโบราณคดีนี่...ถ้านายต้องหาวัตถุโบราณสักชิ้น..นายจะไปที่ไหนบ้างเหรอ" คนผิวขาวถามด้วยแววตาละห้อย

"แต่ถ้าหมอนั่นกลับมาวันนี้..คนที่ซวยคงเป็นคุงคุงนะ..ห่วงตัวเองดีกว่าไหม..ถ้าสร้อยนี่สำคัญกับเค้าถึงขนาดดร็อปเรียนไปตามหา..ถ้าเค้ากลับมาและไม่ได้มันคืน...ชานกลัวว่าเค้าจะเอาเรื่องนายนะ"  ชานชองตอบด้วยถ้อยคำเนิบนาบตามสไตส์หมีมึน

"แต่เค้าอาจเอาออกได้นะ..เค้าเป็นเจ้าของสร้อยนี่.." นิชคุณฉีกยิ้ม ตาโตเหมือนมีความหวัง

"แต่ถ้าเค้าถอดไม่ได้ล่ะ"  ชานถามกลับ พร้อมเอื้อมมือมาแตะสร้อยทองคำขาวเบาๆ

คุงคุง..ของๆใคร  ใครๆก็หวง..ถ้าเค้าอยากได้มันคืนละชานชองตอบ

"อ๋า!! คุณจะฆ่าพี่คิมก่อนที่หมอนั่นจะฆ่าคุณ....โอ้ยทำไมพี่คิมต้องมาทำให้เรื่องมันยากขึ้นด้วยนะ..หมอนั่นจะต้องโกรธมากแน่เลย" คนผิวขาวฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงานในห้องนั่งเล่น

อีกด้านนึงของอีกประเทศนึง แทคยอนเดินทางกลับมาบ้านเพื่อตามหาสร้อยคอของแม่ที่เค้าทำหล่นหายไป เค้านึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเค้าทำหล่นหายหรือเค้าลืมไว้ที่บ้าน นี่เป็นที่สุดท้ายที่เค้าจะออกตามหาแล้ว

"แทคแกพูดจาให้มันดีๆนะ..ทำไมทำตัวเป็นเด็กก้าวร้าวแบบนี้" เสียงทุ่มใหญ่ตวัดเสียงสูงใส่เด็กที่เดินกระแทกเท้าเข้ามาในบ้านพ่อเค้าอย่างถือตัวเอามากๆ

"แล้วพ่อทำอะไรอยู่..แม่ตายได้ไม่กี่วันก็เอานังนี่เข้าบ้านมานอนกกแล้วเหรอ" คนเป็นลูกแยกเขี้ยวขู่ฟ่อใส่หญิงสาวที่ดูอายุไม่น่าจะแตกต่างจากเค้ามากนัก

"แกเล่นยามารึไงแทค.. ดูหน้าตาสิโทรมจะเป็นศพ...แล้ว....แผลที่หัวไปโดนอะไรมา..แกโดนใครทำร้ายมา" ผู้เป็นพ่อเดินเข้าหาลูกชายเพื่อจะตรวจดูรอยแผลใต้ผ้าพันแผลอย่างห่วงใย

"อย่ามาโดนตัวผม..ออกไปห่างๆ..ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน" แทคยอนแยกเขี้ยวใส่พ่อบังเกิดเกล้าของตนก่อนจะสะบัดตัวหลบมือพ่อของเค้า

"แทค..หนูเป็นอะไรน่ะลูก" หญิงสาวสำทับเสริมด้วยเสียงอ่อนโยน

"ใครเป็นลูกแก..อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น..พ่อ..เห็นสร้อยแม่ไหม..แทคลืมไว้นี่รึเปล่า..แกเห็นรึเปล่า..รึแกเอาไป"แทคยอนเดินดุ่มๆเข้าหาผู้หญิงที่อายุห่างจากเค้าไม่มากและแถมยังตัวเล็กกว่าร่างกายเค้าเท่านึง

"หยุดนะแทค..แกเอามันไปเกาหลีด้วย..จำไม่ได้รึไง..เกิดอะไรขึ้น..ไปโรงพยาบาลกับพ่อเดี๋ยวนี้...ฉันจะเรียกโฮมาดูแลแก"  ชายผู้เป็นพ่อรู้สึกว่าลูกชายผิดปกติไปมาก บางทีแผลที่หัว กับการตามหาสร้อยที่หายไปคงเป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายเค้าก้าวร้าวขึ้น

"เดี๋ยว!! แทคแกจะไปไหน" ชายรูปร่างสูงใหญ่ร้องเรียกลูกชายแต่ไม่ทัน แทคยอนสะพายเป้พุ่งตัวออกนอกบ้านไปก่อน

"โฮนายช่วยจัดการเรื่องแทคให้ทีนะ "ผู้เป็นนายรีบโทรศัพท์สั่งลูกน้องตัวเอง เค้าต้องการได้ตัวลูกชายตัวเองกลับมาอยู่ในความดูแลให้เร็วที่สุด

"คุณคะ..ฉันว่าแทคอาจกลับไปเกาหลีก็ได้...ว่าแต่สร้อยนั่น..สร้อยของเธอรึคะ" ภรรยาสาวชี้ไปที่รูปแม่แทคยอนที่ติดอยู่ข้างผนังหนังบ้าน

"ใช่..ของขวัญวันครบรอบวันแต่งงานของเธอน่ะ..แล้วก็เป็น..ช่างเถอะ" ชายสูงวัยกล่าวเศร้าๆ

"ลูกชายคุณล่ะ..ตอนนี้เค้าทำใจเรื่องเราได้รึยัง" ชายหนุ่มพูดถึงลูกติดภรรยาสาว

"ถ้ารับได้เค้าคงมาเยี่ยมเราแล้วกระมั่งคะ..ตอนนี้ก็กลายเป็นเด็กดื้อไปแล้ว" หญิงสาวส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับการมีลูกอายุใกล้เคียงกัน

แทคยอนตรงดิ่งกลับเกาหลีทันที เค้าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่บ้านเกิดตัวเอง คนตัวใหญ่นั่งเครื่องบินด้วยความรู้สึกปวดหัวเวียนเกล้า ทำไมเค้าถึงได้ลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ได้ ตลอดเวลาตั้งแต่เด็กเค้าจะใส่สร้อยคอของแม่มาตลอด ไม่ว่าใครจะห้ามเรื่องราคาสร้อยที่แพงเกินกว่าที่นักเรียนม.ต้นจะเอามาใส่เดินโฉบไปโฉบมายังไง แต่แทคยอนก็ยังดื้อรั้นและเค้าก็ดูแลสร้อยแม่เค้ามาได้อย่างดี

 

แทคยอนแวะพักโรงแรมใกล้สนามบิน1วัน เค้าอยากพักและคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เมื่อถึงบ้านเค้ามีแผนการจะรื้อบ้านครั้งใหญ่

"พี่แทคไปไหนมาน่ะ..ควอนคิดถึงจะแย่แล้ว" เด็กสาวข้างบ้านยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู เธอชะโงกหน้ามาทักทายเพื่อนบ้านตัวโต

" เลิกแต่งตัวเป็นผู้หญิงเหอะเห็นแล้วขัดลูกตาหว่ะ..อยากอ้วก คนผิวเข้มตาขวางใส่เด็กเพื่อนบ้านอย่างเหลืออด

"โห!!..พี่แทคไม่เจอกันไม่กี่วันปากหมาขึ้นเยอะเลยนะ..กลับไปบ้านมาหรือครับ" โจควอนยังคงตื้อไม่เลิกเมื่อเห็นแบ็กแพ็คของแทคยอนดูน้อยกว่าปกติ

"นายเห็นสร้อยที่ฉันใส่ประจำไหม.." แทคยอนปิดประตูบ้านเข้ามา เค้าก้มลงตรวจตราหาสิ่งที่ต้องการ

"โอ๊ะ!!...พี่ทำของหายเหรอ..เมื่อ2วันก่อนมีคนมาถามหาพี่ เค้าบอกว่าว่าเค้าเก็บของพี่ได้..เดี๋ยวนะพี่เค้าให้นามบัตรไว้ด้วย" โจควอนรีบวิ่งเข้าบ้านไปหยิบแผ่นนามบัตรสีขาวดีไซน์หรูออกมาให้พี่ชายข้างบ้าน

" ถ้าพี่หาสร้อยเจออย่าลืมเลี้ยงข้าวตอบแทนด้วยนะ.." ควอนส่งจูบให้แทคยอนก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไปทั้งคอสเพลชุดผู้หญิง

แทคยอนอ่านชื่อที่อยู่เบอร์โทรในนามบัตรอย่างรวดเร็ว เค้ารีบโทรติดต่อเจ้าของนามบัตรทันทีแต่ไม่มีใครรับสาย คนตัวใหญ่รีบเปิดเนตหาข้อมูลเจ้าของบัตรทันทีเค้าพบว่าใครคนนั้นยังเป็นนักศึกษา และเรียนอยู่ที่เดียวกับเค้า เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ต่างคณะ บางทีเค้าคงต้องไปตามหาที่ภาควิชาของหมอนี่ แทคยอนรีบเก็บข้าวของ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและตรงดิ่งไปยังมหาลัย

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น